“อนุทิน” ย้ำเป้าหมายเดิม “พรรคภูมิใจไทย” ขอเสียงแตะ 100

21 มี.ค. 66

 

“อนุทิน” หวังเป็นพรรคแกนนำ ย้ำเป้าเดิม “ภูมิใจไทย” ขอเสียงแตะ 100 สร้างความปรองดอง ประชาชนอยู่ดีกินดี เน้นพัฒนาฐานราก

วันที่ 21 มี.ค. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมในการเลือกตั้ง66 และเราเตรียมมานานแล้ว จากนี้ก็มีแต่จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน

ที่ผ่านมามีการบอกว่า เราดำเนินการเพื่อไปเป็นพรรคตัวแปร แล้วร่วมรัฐบาล ขอบอกว่าถ้าคิดแบบนั้น เรามีแค่ 30-40 เสียงก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย แต่พรรค และหัวหน้าพรรคมองว่านอกจากโอกาสทำงาน เราต้องพาประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรือง อย่างมั่นคง มีความปรองดอง อันนี้สำคัญ และเป็นความโดดเด่นของพรรคเราด้วย เราต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมมือกัน เดินหน้าพัฒนาประเทศ

“เราต้องสร้างให้ประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่นๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ประชาชนต้องหาทางให้อยู่ดี กินดี ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท เราเลยมีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงจำนวน ส.ส.ที่พรรคจะได้รับ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะถึง 100 เสียง ปัจจุบันมีประมาณ 75 ที่นั่ง เป้าของเราไป 100 แล้วตอนนี้ 

เมื่อถามย้ำถึงตัวเลข 70 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า อันนั้นเป็นข้อมูลของโพลทั่วไป แต่เป้าของเราต้องแตะหลัก 100 

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราทำงานด้วยกันได้ มีผลงานทุกพรรค ประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดี อย่างกระทรวงทรัพยากรฯ ก็ทำงานดี ทุกพรรคตั้งใจทำงาน ภูมิใจไทยเราก็จัดการโควิดมีประสิทธิภาพ ต้องขอบคุณ ครม.กับ ภาคประชาชนที่สนับสนุน คมนาคมเราก็พัฒนาถนนหนทางการเดินทางสะดวกสบาย ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากมาย เป็นความร่วมมือที่ดี รัฐบาลผสมก็มีส่วนดี มันเช็กแอนด์บาลานซ์

เมื่อถามว่า แล้วจะเลือกใครเป็นนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอหลังเลือกตั้ง แล้วหารือกัน มันมีปัจจัยจำนวนมากให้ต้องคิด ทั้งเสียง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้ ทั้งท่าทีของ ส.ว.

เมื่อถามว่าการโจมตีทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทย กระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมมองว่าพรรคเรามีราคา ก็ต้องถูกด้อยค่า แค่นั้นเอง แต่เราไม่ไปสู้นะ ลุยหาเสียง สร้างความไว้ใจกับประชาชนดีกว่า การที่เรามาหยุดโต้ตอบ มันอาจจะทำให้เราพลาดลงพื้นที่ไป 10-20 ตำบล แล้วเรื่องที่เขาพูด มันก็ชัดอยู่แล้ว ว่าไม่เป็นความจริง อย่างเรื่องเงินเข้าธนาคาร 30,000 ล้านบาท มันเป็นไปได้ที่ไหน เงินเข้ามาขนาดนี้ ถูกตรวจสอบตาย แล้วมาบอกว่ามีทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม นี่ก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องยังไม่ผ่าน ครม.เลย กาลเวลาจะพิสูจน์เอง”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส