น้ำใจหลั่งไหล! ช่วยเหลือ "น้องแก้ม" นักเรียนชั้น ม. 2 ดูแลยายพิการเพียงลำพังในบ้านเก่าทรุดโทรมใกล้ถูกยึด ล่าสุดปิดรับบริจาคแล้ว
3 มี.ค. 2566 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า “ เมื่อลูกนักเรียนชั้น ม.2 เด็กหญิงรัตติยา พิสุทธิบงกช น้องแก้ม มาปรับทุกข์ให้ฟังว่า ครูขาหนูท้อกับชีวิตมาก ตอนนี้หนูลำบากเหลือเกิน หนูอยู่กับยายที่ตาบอด 2 คน ล่าสุดหนูเพิ่งรู้ว่ายายเอาที่ดินไปจำนองเขาไว้ ตอนนี้ยายไม่มีเงินจ่ายดอกเขา"ไม่เป็นไรนะ...ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก เราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน พาครูไปบ้านหนูหน่อยนะ" สภาพบ้านอย่างที่เห็น หนูจะเอากับข้าววางไว้ที่เดิมที่ๆ ยายจะคลำทางไปกินได้
เวลาที่หนูไปโรงเรียน ตาของยายเพิ่งจะมาบอดเมื่อปีกว่าๆ หนูลำบากมาก มีน้าคนเล็กที่พอจะหยิบยื่นอาหารมาให้หนูกับยายบ้าง เพราะน้าเองก็มีฐานะยากจนนัก ทางโรงเรียนจะช่วยเหลือเบื้องต้น คือค่าขนม สัปดาห์ละ 200 บาท มันอาจจะเป็นเงินน้อยนิด แต่มันก็สามารถต่อชีวิตคนที่ไม่มีได้ ครูรับเคสนี้ไว้ดูแล และจะหาทางช่วยเหลือต่อไป *ได้รับการอนุญาตจากนักเรียนและผู้ปกครองในการเผยแพร่ภาพถ่ายลงโซเชียลแล้วค่ะ
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวได้โพสต์แจ้งรายละเอียดอีกครั้งระบุว่า “ณ เวลานี้ ครูขออนุญาต แจ้งปิดยอดการโอนนะคะ เนื่องจากตอนนี้น้องได้รับเงินบริจาคเพียงพอกับการไถ่ถอนจำนองบ้านแล้ว และเหลือเป็นทุนการศึกษา ให้น้อง คุณครู ขอขอบพระคุณน้ำใจทุกๆ ยอดการโอนนะคะ วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2566 ปิดยอดรับบริจาค น้องแก้มและคุณยายได้ไถ่ถอนที่ดินที่จำนองเป็นเงิน 29,000 บาทเรียบร้อยแล้วนะคะ โดยเงินที่เหลือจะแบ่งเป็นทุนการศึกษาของน้องต่อไปค่ะ
นางหนูคล้าย ซื่นใส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 บ้านโสกปลาดุก ออกมายืนยันว่า น้องแก้มอาศัยอยู่กับยาย ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบว่าสภาพบ้านเป็นบ้านไม้เก่าๆ ที่ผุพัง ห้องครัวห้องน้ำ ราวตากผ้าอยู่นอกบ้าน พบน้องแก้มกำลังเช็ดตัวให้คุณยายวัย 60 ปี ก่อนจะไปล้างจาน ก่อไฟหุงข้าว อย่างคล่องแคล่วแล้วค่อยกลับมานั่งพักเหนื่อย
ด.ญ.รัตติยา พิสุทธิบงกช (น้องแก้ม) เล่าถึงปัญหาชีวิตพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ที่บริจาคเงินผ่านทางโรงเรียน ว่ารู้สึกตื้นตันใจเหมือนได้ชีวิตใหม่ หลังทราบว่ามีผู้ใจบุญบริจาคเงิน มาช่วยปลดหนี้ และจะนำเงินที่ได้รับบริจาคนี้ไปไถ่ถอนบ้านที่คุณยายนำไปจำนองไว้ในราคาเกือบ 30,000 บาท ส่วนที่เหลือก็จะนำไปปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่ผุพัง และเก็บบางส่วนเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว หนูขอขอบพระคุณทุกท่านที่มอบน้ำใจให้หนู ถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลมากในชีวิตหนู และหนูก็ขอยุติการการรับบริจาค เนื่องจากยังมีผู้ยากไร้ที่เดือดร้อน ยังรอความช่วยเหลือจากท่านผู้ใจบุญอยู่
อย่างไรก็ตามนางหนูคล้าย ชื่นใส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ก็ออกมายืนยันตรงกันกันกับเพจเฟจบุ๊ค Kitty Pink ว่าวิถีชีวิตน้องแก้มเป็นไปตามนั้นจริง โดยน้องแก้มอยู่กับยายเพียงลำพังสองคน โดยพ่อกับแม่แยกทางกัน ยายจะทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อแม่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ น้องแก้มเป็นเด็กที่ขยัน พูดจาเพราะ เป็นเด็กที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน จนคนในหมู่บ้านรัก ทุกเช้าจะทำกับข้าวให้ยายก่อนไปเรียน โดยจะทำกับข้าวเผื่อไว้ช่วงเที่ยงด้วย
