ชาวเน็ตแห่แชร์หนุ่มโพสต์เรื่องราวถูกผู้สมัคร ส.ส.พรรคดัง ทำร้ายร่างกาย ต้องรักษาตัวกว่า 2 ปี ไร้การเยียวยา ถามกลับทำไมมีคดีติดตัวแต่ถึงสมัครรับเลือกตั้งได้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวถูกผู้สมัคร ส.ส.พรรคดังย่านปทุมธานี ทำร้ายร่างกาย ต้องรักษาตัวนานกว่า 2 ปี ไร้การเยียวยา จนกระทั่งคดีหมดอายุความ ต้องหนีมาสู้ชีวิตข้ามจังหวัด หวั่นชีวิตไม่ปลอดภัยเพราะคู่กรณีมีครอบครัวเป็นนักการเมือง โดยระบุว่า
"ผมขอเล่าเรื่องชีวิตบัดซบๆ ของผมทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องครับ ผมโดนทำร้ายร่างกายจนเกือบพิการ ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าไม่ได้รับโทษ 10 กว่าปีไม่คืบหน้าไม่มีการเยียวยาใดๆ ชีวิตครอบครัวผมต้องพังลง แต่ผู้ต้องหาพยายามฆ่าใช้ชีวิตสุขสบาย เขามาทำร้ายผมทำไม ผมยังไม่รู้สาเหตุเลยด้วยซ้ำ"
พร้อมกับรูปภาพเอกซเรย์สมองและใบแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระบุข้อหาว่า "พยายามฆ่า" จนกระทั่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ทราบว่าพักอยู่ในพื้นที่ของ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงได้ติดต่อและเดินทางมาพบกับเจ้าของโพสต์ โดย นาย น. ได้โชว์หลักฐานการแจ้งความและใบเอกซเรย์
นาย น. เปิดเผยว่าย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน โดยเหตุเกิดวันที่ 2 มิถุนายนปี 2549 ที่โรงเรียนชื่อดังในหมู่บ้านย่านรังสิต ตนได้เล่นกีฬาบาสเกตบอลอยู่แล้วไหล่หลุด จากนั้นโดนคู่กรณีตีหัว 3 ครั้งด้วยไม้หน้าสามจนล้มลงไปที่พื้น เขาก็ยังจะเข้ามาซ้ำอีก ตนรู้สึกตัวและมีสติอยู่ตลอด แต่ร่างกายอ่อนแรงขยับไม่ได้โชคดีที่พี่ชายกับเพื่อนได้ลงจากอาคารเรียนและเห็นเหตุการณ์พอดีจึงได้พาไปห้องพยาบาล
จากนั้นตนได้ถูกส่งตัวไป รพ.เอกปทุม ทันทีเข้าไอซียูอยู่ 3 วัน และเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช กะโหลกไม่แตก แต่กะโหลกยุบตัวลงไป ตนต้องนอนติดเตียง ใช้เวลาในการรักษาตัวและกายภาพพักฟื้นอยู่ร่วม 2 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ ตนเหมือนตกนรกทั้งเป็น ตนยอมรับเลยว่าในช่วงนั้นเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายก็บ่อยมาก มันเหนื่อย มันท้อ รู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ประโยชน์ ทำไมตนต้องมาเผชิญกับสิ่งนี้ จากที่ตนเคยเป็นนักกีฬาเคยเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียน ผลการเรียนค่อนข้างดี แต่สุดท้ายไปต่อไม่ได้เหมือนทุกอย่างมันหายวับไปกับตา
ส่วนตัวผู้ต้องหาและครอบครัวของเขาไม่เคยที่จะติดต่อตนพ่อแม่ตนเพื่อพูดคุยหรือแม้แต่จะมาขอโทษ พ่อตนไปแจ้งความจนขึ้นศาลเรื่องก็เงียบหายไม่ได้รับคำตอบ นัดไกล่เกลี่ยก็ไม่ได้ข้อสรุป จนที่บ้านท้อด้วยระยะเวลาที่ยาวนานต้องใช้เงินเป็นเรื่องที่ลำบากกับครอบครัวตนมากๆ
การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมทำให้สถานการณ์ที่บ้านมีความตึงเครียด พี่ชายและตนต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัว ตนและครอบครัวต้องผ่านความยากลำบากและอดทนรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมตลอดเวลาแต่กลับทำอะไรไม่ได้ วันนี้ตนต้องใช้ชีวิตไปพร้อมกับกะโหลกที่ยุบตัว แต่ผู้ต้องหาที่ต้องคดีพยายามฆ่ากลับได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ทำงานเป็นนักการเมืองและกำลังลงสมัคร ส.ส.พรรคดังในจังหวัดปทุมธานี ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังทำงานในราชการได้ ในเมื่อมีคดีพยายามฆ่าหรือคดีความหมดไปแล้วหรืออย่างไร
คนรอบข้างให้กำลังใจให้ตน พยายามบอกให้ตนสู้ ให้ตนเรียกร้องเพื่อความยุติธรรม เพื่อชีวิตของตน ที่ผ่านมาตนเงียบปล่อยผ่านไปเพราะทำอะไรไม่ได้จริงๆ ก็อยากจะให้เขาออกมารับผิดชอบการกระทำของเขาบ้าง ไม่ใช่เงียบหายและใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ในสังคมแบบนี้ และตนก็สงสัยว่าการลงสมัคร ส.ส.เขามีเกณฑ์วัดอย่างไรเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาสำนวนและคดีมาสอบสวนใหม่ เพราะตนคิดว่าไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรมกับตนมาก หรือเป็นเพราะคู่กรณีเป็นนักการเมืองจึงทำให้คดีเงียบหายไปเฉยๆ แบบไม่ต้องรับผิดอะไรเลย
