สาวศัลยกรรมหน้าอก หลังผ่าไม่ถึง 6 ชม.เสียชีวิต ญาติร้องตรวจสอบสาเหตุ

27 มี.ค. 66

สาววัย 37 เสียชีวิตหลังผ่าตัดทำหน้าอกไม่ถึง 6 ชั่วโมง ญาติเก็บศพยังไม่เผาเพื่อรอชันสูตรอีกครั้ง เชื่อว่าสาเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.เวลา 04.00 เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรค์ได้รับแจ้งเหตุ เมื่อมาถึงพบหญิงสาววัย 37 ปี ทราบชื่อ นางสาวกนกวรรณ นอนนิ่งอยู่บนโซฟาหลังจากศัลยกรรมหน้าอกได้ไม่ถึง 6 ชั่วโมง จึงรีบทำการช่วยปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากคุณหมอของโรงพยาบาลบางปะอินได้มาตรวจสอบพบว่าขาดลมหายใจแล้ว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพไม่สามารถปั๊มหน้าอกได้เพราะทำหน้าอกมา จากนั้นจึงแจ้งทางพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรศพต่อไป

จากการตรวจสอบได้ความว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตบินกลับมาจากประเทศบาห์เรนช่วงวันที่ 20 มี.ค. เพื่อมาทำการศัลยกรรมหน้าอกในวันที่ 23 มี.ค. และมีนัดผ่าตัดหน้าอกตอนช่วงเวลา 21.00 น.ที่คลินิกในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสร็จเวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากนั้นทางผู้เสียชีวิตเริ่มมีอาการซึมและมึนงง แล้วมีอาการไอ จนถึงบ้านเวลาเที่ยงคืน ผู้เสียชีวิตได้ขอนอนอยู่บนโซฟาและหลับไปจนกระทั่งเริ่มมีอาการปวดตามร่างกายซึ่งได้บอกกับน้องสาวและปวดหลังมาก มีอาการเจ็บปวด มีอาการเพลีย หลังจากนั้นไอหนักจึงได้นอนหลับไป ก่อนที่น้องสาวจะรู้สึกเป็นห่วงแล้วเข้ามาดูตอนช่วง 04.00 น.จากนั้นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 24 มี.ค.ได้ไปรับศพที่ธรรมศาสตร์และได้ใบจากชันสูตรศพมา แต่ก็ระบุเพียงว่าการตายครั้งนี้ มีเลือดออกบริเวณหน้าอกแต่ไม่ระบุว่ามีการผ่าตัดทำหน้าอกมา น้องสาวและแม่ของผู้เสียชีวิตจึงนำศพไปที่บ้านต่างจังหวัดนครราชสีมาเพื่อทำพิธีก่อน เพื่อทำการเผาและทำพิธี 3 วัน จนถึงวันที่ 27 มี.ค.66 แต่ก็ได้มาปรึกษากันเนื่องจากไม่เชื่อในการชันสูตรการตายของพี่สาว จึงได้พูดคุยกับทางญาติและให้เก็บศพไว้ก่อนและได้ร้องเรียนทางสื่อมวลชนเพื่อทำการช่วยเหลือ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชันสูตรศพอีกครั้ง เนื่องจากการตายครั้งนี้ไม่ได้ตายเพราะโรคอื่นเนื่องจากพี่สาวแข็งแรง ทางญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อว่าตายเพราะการผ่าตัดหน้าอก หลังจากทำพิธี 3 วันจึงกลับมาที่บ้านแล้วแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ

นางจำปี อายุ 59 ปีซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตได้บอกว่าตนนั้นขอความเป็นธรรม ให้สื่อช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับคลินิกดังกล่าว รวมทั้งขอให้ตรวจสอบศพของลูกสาวใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการตายครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องอื่น และอยากให้ทางคลินิกรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ติดต่อเกรงว่าคลินิกจะถวายทานและหนีไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส