“คุรุสภา” เร่งเคลียร์ “คดีครู” ทำความผิดจรรยาบรรณกว่าพันคดี จัดการแล้ว 400 เหลือ 800 คดี แก้ไขต้นน้ำผลิตนักศึกษาครูรุ่นใหม่ตระหนักวิชาชีพ
วันที่ 13 ก.พ. 66 รศ.ดร.ศิริเดช สุชีวะ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กมว.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้อนุมัติออกและต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยเลขาธิการคุรุสภาให้แก่ผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตและขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบแล้วมีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้ามหลายพันราย
ซึ่งมี 1 รายที่ กมว.ไม่อนุมัติให้ต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากพบเรื่องร้องเรียนอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนประเด็นการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูนั้น กมว.จะเร่งพิจารณาคดีต่างๆ ที่มีเข้ามาทั้งคดีเก่าและคดีใหม่ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี จากนั้นเราจะมาวิเคราะห์คดีความผิดต่างๆ แยกเป็นคดีที่ครูกระทำความผิดอย่างจงใจและมีหลักฐานชัดเจน คดีที่ครูกระทำผิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
รศ.ดร.ศิริเดช กล่าวต่อว่า สำหรับการวิเคราะห์คดีต่างๆ ของครูที่ทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพนั้น ก็เพื่อต้องการนำไปแก้ไขปัญหาตั้งแต่กระบวนการผลิตครู ซึ่งเป็นต้นน้ำในการบ่มเพาะนักศึกษาครูให้ตระหนักถึงวิชาชีพที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่ว่าควรจะมีความเข้าใจสถานการณ์แบบไหนต่อวิชาชีพครู เช่น การเป็นครูมีสิ่งใดที่ควรทำและไม่ควรทำ เป็นต้น เพราะบางคดีที่เกิดขึ้นครูอาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิดการกระทำผิด แต่เพราะความไม่รู้ในสิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงบางกรณีอาจมีการปล่อยผ่านคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็อาจไม่ใส่ใจกับปัญหา จึงทำให้ปัญหาพฤติกรรมครูถูกสะสมไว้ ดังนั้นเราต้องทำให้สถาบันผลิตครูมองเห็นถึงภาพแผนผังการทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูในแต่ละรูปแบบว่าจะมีวิธีป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งเราจะต้องสกัดปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่ต้นทางการผลิตครู และเชื่อว่าปัญหาครูทำผิดจรรยาบรรณจะค่อยๆ หมดไปแน่นอน
“ขณะนี้ภารกิจของคุรุสภาในการจัดการคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับครูกว่า 1,000 คดี ซึ่งได้ดำเนินการจัดการไปแล้วประมาณ 400 คดี จนเหลือ 800 คดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ในจำนวนนี้มีบางคดีที่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนจนนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่บางคดีก็อยู่ระหว่างการสอบสวน หรือบางคดีได้ข้อยุติโดยที่ไม่มีบทลงโทษ เพราะไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้จะเร่งสรุปเคลียร์คดีที่ค้างอยู่ให้เสร็จโดยเร็ว” รศ.ดร.ศิริเดช กล่าว