ศาลยกฟ้องคดี "รัชฎา" อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ยื่นฟ้อง ตร.แกล้งให้ต้องรับโทษ

30 พ.ค. 66

ศาลยกฟ้องอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ร้องดําเนินคดี ผบก.ปปป.  ข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สร้างพยานหลักฐานเท็จ ชี้เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่

วันนี้(30 พ.ค. 66) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา คดีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กับพวกรวม 7 คน ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร"

โดยนายราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของนายรัชฎา เดินทางมาเพียงคนเดียวเพื่อรับฟังคําพิพากษาตรวจคําร้อง พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ในเบื้องต้นหลังจากมีการฟ้องร้องทางคดี ศาลมีคําสั่งให้ทางการบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (บช.ก) ชี้แจงเกี่ยวกับพฤติการณ์ในการเข้าตรวจค้นจับกุม ทั้งก่อนตรวจค้น ขณะตรวจค้น และหลังตรวจค้น ซึ่งทาง บช.ก. ได้ชี้แจงมาแล้ว ศาลจึงมีคําสั่งให้ฝ่ายนายรัชฎา คัดค้านการชี้แจง ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีสิทธินําหลักฐานเบื้องต้นเข้าสู่การคัดค้านหรือการชี้แจงได้

สําหรับในวันนี้ศาลนัดฟังผลการตรวจคําร้อง ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์น่าจะเข้าข่ายการกระทําความผิดตามคําฟ้อง ศาลก็จะมีคําสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้อง คือศาลจะพิจารณาเบื้องต้นว่าพยานหลักฐานที่นําเสนอเข้ามานั้นมีมูลในการกระทําความผิดหรือไม่ หากมีมูลและเห็นว่าคําฟ้องร้อง ดําเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ศาลจะมีคําสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

ทนายราชันย์ กล่าวเพิ่มว่า ในคดีนี้เป็นการฟ้องในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมของ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและการวางแผนตรวจค้นจับกุมนั้นโดยวิธีการส่งมอบเงิน เพื่อเป็นการแสวงหาพยานหลักฐาน จึงมองว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งคดีดังกล่าวยังไม่ได้พิสูจน์ต้นทางของเงิน แต่ทางคดีหากจะมีการพิสูจน์ที่มาของเงิน ก็พร้อมที่จะนําเสนอต่อศาล

อย่างไรก็ตามทนายราชันย์ ระบุว่าเงินของกลางในคดีมีอยู่เพียง 98,000 บาท ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนเงินอีกประมาณ 4 ล้านบาทนั้นที่พบเพิ่มนั้น เป็นเพียงการตรวจยึดในชั้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ซึ่งปัจจุบันเงินจํานวนดังกล่าวทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการไต่สวนเพื่อหาที่มาของเงิน

ทั้งนี้ภายหลังทนายราชันย์ เข้ารับฟังผลการพิพากษา ปรากฏว่าศาลพิพากษายกฟ้อง หรือไม่รับพิจารณา โดยให้เหตุผลว่าเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ปฏิบัติตามหน้าที่ แต่สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งทนายยืนยันว่านายรัชฎา จะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อไป

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส