อาจารย์ ม.ดัง ฝันว่าบ้านหาย ตื่นเช้ามาบ้านไม้สักเหลือแต่ซาก สืบจนตามไปเอาผิดหัวขโมยได้

26 เม.ย. 66

อาจารย์ ม.ดัง ฝันว่าบ้านหาย ตื่นเช้ามาบ้านไม้สักเหลือแต่ซาก เผยตามสืบจนรู้ คนทำเป็นหญิงติดการพนัน รู้ว่าเจ้าของตัวจริงไม่ค่อยได้มา เลยสวมรอยเป็นเจ้าของบ้านขายไม้สักให้กับพ่อค้า

เฟซบุ๊ก อนุชาติ ธนัญชัย อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ โพสต์ภาพบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สักหลังหนึ่งที่ซื้อไว้ในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมเรื่องเล่าที่น่าตกใจ เนื่องจากปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวถูกยกเค้าถอดไม้สักไปหมดเหลือแต่โครง โดยก่อนหน้าที่จะรู้ตัวว่าบ้านถูกขโมย แต่มีคืนหนึ่งนอนฝันว่าบ้านหายพอไปตรวจสอบก็พบว่าบ้านหายไปแล้วจริงๆ โดยระบุว่า

อยากเล่าให้ฟังครับ ผมไปซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ณ จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือไปเดือนละครั้ง บ้านไม้สักสวยงาม และคืนหนึ่งผมฝันว่าบ้านหาย รุ่งเช้าให้ลูกชายสองคนพี่น้องขับรถไปดู เขาถ่ายภาพส่งมาให้ดูเป็นอย่างในความฝันเลย ผมไม่ตกใจเพราะทราบล่วงหน้าแล้วจะบอกเพื่อนๆ ว่า "ซื้อที่ไกลตานาไกลบ้าน" ถ้าไม่ไปอยู่อาจถูกบุกรุกหรือขโมยอย่างที่เห็น เลยตั้งสติบอกให้ลูกไปสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่ามากันเป็นสิบสองรถบรรทุก ช่วยกันรื้อวันเดียวไปกันหมด แต่เขาทิ้งร่องรอยให้ตามได้จับทั้งกลุ่ม ช่างรื้อถูกจ้างมาไม่ทราบว่าเป็นโจร ผมถามว่าคุณมีสองทางเลือกติดคุกทั้งกลุ่มกับชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เขาเครียดกันนะครับสูบบุหรี่มวนต่อมวน ผมบอกพรุ่งนี้ 11.00 น. มาพบกันที่ สน.เขามาตามนัด ปรึกษากันชดใช้ ผมคิดแค่ 70% รวมบ้านโอนที่ให้หัวหน้าเขาออกค่าโอนให้เขาอีกทั้งหมด จึงช่วยกันประกอบบ้านขึ้นมาใหม่

จากนั้นผมไม่ทราบว่าไปอย่างไรต่อ มีเกร็ดเล็กน้อยสิบกว่าคนตามไปที่บ้านคนจ้าง ที่บอกจ้างมารื้อบ้านเป็นผู้หญิง อีกนางติดการพนันอย่างหนัก นางจึงถูกคนทั้งหมดล้อมบ้านให้นำเงินบางส่วนมาชดใช้ นางต้องยอมทำตามโดยดี ผมบอกทุกคนขออโหสิกรรมให้กันและกันอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย งานเสร็จผมไปขอบคุณมอบของน้ำใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ น่ารักมากช่วยไกล่เกลี่ยจนทุกอย่างจบอย่างดีครับ อย่าลืมนะครับที่ไกลตานาไกลบ้านต้องระวัง ขอบคุณที่อ่านจบ ขอไม่บอกที่ไหนใครแล้วกันไปสบายใจที่สุดครับ"

ต่อมาผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ติดต่อไปยังนายอนุชาติ ซึ่งได้เล่าผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนเองนั้นเป็นคนชอบบ้านไม้จึงได้ไปซื้อบ้านหลังดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 50 กิโลเมตร แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าที่ไหนในราคา 3-4 แสนบาท เมื่อราวกว่า 10 ปีก่อน จากนั้นก็ได้ปรับปรุงจากบ้านไม้โทรมๆจนมาอยู่ในสภาพในรูปเป็นบ้านไม้ที่สวยงาม ปรับปรุงไปก็ราว 2-3 แสนบาท และบ้านแห่งนั้นก็จะเดินทางไปเดือนละประมาณครั้งถึงสองครั้ง จนทำให้มีคนจับทางได้ว่าบ้านของตนไม่มีคนอยู่และไม่ได้มาบ่อย จึงมีหญิงคนหนึ่งเป็นคนที่ติดการพนันพาพ่อค้าไม้มาที่บ้านของตน หญิงคนนั้นก็อ้างว่าเป็นบ้านของตัวเองและตกลงขายไม้สักให้กับพ่อค้าในราคา 6 หมื่นบาท พ่อค้าและลูกน้องจึงมารื้อถอนเอาไปขาย

และในคืนนั้นตนได้ฝันเห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวได้หายไป จึงให้ลูกชายขับรถไปดูก็ปรากฏว่าบ้านได้หายไปจริงๆ ตนจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกติดตามจนกระทั่งสามารถติดตามได้ที่ร้านขายไม้แห่งหนึ่ง ซึ่งทางพ่อค้าที่มารื้อบ้านไปนั้นก็ไม่รู้ว่าบ้านนี้เป็นของตน จึงมีการเจรจาตกลงกันว่าฝ่ายของพ่อค้าไม้นั้นยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และตนก็จะโอนที่ดินให้ก็เป็นอันจบกันไปไม่ได้ติดใจเอาความอะไร และอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ใครที่มีบ้านหลายหลังแล้วไม่หมั่นเข้าไปดูบ้าน ให้หมั่นไปดูบ้านบ้างมิเช่นนั้นอาจโดนแบบตนได้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส