เชียงใหม่ ครองแชมป์อากาศแย่ที่สุดในโลก 6 วันติดต่อกัน รับรู้กลิ่นเหม็นไหม้ที่ลอยมากับหมอกควันได้ชัดเจน
สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่เข้าขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวันแล้ว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ วันนี้ (30 มี.ค.66) พบว่าปริมาณฝุ่น PM2.5 หนักกว่าวานนี้ สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ที่ลอยมากับหมอกควันได้อย่างชัดเจน
ขณะที่เมื่อเวลา 09.00 น. แอปพลิเคชั่น AirVisual ได้จัดอันดับดัชนีคุณภาพอากาศโลกพบว่าจังหวัดเชียงใหม่ประเทศไทยมีคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก โดยมีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 248AQI ระดับมลพิษทางอากาศที่มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรงค่า PM2.5 อยู่ที่ 198.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ด้านที่แอปพลิเคชั่น NTAQH ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จุดตรวจวัดที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงที่สุดอยู่ที่ อบต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ วัดได้สูงถึง 614 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่สูงที่สุดยังคงเป็นในพื้นที่เทศบาลหนองป่าครั่ง วัดได้ 321 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่วัดได้ 274 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีม่วง
ขณะที่ตามถนนสายต่างๆ เช่น ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ปกคลุมไปด้วยฝุ่น PM2.5 สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำลง ประชาชนที่สัญจรใช้ถนนรับรู้ได้จากอาการแสบหู แสบตา และคอแห้ง
ไรเดอร์ส่งอาหารรายหนึ่งเผยว่า วันนี้ฝุ่นควันค่อนข้างที่จะหนัก โดยอาชีพของตนคือการขับรถส่งอาหารได้สัมผัสกับฝุ่น PM2.5 โดยตรง ส่วนอาการนั้นก็มีแสบคอ แสบจมูก และแสบตา ต้องสวมหน้ากากอนามัยและสวมใส่แว่นขณะขับรถ นอกจากนี้ฝุ่น PM2.5 ยังส่งผลเวลานอนก็ทำให้หายใจลำบากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ออกมาเปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน โดยเครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ และทางหอบังคับการบินได้เปิดไฟนำร่องรันเวย์เพื่อช่วยให้นักบินสามารถมองสังเกตรันเวย์ได้จากระยะไกลอีกด้วย
