อาร์ต พศุตม์ เล่าเจอกระแสลัทธิเกลียดดารา ทำอะไรก็ผิด! พร้อมเปิดแนวทาง ดาราไม่อายทำกิน ขายดีจนต้องขยายธุรกิจ
พระเอกกล้ามแน่น อาร์ต พศุตม์ เคลียร์ประเด็นเจอกระแสลัทธิเกลียดดารา พร้อมเปิดใจหลังมีวลีดาราไม่อายทำกินและเล่าเรื่องเหลือเชื่อหลังผันตัวเข้าไปช่วยล้างป่าช้าจนเจอวิญญาณมาปลุกถึงที่ อีกทั้งยังเดตอาการป่วยคุณแม่ที่ถึงขั้นบอกว่าถ้าทำงานหนักอีกจะระงับการขายน้ำพริก ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บshow
พ่อค้าหมูกรอบ?
อาร์ต : แซ่บเหมือนพ่อค้า ทำสูตรกับคุณแม่เอง มันเป็นงานอดิเรกของผม 17 ปีที่อยู่ในวงการเพิ่งว่าง 3 เดือนติดๆได้หยุด เราเคยทำงานทุกวันตอนแรกก็ดีใจจะไปเที่ยว เราเล่นโทรศัพท์เพราะว่างแล้วก็คิดว่าเราทำอะไรอยู่ ไปหาอะไรกินเจอหมูกรอบอันนี้น่าทำ เพราะเราชอบกิน กะขายเพื่อให้มีไรทำ วันแรกทำมา 150 โล 2 ชั่วโมงหมด มีไปเรียนแต่เอามาปรับสูตรเรา
อาร์ต : จะขยายพื้นที่มากขึ้น วางโมเดลขายแฟรนไชน์ เดือนที่แล้วรายได้ 6 หลัก ทำงานแค่ 8 วัน ถ้าผมไม่ใช่ดาราอันนี้คืออาชีพหลักได้เลย เรื่องอายทำกิน ผมจัดการทุกอย่างที่เป็นหนี้ในชีวิตหมดแล้ว ผมไม่ได้ร้อนเงิน มีคำนึงที่อยากฝากเอาไว้ เค้าหารายได้เสริมและเค้าขยันที่จะหาเงิน
เจอลัทธิเกลียดดารา?
อาร์ต : ทำอะไรก็ผิด มันมีลัทธิเกลียดดารา คนพวกนี้ไม่ฟังเราก็ได้แต่ขอบคุณ เมื่อไหร่ที่มีคอมเมนท์พวกนี้ก็จะมีแฟนคลับที่เค้ารักคนทำมาหากินเข้าไปตอบเอง ผมไม่จำเป็นต้องเถียงแล้ว สร้างภาพเป็นดาราหากินไม่ใช่แล้ว เดี๋ยวนี้ในสังคมเห็นเยอะแยะที่คนมีชื่อเสียงออกไปทำผิดกฏหมาย ผมอยากเป็นนึงที่ทำให้คนออกมาทำมาหากิน แล้วสารที่ผมสื่อออกจากเซฟโซนตัวเอง เป็นดารายังไม่อายทำกินที่ไปยืนสับหมู
มีแม่เป็นไอดอล?
อาร์ต : หลายคนบอกผมเป็นดารามีต้นทุนอยู่แล้ว ผมเป็นเด็กบ้านจนมากๆ ตอนเด็กที่นอนยังไม่มี ผมมีทุกวันนี้ผมสู้มาตั้งแต่ 16-17 ผมทำงานมาตลอด จนมีวันนี้ ไม่ได้อยู่ดีๆได้มาเป็นดารา ผมมีตัวอย่างเป็นพ่อและแม่ที่ขยันมาก ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ตอนนี้ผมดูแลพ่อแม่มา 27 ปีแล้ว บอกพ่อแม่ไม่ต้องทำงานหนัก
แม่ทำน้ำพริกจนเข้าโรงพยาบาล?
อาร์ต : ใช่ครับ แม่เค้ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจโตอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก แต่พอมีความร้อนจากเตาขึ้นมามันทำให้ภูมิเค้าตกเค้าเป็นแบบนี้มารอบนึงแล้ว รอบนี้รอบ 2 ผมบอกว่าถ้าอาร์ตเป็นคนที่หาเงินยังเลี้ยงดูพ่อแม่ไม่ได้ แม่จะขยันแบบนี้ไม่ผิดเลย แต่ตอนนี้เราดูแลพ่อแม่ดีมาตลอด ดูแลตัวเองให้อาร์ตสบายใจว่าพ่อแม่จะแข็งแรง แล้วอาร์ตจะทำงานได้เป็นสุข ถ้าพ่อแม่ป่วยหรือต้องทำงานหนัก อาร์ตไปทำงานแล้วจะพะวงจะโทรหาทั้งวันทำงานไม่ได้ ตอนนี้แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
วันนี้คุณแม่ไม่ได้มา?
