ตำรวจควบคุมตัว 2 เยาวชนมือปาระเบิดใส่คู่รัก รับเป็นคนทำสารภาพอ้างปาผิดตัว โกรธเพราะถูกอริข่มขู่ ส่วนระเบิดประกอบเอง
กรณีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ปาระเบิดขวดแก้วใส่รถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนทางมา ทำให้มีคนถูกไฟเผาไหม้ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยโพธิสาร ตัดซอย 2 พัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 02.30 น. ของคืนวันที่ 18 มี.ค.66
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 เร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากภาพที่ปรากฏออกมา เป็นการก่อเหตุลักษณะรุนแรงและโหดเหี้ยม ต่อมา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และทีมสืบสวน ได้ออกไล่กล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่เชื่อว่า คนร้ายใช้หลบหนี จนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่ก่อเหตุ เป็นแก๊งวัยรุ่นในพื้นที่เมืองพัทยา จนสามารถไปควบคุมกลุ่มเยาวชนผู้ต้องสงสัยได้ 8 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 1 คน อายุระหว่าง 16-19 ปี จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับของกลาง เป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไอ 110 สีน้ำเงิน ทะเบียน 3กล-3594 ชลบุรี และ หมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว 1 ใบ
หลังสอบนานกว่า 3 ชม. 2 ใน 8 เยาวชนให้การรับสารภาพว่า เป็นคนปาระเบิดขวด โดยมือปาระเบิดนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ชื่อ นายดี อายุ 17 ปี เป็นเยาวชนชาวกัมพูชา ส่วนคนขี่ คือ นายณัฐพล หรือ มิว อายุ 18 ปี ทั้งคู่อ้างว่า “ปาผิดตัว” โดยก่อนก่อเหตุถูกวัยรุ่นคู่อริขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวสป้า ใช้อาวุธปืนข่มขู่บริเวณถนนสุขุมวิท ก่อนทางลงอุโมงค์พัทยากลาง ด้วยความโกรธแค้น จึงพากัน ขี่ตระเวนติดตามหา กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้อาวุธปืนขู่ จนมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นคนเจ็บมีลักษณะขี่รถเวสป้า สีตรงกัน กับวัยรุ่นคู่กรณี จึงปาระเบิดใส่ โดยไม่รู้ว่า ใช่คู่กรณีตัวจริงหรือไม่
ส่วนระเบิดขวด นายดี เยาวชนชาวกัมพูชา ผลิตขึ้นมาเอง โดยซื้ออุปกรณ์มาจากแอปฯ็อปปิ้งออนไลน์จากนั้นนำมา ดัดแปลงประกอบ เป็นระเบิด โดยศึกษาวิธีมาจากในเว็บไซต์หนึ่ง
พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นตั้งข้อหา เยาวชนทั้ง2 คน ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหา พรบ.วัตถุระเบิด อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของกลไลการระเบิด หากพบว่าเข้าข่าย ก็จะดำเนินการในคดีนี้ด้วย อีกทััง คดีดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายบ้านเมือง อีกทั้งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ไม่ควรที่จะมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้น สภ.เมืองพัทยา จึงขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมวิงวอนผู้ที่คิดจะก่อเหตุ ทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองหรือกระทำผิดกฏหมาย ได้หยุดการกระทำนั้นเสีย
