“สุวัจน์” จัดสังเวียน เปิดศึกชิงเก้าอี้ ส.ส. 16 เขตโคราช ชูโคราชโนมิกส์ เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา จำลองเวทีมวย พร้อมเป้าชก เพื่อชัยชนะ
วันที่ 27 มี.ค. 66 ตั้งมั่นปักธงบ้านเกิด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ชูนโยบาย “โคราชโนมิกส์” เตรียมสู้ศึกการเลือกตั้ง และขับเคลื่อนประเทศ บนแนวคิด “งานดี-มีเงิน-ของไม่แพง”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีความมุ่งมั่นที่จะต้องได้ชัยชนะที่ จ.นครราชสีมา ต้องทวงแชมป์คืน กลับมาเป็นแชมป์ที่โคราชให้ได้ เพื่อที่จะได้มาผลักดันโครงการที่สําคัญ ดึงนักลงทุนต่างๆ มาลงทุน โดยอาศัยความได้เปรียบของภูมิรัฐศาสตร์ บวกกับนโยบายโดยภาพรวมทั้งประเทศของพรรคชาติพัฒนากล้า เรื่อง “งานดี มีเงิน ของไม่แพง”
ฉะนั้น เรามีความมั่นใจว่าในการเลือกตั้ง66 ครั้งนี้ โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา ต้อง คัมแบคเป็นแชมป์ที่โคราชแน่นอน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เปิดตัวผู้สมัครทั้ง 16 เขต เอาขึ้นเวทีมวยชกครบทุกเซต แต่ไม่ใช่ว่าจะไปต่อยไปหาเรื่องกับใคร พรรคชาติพัฒนากล้าไม่มีเรื่องมีราวกับใครอยู่แล้ว เรามีแต่เพื่อน แต่วันนี้ที่ใช้เวทีมวยเป็นการเปิดตัว เพราะมวยคือการต่อสู้ วันนี้เราต่อสู้กับปัญหาของประเทศ เรามีผู้สมัคร 16 คน ก็ปัญหาของประเทศมา 16 ข้อ ปัญหาที่เราต้องไฟท์ก็เลยใช้เวทีมวย และให้ผู้สมัครแต่ละคนต่อยกับปัญหา สู้กับปัญหา ฉะนั้นยืนยันได้ว่าพี่น้องประชาชนมั่นใจในในพรรคชาติพัฒนากล้า ในการเอาจริงเอาจังในเรื่องนโยบายทํางานกันจริงๆ
สำหรับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น ประธานพรรคฯ กล่าวว่า จะตามรัฐธรรมนูญเสนอได้ 3 ท่านอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา มีอยู่แล้วก็ต้องระดมสรรพกําลังกัน ระดมผู้มีประสบการณ์ ระดมความรู้ความสามารถ เพราะบ้านเมืองวิกฤตจริงๆ สุดท้ายแล้วพี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
ทั้งนี้บรรยากาศในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้าครั้งนี้ จำลองเวทีมวย พร้อมเป้าชก ให้ว่าที่ผู้สมัครแนะนำตัว และชกเป้าหมาย เพื่อชัยชนะ โดยมีประธานพรรคฯเป็นโปรโมเตอร์ เรียกเสียงเชียร์จากแฟนคลับอย่างสนุกสนาน จากนั้นเป็นการปล่อยขบวนรถแห่ทั้ง 16 คัน โดยมีกลุ่มรถบิ๊กไบค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson) จำนวน 10 คัน นำขบวนแห่รอบเมืองมากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และเดินทางไปกราบพระชัยเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