อาร์ต : เค้ายังมีอาการเวียนหัว ยังช้า เรายังไม่อยากให้เค้าเจอสภาพรถมันเหวี่ยงๆ
เคยบอกให้แม่เลิกทำมั้ย?
อาร์ต : ครั้งนี้แหละ ถ้าเป็นอีกครั้งนึงผมปิดแบรนด์เลยผมยอมขายเครื่องทุกอย่างที่มี อยากบอกแม่ดื้อให้มันน้อยๆหน่อย งอนให้มันน้อยๆหน่อย
สมัยเด็กๆ เกเร ดื้อ พ่อแม่ร้องไห้?
อาร์ต : เกเรทุกอย่างพ่อแม่ไม่เคยว่าเลย แต่จะไม่ชอบอยู่อย่างเดียวคือไม่เรียน เรารู้สึกเป็นเด็กบ้านจนไม่มีอะไร ผมโดนเชิญออกมา 4 โรงเรียน อันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่ร้องไห้ พอเราโตขึ้นได้มาทำงานในวงการบันเทิง ผมกลับไปเรียนในสิ่งที่ผมทำผิดตอนอายุ 25 เรียน 3 ปีครึ่งจบ จนเดินไปบอกพ่อกับแม่ว่าปลายปีไปรับปริญญากัน เค้าไม่รู้ เราก็ไม่ได้บอกว่าเรียนตอนนั้นอยู่กับแฟน
ตอนบอกไปรับปริญญาพ่อแม่ช็อคมั้ย?
อาร์ต : ช็อค เราเหมือนปลดล็อค เค้าก็มีน้ำตานิดนึง เค้าก็ถามไปเรียนยังไงไปเรียนเมื่อไหร่ แต่เค้าให้ทุน เราปลดล็อคเรื่องนี้ให้เค้า
มีไปล้างป่าช้า?
อาร์ต : ล้างป่าช้าอันนี้มันต้องจัด 2 ปีที่แล้วก่อนโควิด ผมรับปากเดี๋ยวจะช่วย โควิดมาก็ไม่ได้จัด จนเลื่อมาปีนี้ ละครหนังผิดพร้อมกัน ก็มีงานติดจ่อมาในวันที่ไม่ต้องไปล้างป่าช้าหลายครั้งมาก คิดว่ามันคงเป็นสิ่งทีเราต้องทำเพราะเรารับปากไว้แล้ว คิดว่าเป็นธรรมะจัดสรรอยากให้เราไปช่วย แล้วผมมีความสุขที่จะทำมัน
มีอะไรเกิดขึ้นแปลกหลังจากไปล้างป่าช้า?
อาร์ต : วันไปล้างป้าช่ามันร้อน อีกวันคนถามไปมั้ย เราก้บอกไป พอกลับบ้านมันแสบตัว ตอนกลางคืนก็คิดว่าเบี้ยวดีกว่าไม่ตั้งนาฬิกาปลุก ประมาณ 6 โมง เราก็ตื่นเองตาสว่าง จะนอนต่อนอนไม่หลับ ไม่รู้ทำอะไรก็เลยไปจะเป็นแบบนี้ทุกรอบ ไม่ได้งมงาย แต่เราเชื่อของเราแบบนี้
ชวนวิญญาณมานั่งสมาธิด้วย?
อาร์ต : ชวนแบบไม่ได้ตั้งใจ ไปทำบุญมา แล้วพอตอนกลางคืนถึงบ้านปกตินั่งสมาธิ เราก็คิดในใจตอนขับรถ เดี๋ยวไปนั่งสมาธิกันนะ เราก็ไม่รู้ว่าเราพูดกับใคร เราก็นั่งสมาธิอยู่รู้สึกมีคนมานั่งข้างๆทีละคนๆ ผมเปิดเสียงสวดมนต์ไปได้แล้วได้ยินเหมือนคนสวดตาม เราก็ลืมตามองก็ไม่มีใคร แต่เรานึกได้ว่าสงสัยไปชวนเค้ามาเอง
