ทนายรณรงค์ เผย คดีน้องต่อ ยังไม่พบร่างอย่าด่วนสรุป หลังตร.ตั้งข้อหาแม่

1 มี.ค. 66

ทนายรณรงค์ เผย คดีน้องต่อ อย่าด่วนสรุป หลัง ตร.ตั้งข้อหาประมาทกับแม่ ชี้ยังไม่พบร่างจะบอกว่าเสียชีวิตไม่ได้ แสดงให้เห็นว่ารีบปิดคดีเกินไป

จากกรณีทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความว่า "ตำรวจตั้งข้อหาประมาทกับแม่น้องต่อเร็วเกินไป ยังไม่เจอร่างจะบอกว่าเสียชีวิตไม่ได้ แสดงให้เห็นว่ารีบปิดคดีเกินไป"

วันที่ 28 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ก็คือการจะตั้งข้อหาว่าใครทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตใครปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพแปลว่ามันต้องมีศพ เมื่อไม่มีศพน้องต่อกู้ภัยฯ ยังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับน้องว่าอาจจะคลานออกมาจากจุดที่แม่โยนลงไป แสดงว่าตำรวจยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเด็กเสียชีวิต 100% การที่ไม่มีหลักฐานที่ชัดมันมีแนวการตัดสินจากศาฎีกาเอาไว้อยู่ว่าไม่เจอศพ ยังสรุปไม่ได้ว่าตายจะเป็นแค่ผู้สูญหายไม่ได้เสียชีวิต 

จริงอยู่ นิ่ม รับสารภาพในชั้นตำรวจ ในชั้นอัยการ แต่เมื่อถึงชั้นศาลจะมีที่ปรึกษากฎหมายและจะมีทนายความ ทนายความเห็นว่า นิ่ม ผู้เป็นแม่ของเด็กไม่ได้รับความเป็นธรรม ทนายก็อาจจะให้ปฏิเสธข้อต่อสู้ และให้ศาลวินิจฉัยได้ ในเมื่อยังไม่เจอศพจะบอกว่า "ประมาททำให้ลูกตายได้ยังไง" จะซ่อนเร้นอำพรางศพได้อย่างไรในเมื่อยังไม่เจอศพ การไม่เจอศพและไปตั้งข้อหาดังกล่าวสิ่งที่ตามมาคือหากมีคดีอื่นจะบอกว่าใครฆ่าใครตาย ใครประมาททำให้ตายก็สำคัญ ในคดีน้องต่อ รู้ได้ยังไงว่าประมาท อาจจะเจตนาฆ่าก็ได้ การโยนเด็กลงไปถ้าเด็กยังมีชีวิตอยู่นั่นคือเจตนาฆ่าไม่ได้ประมาท แต่ถ้าเสียชีวิตแล้วนั่นคือปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ

"เอาหลักฐานที่มีเพียง นิ่ม รับสารภาพเพียงอย่างเดียวลงโทษเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นใครมาให้การกับตำรวจว่าเขาทำคนอื่นตายและบังเอิญตำรวจตามหาคนๆ นั้นไม่เจอเขาก็ถูกแจ้งข้อหากันทั้งประเทศซิ" ทนายรณรงค์ กล่าว

เบื้องต้น ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาได้เพียงให้การเท็จเพราะเพียงแค่เอาหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์จากกล้องวงจรปิดบ้านตรงข้ามมาประกอบว่าไม่มีผู้ชายมาอุ้มลูกไป ส่วนข้อหาอื่นยังแจ้งไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงมีแค่คำรับสารภาเท่านั้น ถ้าเจอศพคนตั้งได้ แต่ถ้าไม่เจอศพตั้งข้อหาไม่ได้ และที่สำคัญอย่าลืมขยายผลไปถึง "พุด" ที่อยู่ในเรือนจำด้วยว่ารู้เห็นขนาดไหน รู้เห็นอย่างไรบ้าง ให้การสอดคล้องกันไหมหรือให้การไปคนละทาง ถ้าให้ข้อมูลไปคนละทางก็แปลว่ามีคนโกหก

อยากฝากถามตำรวจนครปฐมด้วยว่า ย้อนประวัติ คุณนิ่ม กลับไปมีใครเป็นธุระจัดหาหรือมีใครที่มีอะไรกับเด็กและเยาวชนอีกบ้าง ดำเนินคดีย้อนหลังให้ด้วย ไม่ใช่ว่าปิดคดีเด็กหายได้แล้วคดีเป็นธุระจัดหาเกี่ยวกับทางเพศไม่ทำงานต่อ

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส