แม่เฒ่า 74 ปี พร่ำก่อนตายอยากเจอลูกหายจากกัน 37 ปี สุดท้าย นายอำเภอบางแพได้ช่วยสืบค้นและติดตามลูกชายสู่อ้อมอกของแม่ได้สำเร็จ
วันที่ 1 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 7 ม.4 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี หลังทราบว่ามีแม่เฒ่าได้พลัดพรากจากลูกชายนานกว่า 37 ปี โดยนายอำเภอบางแพได้ช่วยสืบค้นและติดตามลูกชายสู่อ้อมอกของแม่ได้สำเร็จ
ขณะไปถึง ผู้สื่อข่าวได้พบกับภาพวินาทีประทับใจเมื่อ นายเชน อารีกิจ อายุ 40 ปี พาภรรยาและลูกชายเดินเข้าไปก้มกราบเท้าและโผกอด นางแย้ม รุ่งสว่าง อายุ 74 ปี ผู้เป็นแม่ ด้วยความคิดถึงและร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปลาบปลื้ม
นางแย้ม รุ่งสว่าง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน นอกจากจะได้คร่าชีวิตลูกสาวคนโตแล้ว ยังทำให้สามีของตนได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง จนมีอยู่วันหนึ่งสามีได้แอบอุ้มลูกชายคนเล็ก อายุ 3 ขวบ หายออกจากบ้านไป ตนพยายามออกตามหานานกว่า 1 เดือน แต่ก็ไร้ร่องรอย อีกทั้งตนไม่รู้หนังสือจึงไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหน อย่างไร ตลอดเวลาจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความคิดถึงและเฝ้ารออย่างไร้จุดหมาย มีเพียง นางสุทวัณ อินทเกตุ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กลุ่ม อสม. และญาติๆ คอยเข้ามาช่วยดูแลไม่ให้รู้สึกเหงา มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิต กระทั่งสมหวังในวันนี้
นายสายชล จันทร์เพ็ญ นายอำเภอบางแพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่องของป้าแย้ม จึงได้ประสานให้ทีมฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องของการตรวจสุขภาพ และการติดตามหาทายาท โดยตรวจสอบจากทะเบียนราษฎร์ จนทราบว่า นายเชน มีภูมิลำเนาอยู่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงติดต่อพูดคุยกันทางโทรศัพท์ แล้วประสานให้ทั้ง 2 ได้มาพบหน้ากัน
นายเชน อารีกิจ เปิดเผยว่า เพราะจากแม่มาตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ จึงทำให้ตนจดจำช่วงเวลาที่อยู่กับแม่ไม่ได้เลย ทราบจากพ่อแค่เพียงว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาได้ที่ไหน กระทั่งตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ อ.บางแพ ว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ยอมรับว่าวินาทีนั้น ตนดีใจมากที่รู้ว่าแม่ยังคิดถึง และรอคอยที่จะได้พบหน้าตนเสมอมา
วันนี้ตนจึงตั้งใจพาภรรยาและลูกชายมารับแม่ไปอยู่ด้วยกัน เพื่อทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด โดยออกเดินทางจาก จ.ชุมพร มาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (31 พ.ค.66) ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ช่วยให้ตนได้พบกับแม่อีกครั้ง
ด้าน นางสุทวัณ อินทเกตุ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาป้าแย้มต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง โดยมีญาติๆ คอยดูแลช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้าน ทำให้ทราบว่าป้าแย้มมีปัญหาสุขภาพ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอายุที่มาก แต่สาเหตุหลักมาจากสภาพจิตใจที่เฝ้าห่วงหาลูกชายที่พลัดพราก
โดยป้าแย้มได้พูดเปิดอกกับตนว่า “อยากตาย อยากเจอหน้าลูก อยากมีความสุขในบั้นปลายชีวิต” จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้พวกตนทำภารกิจติดตามลูกชายสู่อ้อมอกแม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการตามหาประมาณ 1 สัปดาห์ และหลังจากได้พบกัน ตนเชื่อมั่นว่านายเชนและภรรยาจะทำหน้าที่ของลูกได้เป็นอย่างดีแน่นอน อย่างไรก็ตามพวกตนขอฝากป้าแย้มไว้กับพี่น้องชาว ต.หลังสวน จ.ชุมพร ด้วย
