เจ้าคณะแจง ไม่ผิด หลังเจอซีดีโป๊นับร้อยในห้องอดีตเจ้าอาวาส ยันไม่ได้ดู

24 พ.ค. 66

เจ้าคณะอำเภอ แจงไม่ผิด หลังพบซีดีโป๊นับร้อยในห้องอดีตเจ้าอาวาส ยันไม่ได้ดู ดูแต่วิดีโอพุทธประวัติ เผยไม่ตอบโต้ชาวบ้าน ปล่อยเป็นเรื่องกฎหมาย

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดบ้านกล้วย ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีชาวบ้านพากันเข้าไปเก็บกวาดจัดระเบียบข้างของสัมภาระภายในกุฏิพระครูรังษีสุนทรธรรม หรือหลวงพ่อสมหวัง อายุ 73 ปี อดีตเจ้าอาวาส ที่ถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ให้พ้นจากวัดไป ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.66 จากพฤติกรรมที่ชาวบ้านพบว่าไม่เหมาะสม บริหารเงินวัดไม่โปร่งใส ชอบดูหนังโป๊ และมีสัมพันธ์กับสีกาในห้องน้ำ ซึ่งเมื่อชาวบ้านเข้าไปเก็บกวาดจัดระเบียบสัมภาระในกุฏิอดีตเจ้าอาวาส ก็พบห่อใส่ซีดีหนังโป๊อีกนับร้อยแผ่น โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นของอดีตเจ้าอาวาส จึงได้พากันเรียกร้องให้คณะสงฆ์ทำการจับอดีตเจ้าอาวาสสึกขาดจากความเป็นพระ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียในพระพุทธศาสนา

ล่าสุด วันนี้ (24 พฤษภาคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสะแก อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามเรื่องนี้กับพระโสภณปริยัติวิธาน เจ้าคณะอำเภอเมืองนครราชสีมา แต่ปรากฏว่าพระโสภณปริยัติวิธาน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ระหว่างกักตัวในกุฏิ จึงยังไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ แต่มีหนังสือชี้แจงว่าเรื่องนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใน 3 ประเด็นแล้ว คือ 1.เรื่องอยู่ในห้องน้ำกับสีกาสองต่อสอง 2.เรื่องดูซีดีโป๊ และ 3 เรื่องเงินไม่โปร่งใส

คณะกรรมการสอบสวนได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่า เรื่องเข้าห้องน้ำสีกาสองต่อสอง ยอมรับว่าเข้าไปจริง เพื่อบอกให้โยมทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะท่อระบายน้ำตัน และแต่งตัวไม่เรียบร้อยเพราะอาพาธเป็นฝีที่ก้น รวมทั้ง ปฏิเสธไม่ได้ดูซีดีโป๊แต่อย่างใด มีเพียงเปิดดูวิดีโอพุทธประวัติเท่านั้น ส่วนเรื่องเงินดำเนินการทาสีกำแพงวัด มีการจ่ายค่าแรงและวัสดุแล้ว โดยมีหนังสือแจ้งให้ทราบตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ดังนั้นจึงถือว่าหลวงพ่อสมหวัง ไม่ได้มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด เจ้าคณะอำเภอจึงไม่มีมูลเหตุที่จะสั่งการให้หลวงพ่อสมหวังสึกออกจากความเป็นพระสงฆ์ได้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังญาติของพระครูรังสีสุนทรธรรม หรือหลวงพ่อสมหวัง อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านกล้วยที่เป็นข่าว ซึ่งทราบว่าขณะนี้หลวงพ่อสมหวัง ได้มาพักอยู่ที่บ้านญาติ ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา และไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ เพราะไม่ต้องการโต้ตอบกันไปมา ซึ่งจะทำให้วัดเสื่อมเสียโดยใช่เหตุ แต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมือง ส่วนเรื่องจะกลับไปอยู่วัดบ้านกล้วยเหมือนเดิมหรือไม่นั้น คงจะไม่ไปอยู่แล้ว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส