เลือกตั้ง66 “องอาจ-มาดามเดียร์” ลุยฝั่งธน ช่วยผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง

11 พ.ค. 66

 

เลือกตั้ง66 “องอาจ-มาดามเดียร์” ลุยฝั่งธนช่วยผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์ หาเสียง เล็งเข้าหากลุ่มคนยังไม่ตัดสินใจ เตรียมงัดจุดแข็งปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค.นี้

วันที่ 11 พ.ค. 66 น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ย่านบางบอน ช่วย น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางบอน-จอมทอง-หนองแขม หาเสียง เลือกตั้ง66

โดยขึ้นรถแห่ไปที่ ซ.กำนันแม้น ทักทายประชาชนในหมู่บ้าน แล้วลงเดินตลาดพิบูลย์วิทย์ 6 พบปะพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่มาจ่ายตลาดเย็น พร้อมฝากให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคนทั้งพรรค

จากนั้น ไปต่อที่ซอยประชาอุทิศ 69 สมทบกับทีมของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วย นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ หาเสียง โดยย่านนี้มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมาก

นายองอาจ กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า ยืนยันจุดยืนเดิมในการทำงานหนักเต็มที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขณะนี้เหลืออีกไม่กี่วันก็พยายามเน้นไปทุกจุดที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรค ก็พยายามไปกระตุ้นให้ใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด รวมทั้งชุมชนที่อาจจะยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ก็พยายามจะเข้าไปขอคะแนนเสียงให้การสนับหนุนพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ ก็จะพยายามรณรงค์ในพื้นที่ต่างๆ ให้มากที่สุด

ส่วนการปราศรัยใหญ่วันที่ 12 พ.ค.นี้ มีไฮไลท์ที่น่าสนใจอย่างไรนั้น นายองอาจ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค จะมาขึ้นเวทีปราศรัยทิ้งทวนในวันสุดท้ายก่อนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเน้นจุดแข็งของพรรคให้มากที่สุด คือความซื่อสัตย์สุจริต เป็นหัวใจสำคัญของพรรค และเรื่องนี้ทำให้ประชาชนให้การสนับสนุนพรรคมาโดยตลอด 77 ปี

อีกทั้งที่ผ่านมาประชาชนก็มีความกังวลในเรื่องของการดูดและซื้อ ส.ส. เป็นบ่อเกิดของความไม่สุจริต รวมถึงการซื้อเสียงด้วย และระบาดไปเกือบทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการนำไปสู่การทำการเมืองที่ไม่สุจริต พรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามจะเน้นสิ่งที่พรรคยึดถือมาโดยตลอดให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการสนับสนุนพรรค และเลือกผู้สมัครของพรรคทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กกต. อย่างมาก จนกังวลว่าวันที่ 14 พ.ค.อาจจะมีปัญหาอีกนั้น นายองอาจ กล่าวว่า การเลือกตั้งล่วงหน้ามีความบกพร่องหลายอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะ กกต.ชุดนี้ก็เคยผ่านการเลือกตั้งมาแล้วในปี 62 ไม่ใช่ชุดที่มาใหม่ และทีมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ในการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นข้อผิดพลาดต่างๆ ไม่ควรเกิดขึ้น

ขณะนี้ยังมีเวลาก่อนวันเลือกตั้ง เชื่อว่า กกต. เห็นข้อผิดพลาดแล้วควรรีบแก้ไข อย่าให้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้นอีก เพราะจะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในผลการเลือกตั้ง จะเป็นอันตรายมากต่อประชาธิปไตย ถ้าคนที่คุมกฎกติกาไม่สามารถรักษากติกาให้คนมีความรู้สึกเชื่อมั่นได้ ก็จะเป็นอันตรายมาก และถ้าคนไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทั้งที่เราพยายามรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม