เมียสุดช้ำ! ท้อง 3 เดือน โดนผัวทหารโหด กระทืบเกือบแท้ง

29 มี.ค. 66

เมียสุดช้ำ! ท้อง 3 เดือน โดนผัวทหารโหด กระทืบเกือบแท้ง ด้านกองทัพภาคที่ 1 เด้งรับเสียใจ สั่งตั้งกรรมการสอบสวน ลงโทษ​กำลังพล ​30 ​วัน

วันที่ 29 มี.ค. 66 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย มาร้องเรียน กรณีถูกอดีตสามีเป็นทหารยศสิบเอก ทำร้ายร่างกายขณะตั้งครรภ์ 3 เดือน ทั้งกระทืบ เตะ ต่อย นั่งทับท้องจนซี่โครงร้าว น้ำคร่ำแตก เลือดออกในช่องคลอด จนเกือบแท้งลูก

น.ส.เอ เล่าว่า ตนได้คบหากับทหารนายหนึ่ง ยศสิบเอก สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ช่วงเดือน มิ.ย.65 ตอนคบหากันในช่วงแรก แฟนดีกับตนทุกอย่าง จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแฟนที่แฟลตในค่ายทหาร จ.ชลบุรี ต่อมาทำร้ายร่างกายครั้งแรกในช่วงเดือน ต.ค. 65 เหมือนแฟนควบคุมสติไม่อยู่ หมอวินิจฉัยว่า กระดูกซี่โครงร้าวและมีรอยฟกช้ำตามตัว นอนเป็นไข้ 3-4 วัน แต่สุดท้ายก็ยอมให้อภัยแฟน

น.ส.เอ เล่าอีกว่า ต่อมาเดือน พ.ย. 65 โดนทำร้ายร่างกายครั้งที่ 2 เดือน ธ.ค. 65 โดนทำร้ายร่างกายครั้งที่ 3 เดือน ม.ค. 66 โดนทำร้ายร่างกายครั้งที่ 4 หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น พบว่าตนเริ่มตั้งครรภ์แล้ว จนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 โดนทำร้ายร่างกายครั้งที่ 5 ขณะตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แฟนมีอาการหึงหวง ขอดูโทรศัพท์ตนก็ให้ไป พอตนดูคืนบ้างเพราะจับได้ว่าแฟนนอกใจ ทำร้ายร่างกายตนซ้ำอีก พอแฟนควบคุมสติตัวเองได้แล้ว ก็พาไปที่โรงพยาบาล มีการตรวจชีพจรเด็กเห็นว่าปลอดภัย แต่มีสภาวะครรภ์ไม่แข็งแรง จึงให้กลับมาพักที่บ้าน พอกลับมาแฟนก็ไล่ตนออกจากบ้าน

“ทุกครั้งที่โดนทำร้ายร่างกาย แฟนจะทุบตีจนกว่าจะพอใจ ไม่สนใจว่าจะเลือดออก เจ็บหนักขนาดไหน พออ้อนวอนแล้วก็โดนทุบตีเหมือนเดิม โดยแฟนใช้การฝึกของทหาร นำมาใช้กับที่บ้าน และยังบอกว่าสิ่งที่โดน มันยังเทียบไม่ได้ เพราะตอนฝึกทหารตัวเองโดนหนักกว่านี้ คนทำชั่วต้องได้รับบทลงโทษ” น.ส.เอ กล่าว

น.ส.เอ บอกอีกว่า จากนั้นตนก็ย้ายมาอยู่กับน้องสาว แฟนก็โทรมาง้อตลอด ขอให้กลับไปอยู่ด้วย แต่พอกลับไปแฟนบอกก็ยอมรับว่ามีแฟนใหม่แล้ว ตนพยายามบอกว่า ถ้าอยากเป็นครอบครัว ให้เลิกคุยกับผู้หญิงคนอื่นแต่แฟนไม่ยอม ตนจึงเดินทางกลับไปอยู่กับน้องสาว และตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี หลังจากนั้นมีผู้ใหญ่ในค่ายทหาร โทรมาขอให้ตนจบเรื่อง โดยบอกว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสามารถพูดคุยกันได้ ไม่ต้องถึงขั้นไปแจ้งความ เพราะมีบทลงโทษเบื้องต้น สั่งขังแฟน 30 วัน พอมารู้ทีหลังว่าแฟนไม่ได้ถูกลงโทษตามที่ผู้ใหญ่บอก เนื่องจากขณะที่แฟนโดนขัง ยังทักมาหาอยู่เลย ทำให้ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้าไปช่วย มีผู้ใหญ่เข้ามาพูดคุยเจรจา โดยเสนอจะรับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งมีการพูดคุยข้อตกลงกันที่ สโมสรทหารบก แต่หลังจากนั้น เมื่อมาทวงถามเอกสารข้อตกลง ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ยังพบว่าในข้อตกลงเรื่องการพาผู้เสียหายไปรักษาร่างกาย ทางหน่วยงานได้พาผู้เสียหาย ไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่กลับพาไปห้องผู้ป่วยจิตเวช โดยบอกว่า เป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง จนผู้เสียหายติดต่อตนมา ถึงจะได้ย้ายไปพักที่ห้องวีไอพี 

กัน จอมพลัง บอกอีกว่า หลังจากนั้นทางหน่วยงาน ได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูดคุย ซึ่งบังคับให้ผู้เสียหายเขียนจดหมายข้อตกลงใหม่ ซึ่งรายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ระบุว่า "หากมีการรับเงินเยียวยาแล้ว จะไม่สามารถดำเนินคดีกับนายทหารคนดังกล่าวได้" โดยนักสังคมสงเคราะห์คนนี้ บอกว่า "ให้รับเงินไปจะได้จบๆ กำขี้ดีกว่ากำตด” แต่เมื่อผู้เสียหายทักท้วงว่า ข้อตกลงไม่เหมือนเดิม นักสังคมสงเคราะห์ กลับฉีกกระดาษนั้นต่อหน้าผู้เสียหาย โดยอ้างว่า ผู้เสียหายพูดคุยตกลงกันยาก หลังจากนั้นตนและทีมงาน จึงรีบไปพาตัวผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลทันที โดยพาไปตรวจร่างกายอีกโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมีความเครียด แต่ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง และไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับจิตเวช ซึ่งมีเอกสารหลักฐานใบรับรองแพทย์ชัดเจน

ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า หน่วยต้นสังกัดของกำลังพลดังกล่าว ได้ให้การช่วยเหลือผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยากับกำลังพล โดยการรับรู้ของญาติทั้งสองฝ่าย ด้วยการนำเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 66 พร้อมกันนี้หน่วยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ลงโทษทางวินัยกำลังพลขั้นต้นจำขัง 30​ วัน​  โดยโทษสถานอื่นอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการฯ สำหรับคดีทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องส่วนตัว หน่วยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ให้เป็นไปตามกฎหมาย

กองทัพภาคที่ 1 ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่กำลังพลได้แก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว ซึ่งหน่วยต้นสังกัดได้ดำเนินการลงโทษฐานผิดวินัยทหาร ในขณะเดียวกันพร้อมที่จะประสานความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมตามกฎหมาย เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 1 จะติดตามความคืบหน้าทางคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย และกำชับให้หน่วยต้นสังกัดอำนวยความสะดวกทั้งปวงในการคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว การดำเนินการใด ๆ ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงผลกระทบทางด้านจิตใจ และสภาวะทางสังคมอย่างรอบด้าน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส