“กุ้งพลอย” น้ำตาคลอ ​ลั่นเหมือนเป็นแม่ขอทาน​อดเจอลูก​ 

14 เม.ย. 66

กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ เปิดใจหมดเปลือก เหมือนเป็นแม่ขอทาน​อดเจอลูก​ ลั่นขอใช้คำว่ากีดกันแบบชัดเจน


สำหรับ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ เปิดใจหมดเปลือกทั้งน้ำตา​เพราะอดีตสามีขู่ขึ้นศาล​ เธอเล่า​ ว่า​ "ซึ่งตัวเราไม่คิดว่าจะต้องไปเจอที่ศาลหรอกค่ะ มันไม่ได้เป็นช้อยที่อยู่ในใจเราตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเป็นตั้งแต่แรก การที่กีดกันมา ขอใช้คำว่ากีดกันแบบชัดเจนเลยดีกว่า ขอไปส่งที่โรงเรียน ไปรับบ้างก็ไม่ให้ ขอนอนกอดลูกบ้างก็ไม่ให้ ทำไมไม่มองถึงพ่อแม่คนอื่นเขาบ้างที่เลิกกันรากันไปแล้ว อย่าไปคิดถึงความเป็นสามีภรรยา มันกลับมาเป็นไม่ได้อยู่แล้ว

แต่การเป็นแม่ของลูก ต่อให้คุณพยายามจะกีดกัน หรือตัดออกไปจากชีวิตของลูกถ้าคุณลองมองอีกมุมหนึ่งของจิตใจของลูกคุณจะเข้าใจ ไม่ใช่ว่ากั๊กๆ กลัวๆ กล้าๆ ไม่รู้ว่าในใจกลัวอะไร แต่ก็กลัวแค่แม่คนเดียว จริงๆ เหตุการณ์นี้ไม่อยากสัมภาษณ์แล้ว อยากให้มันจบไป แต่การที่มันกระทบกระเทือนใจหลายๆ รอบเราเป็นแม่ เราไม่ใช่ผู้ชายบางทีเราก็อดทนอดกลั้นไม่ไหวเพราะมันหลายชอตแล้วนะคะ"

กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์

ก่อนหน้านี้เหมือนจะมีโมเมนต์ที่ดีขึ้นกับการได้วิดีโอคอล มันเกิดอะไรขึ้น?
" ไม่หรอก กุ้งพลอยว่าพี่เขาน่าจะเป็นคน 7 วัน 7 อย่าง อารมณ์นะ ไม่มีอารมณ์ที่เป็นมาตราฐานและตายตัว ถ้าเป็นอารมณ์มาตราฐานและตายตัว คิดอะไรแล้วมีหลักเป้าหมาย และชัดเจน มันจะไม่โลเลขนาดนี้ คิดว่าน่าจะเป็นผู้ชายที่มีอารมณ์ 7 วัน 7 อย่าง

เป็นเพราะว่าเราไปเซ็นหลังให้เขาดูแลฝ่ายเดียวมั้ย?
มนุษย์มีจริยธรรมการเป็นมนุษย์ ถ้าเรามีจิตการเป็นมนุษย์จริงๆ มันไม่อยู่ที่กระดาษหรอก
มันอยู่ที่ความรู้สึกของลูก แต่เมื่อไหร่ที่เราไม่มีความเป็นจิตเป็นมนุษย์จริยธรรม มันจะไม่มีหรอก เราจะเอากฏหมายเป็นที่ตั้ง เอาความรู้สึก ความถูกต้อง ความถูกต้องของลูกต้องการแม่ เพราะฉะนั้นมุมมองที่คนมอง 3 ปีแล้ว คิดว่าจะมองมุมไหน ไม่ผิด คิดว่าน่าจะมองถูก

อย่างเช่นโควิดก็กลัวติดจากเรา แต่ก็ติดจากพี่เลี้ยง เวลาที่โพสต์สังคมก็มองว่าเราเป็นอะไร แต่เราไม่พูดทั้งหมด เพราะฉะนั้นวันนี้ถึงบอกว่าความกลัวมันไม่มีอยู่แล้ว เพราะว่าความมีน้ำใจมันไม่มีให้เราเหมือนกัน กุ้งพลอยไม่ได้ทำร้าย ไม่ได้แฉ นี่ก็คิดว่าแมนพอ ครอบครัวคนอื่นเขายังทำได้ จูงมือช่วยกันวันสำคัญของลูก วันแม่กุ้งพลอยไม่ได้การ์ดวันแม่นะ แต่ติดตามในเพจของโรงเรียน

กุังพลอยเป็นเหมือนแม่ขอทาน กูไม่สู้ กูไม่ได้เจอลูก ป่วยก็ต้องรู้เองนะว่าลูกป่วย ต้องจี้เองถึงเข้าไปเจอลูกได้ เพราะเขาไม่มีกฎหมายห้ามแม่ไม่ให้เยี่ยมลูก แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าลูกป่วย ต้องสืบเอง เพราะเขาปิด การเป็นแม่ของกุ้งพลอยมันไม่ได้ง่ายๆ นะ"

กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์

จะได้เจอน้องวีจิอีกเมื่อไหร่?
" มันไม่มีกำหนดค่ะ ถ้าเขาอยากให้ไปฟ้อง เราต้องมาคิดอีกทีว่าพฤติกรรมและบริบทที่เขาทำตอนนี้มันจะไปถึงตอนนั้นหรือเปล่า แต่เราเป็นแม่ กลายเป็นว่า เราไม่อยากฟ้อง การโต้เถียงผ่านโซเชียลมันก็มากพออยู่แล้ว เราลองมาปรับทัศนคติมั้ย ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาปรับอยู่คนเดียว โดนสังคมประนามอยู่แค่คนเดียวเพราะพูดไม่หมด บางทีก็ปกป้องคุณด้วยซ้ำไป อึดอัดอะไรก็โพสต์ประจาน อย่างเบอร์มันเป็นเบอร์ของกุ้งพลอย บางเรื่องไม่ผิดก็ยัดเยียดให้"

พ่อกับแม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน กลัวจะมีผลกับลูกในอนาคตมั้ย จะอยู่ในภาวะสถานการณ์ยังไง?
" จริงๆ พ่อกับแม่ต้องไปแก้ค่ะ คนเดียว พยายามอยู่คนเดียวมันเป็นไปไม่ได้ อีกคนพยายามสู้เพื่อลูกทางพฤตินัยที่แท้จริง กับอีกคนไม่มีตรงนั้นจริงๆ ความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่แท้จริงมันไม่มี เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวกับว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้วไปกระทบถึงลูก ถ้าคนๆ หนึ่งเป็นฝ่ายทำอยู่คนเดียวมันก็ไม่เกิดมุมมองหรือภาพที่ดีสำหรับลูกหรอกค่ะ"

ถ้าโตขึ้นแล้วลูกมีปัญหาแบบนี้จะบอกลูกว่ายังไง?
คิดว่าวันหนึ่งที่วีจิโตขึ้นมา วีจิจะฉลาด การที่วีจิเป็นคนดังตั้งแต่เด็ก มีคนรักตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งที่วีจิโตขึ้นมาจะได้รู้ว่าการที่โตมาในที่ที่มีแสง ต้องยืนอยู่ในวงการนี้ วันหนึ่งวีจิจะเข้าใจ โตมาอาจจะเจอเรื่องดีและร้ายเหมือนเรา วันหนึ่งเขาจะรู้ว่าจะต้องแก้ไขยังไง"

กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์

กุ้งพลอยบอกว่าไม่ต้องเอาตำรวจมาไล่ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหรอ?
"ช่วงแรกๆ หลายคนเวลาคอมเมนต์ในโซเชียลเขาก็จะแนะนำหลายๆ อย่าง เวลาเราอ่านก็จะบอกตัวเองว่า ทำมาหมดแล้ว แต่ไม่ได้อธิบาย แต่ถ้าวันหนึ่งที่ลองทำไปแล้วไม่เกิดผลในการต่อสู้เพื่อลุก ก็ถึงเวลาที่จะต้องปกป้องศักดิ์ศรีของความเป็นแม่บ้าง ผู้หญิงคนนี้ความอดทนมันเยอะนะ แมนๆ แกร่งๆ แต่พอถึงเวลาวันนี้เราไม่จำเป็นต้องทนแล้ว"

หลายคนมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพราะเราที่ทำให้ครอบครัวเป็นแบบนี้?
" ถ้าย้อนกลับไปเรามีสิ่งที่ผิดมั้ยมันก็มี กล้าพูดมาตลอด ก็พยายามแก้ไขแล้ว ไม่ได้ผิดหลายข้อด้วย ชีวิตคนเราที่เราทำมาดีๆ ไม่ได้ถูกยกขึ้นให้สังคมเห็นเหรอ ดีๆ เราก็ทำตั้งหลายเรื่อง แต่เราต้องยอมรับว่าเรื่องไม่ดีมันจะฉาว สังคมชอบเรื่องฉาวมากกว่าเรื่องดีอยู่แล้ว เราต้องทำความเข้าใจแก้ไขในหน้าที่ที่เราทำได้ เราทำได้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าเราต้องทำให้ดีมากกว่าที่ทุกคนต้องการมากกว่านี้ คงทำไม่ได้

ส่วนโพสต์อันนั้นเคยเข้าไปหาลุกแล้วเขาโทรหาตำรวจ และตำรวจก็แนะวิธีถ้าจะมาหาลูกอย่ามาในยาวิกาล 2 ทุ่มไปแล้ว อย่ามา อย่าพยายามเกินเข้าไปเกินรั้วบ้าน มันผิด มันกลายเป็นบุกรุก ถ้ามายืนแค่พื้นที่สาธารณะ ถนนและหน้าประตูบ้าน เขาไม่มีสิทธิ์เรียกตำรวจมาจับ

ส่วนเรื่อง รปภ.ไม่ให้เข้า เขาก็จะห้าม รปภ.ไม่ให้เราเข้าไป ความที่ รปภ. เขาเอ็นดูเรา อยู่ตรงนั้นก็ซื้อข้าว กาแฟตอนไปใส่บาตร เขาก็เห็นเราจูงมือลุกเดินเล่น ทักวันคนเดียว ไม่เคยเห็นพ่อจูงมือนะคะ เห็นแต่แม่นะคะ เพราะฉะนั้นเขาก็จะเอ็นดูเรา พาวิจีเดินตั้งแต่บ้านถึงป้อมยาม เป็นปัญหากับ รปภ. รปภ. ก็จะกราบเราเพราะเขาจะเอา รปภ. ออก จะเอายามออกที่ให้แม่เข้ามา แต่ไม่ได้เข้าบ้านนะคะ ก็จะให้ยามออก ฃ

แต่วันนี้เป็นวันเกิดของลูก และ รปภ. น่ารักมาก เขาให้เพราะเราบอกว่าเป็นวันเกิดของวีจิ ก็อนุญาตให้เข้าไปแต่ไม่ได้เข้าบ้าน และเราก็ต้องไม่ทำให้ รปภ. เดือดร้อน เพราะมันมีครั้งหนึ่งที่เขานั่งลงจะกราบ บอกคุณติ๊กออกไปเถอะครับ ผมไม่อยากถูกไล่ออก เราก็ท้อเหมือนกัน ก็ต้องกลับทั้งๆ ที่เรารู้ว่าอยู่บ้าน เพราะเขาเพิ่งลงคลิปเป่าเค้ก ก็ไม่เป็นไรเขาบอกว่าลูกหลับ ก็มีวิธีมาหาเหตุผลมาทำให้สบายใจได้ ทั้งๆ เหตุผลนั้นมันจะจริงหรือไม่ก็ตาม"

กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์

ต่อไปนี้จะเจอลูกยากกว่าเดิมมั้ย?
" น่ายากนะ ทำใจแล้ว แต่เราต้องมูฟออน ไม่ให้ใครคนหนึ่งมาทำให้เราวนลูฟความเจ็บปวดที่มีแค่เขาคนเดียวที่ลิขิตเป็นผู้กำหนดโชคชะตากุ้งพลอยให้เจ็บปวด โดยเอาเรื่องลูกมาเป็นเครื่องมือและโล่กำบัง"

มองเรื่องการฟ้องร้องยังไง?
"เอาจริงๆ การฟ้องร้อง ต่อให้เราทะเลาะกัน มันยังเบากว่าการไปฟ้องร้อง ขอแค่คนเรามันมีเมตตา มนุษย์จริยธรรมข้างในมันไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ลูกไม่ได้ออกมาจากคนเดียวได้ มันต้องทำด้วยกัน มันต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ทำด้วยกัน ลูกออกมาน่ารักแล้วไม่แยแส เห็นแก่ตัวอันนี้เป็นอะไรที่กุ้งพลอยไม่ชอบ มันไม่แมน กุ้งพลอยไม่ชอบคนไม่แมน"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส