ตาสุดทน! คว้าอีโต้ฟันคอหลานชายดับ อ้างเสพยามีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง

21 มี.ค. 66

ตาสุดทน! คว้าอีโต้ฟันคอหลานชายดับ อ้างเสพยามีอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของบ่อยครั้งตักเตือนก็ไม่ฟัง

วันที่ 20 มี.ค.66 เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ร.ต.อ.แดนนภา วงศ์พิมพ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ที่ 2 บ้านหนองควาย ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัย191 จุดเฝ้าไร่ แพทย์เวรโรงพยาบาลเฝ้าไร่

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ พบชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก บริเวณชั้นล่างของบ้านพบศพนายกฤตานนท์ สงวนนามสกุล อายุ 23 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่กลางบ้าน ลำคอมีร่องรอยถูกของมีคมฟันเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล เลือดไหลนองเต็มพื้น ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายสำรวย สงวนนามสกุล อายุ 62 ปี อยู่บ้านหลังเดียวกันและเป็นตาของผู้ตาย หลังก่อเหตุยืนรอมอบตัวไม่ได้หลบหนี พร้อมมีดอีโต้ยาวประมาณ 20 นิ้ว เปื้อนคราบเลือดเป็นหลักฐานส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถามทราบว่า นายสำรวยและภรรยา ได้เลี้ยงดูนายกฤตานนท์ คือหลานชายมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด ระยะหลังแม่ของนายกฤตานนท์มีอาการป่วยจึงกลับมาอยู่บ้าน แต่แยกไปอยู่ที่สวน นายกฤตานนท์อาศัยอยู่กับตายายเช่นเดิม แต่เป็นคนเกเร เสพยาเสพติด มักจะขับขี่รถจักรยานยนต์เสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านเสมอ และบ่อยครั้งที่มีอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในบ้านและรถยนต์ของตา

แต่ตาก็พยายามอบรมสั่งสอน ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าผู้เป็นตานั้นนิสัยดีมาก เกรงใจคนอื่น เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยฆ่าสัตว์ แม้ว่าหลานชายจะสร้างความเดือดร้อนให้ แต่ชาวบ้านเห็นแก่ตายายเลยปล่อยผ่านไป ก่อนเกิดเหตุหลานชายอาละวาดทำลายข้าวของส่งเสียงดัง ตักเตือนไม่ฟัง คาดว่าตาจะโมโหมาก จึงคว้ามีดอีโต้ในครัวฟันเข้าที่ลำคอหลานจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง และเบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น แล้วคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส