พยานแฉ! เห็นชายเสื้อเหลืองอุ้มเด็กเข้าซอย (คลิป)

8 ก.พ. 66

วันที่ 8 ก.พ. 66 เข้าสู่วันที่ 3 การหายไปของ ด.ช.ต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ น้องต่อ อายุ 8 เดือน ตามคำกล่าวอ้างของ น.ส.พิไลภรณ์ ก่อเจริญ หรือ นิ่ม อายุ 17 ปี แม่เด็ก ระบุว่าเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 66 พบเห็นชายสวมเสื้อสีเหลืองยืนหันหลังเข้ามาในบ้านลักษณะอุ้มบางอย่าง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าลูกชายหายไป โดยบ้านเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตามที่นำเสนอข่าวแล้วนั้น

553664

เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม เดินทางลงพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในหมู่บ้าน โดยวันนี้สอบปากคำชาวบ้านในพื้นที่กว่า 11 ปาก 

147451

ในวันเดียวกันนี้ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้พาตัว นายวี เเสงสว่าง หรือ ลุงวี อายุ 78 ปี พยานคนสำคัญที่เห็นชายต้องสงสัย เดินชี้เส้นทางพร้อมกับจับเวลาเพื่อจะหาเวลาที่ใกล้เคียงตอนเด็กหายตัวให้มากที่สุด โดยเริ่มเดินจากบ้านของลุงวี มาที่ร้านค้าจุดเกิดเหตุระยะทาง 100 เมตร ใช้เวลาเดิน 1 นาที 8 วินาที 

214440

จากนั้นขากลับเดินจากร้านค้าจุดเกิดเหตุ ถึงบริเวณศาลพระภูมิ ปากซอยทางเข้าบ้านลุงวี ซึ่งเป็นจุดที่ลุงวีมองเห็นชายต้องสงสัย ระยะทางห่างจากร้านค้าจุดเกิดเหตุ 50 เมตร ใช้เวลาเดิน 1 นาที 5 วินาที

935519

"ลุงวี" เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ในวันเกิดเหตุ 5 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 07.00 น. ตนเองเดินออกจากบ้านไปร้านค้าหลังเกิดเหตุเพื่อจะไปซื้อกาเเฟเเต่คนขายไม่อยู่ โดยในบ้านเห็นน้องต่อนอนกินนมอยู่ ส่วนพ่อเเม่เเละหลานอีก 1 คน นอนหลับอยู่ ตนเองก็ยังพูดเเซวไปว่า "ไอ้ต่อ เอ็งตื่นคนเดียวเหรอ" ก่อนจะเดินกลับบ้าน

834097

เเต่ระหว่างทางเมื่อตนเดินถึงบริเวณศาลพระภูมิปากซอยทางเข้าบ้านก็ได้หันไปมองทางร้านค้าอีกรอบ เห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น ทำทีลับ ๆ ล่อ ๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในซอยที่อยู่เยื้องร้านค้า จากการสังเกตชายรายดังกล่าวย่อตัวเหมือนกำลังอุ้มอะไรบางอย่างเเต่ตนก็ไม่ทราบว่าใช่เด็กหรือไม่ โดยหลังจากเกิดเหตุตำรวจเชิญตนไปสอบปากคำที่โรงพัก 2 ครั้งเเล้ว ตนเองก็พูดเหมือนเดิมทุกครั้งยืนยันว่าเห็นจริง ๆ

สำหรับน้องต่อ เด็กที่สูญหาย ที่ผ่านมาตนเองก็เคยเข้าไปหยอกล้อเเต่ไม่เคยอุ้ม โดยน้องต่อเป็นเด็กเฟรนลี่เป็นมิตรกับทุกคน เเต่จะไม่ให้คนเเปลกหน้าอุ้มเด็ดขาด ดังนั้นคนที่จะอุ้มได้ต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกัน

215297

ในวันเดียวกันนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้จำลองการเดินจากบ้านหลังเกิดเหตุ ไปยังซอยที่มีพยานเห็นชายเเปลกหน้าเพื่อสำรวจเส้นทาง ทีมข่าวเริ่มเดินออกจากห้องนอนภายในบ้านออกมาตรงถนนกลางหมู่บ้าน เดินตามถนนไปประมาณ 10 เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยเเคบ ซึ่งเป็นซอยที่ลุงวีมองเห็นชายต้องสงสัยสวมเสื้อเหลือง กางเกงขาสั้น เดินเข้าไปในซอย เมื่อเดินเข้าไปพบว่าซอยนี้ค่อนข้างเเคบความกว้างประมาณ 1 เมตร ความลึกของซอยประมาณ 50 เมตร ในซอยมีบ้าน 5 หลัง เเต่คนที่อยู่ในบ้านทุกหลังบอกว่าไม่พบเห็นความผิดปกติใด ๆ

โดยบ้านหลังท้ายซอยเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล 1 ตัว ซึ่งหากมีคนเดินเข้ามาในซอยสุนัขจะเห่าเสียงดัง ถัดจากบ้านหลังสุดท้ายเป็นคันดินกันน้ำท่วม ถัดจากคันดินเป็นพื้นที่โล่งอยู่ติดกับถนนใหญ่

815056

นายช่าง เเป้นทองดี อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านหลังสุดท้ายเเละเป็นเจ้าของสุนัขพิตบูล เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองนอนเล่นอยู่ในห้องชั้นล่าง ส่วนเเม่นอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน นอกจากนี้ยังมีลูกชายอีก 2 คน อายุ 7 ปี กับ 16 ปี อยู่ในบ้านด้วย ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงอะไร ซึ่งซอยบ้านตนเป็นซอยเเคบหากมีคนเดินเข้ามาตนเองจะต้องรู้เห็นเเละบ้านของตนเลี้ยงหมาพันธุ์พิตบูลไว้ 1 ตัว ชื่อ "ก๊อง" ซึ่งนิสัยชอบเห่าเวลามีคนหรือเเม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงหมา-เเมว เดินผ่านเจ้าก๊องก็จะเห่า เเต่ในวันเกิดเหตุเจ้าก๊องนิ่งสงบไม่ได้ยินเสียงเห่าเลยจึงไม่เชื่อว่าจะมีคนอุ้มเด็กผ่านมาทางนี้

โดยตนออกจากบ้านไปทำงานตอนเวลา 07.40 น. ก็ไม่พบความผิดปก จนกระทั่งเวลา 08.00 น. ลูกชายโทรไปบอกว่ามีเด็กหาย พ่อกับเเม่เด็กมาถามหาที่บ้าน ก็รู้สึกเเปลกใจว่าเด็กจะหายไปได้อย่างไร เเละมองว่าเรื่องนี้เเปลก ๆ

465374

ด้าน นางกลิ่น เหมรา อายุ 81 ปี ชาวบ้านที่ออกมาใส่บาตรตอนเช้าซึ่งบ้านอยู่ปากซอย 1 อยู่เยื้อง ๆ กับบ้านหลังเกิดเหตุ บอกว่าวันเกิดเหตุตนเองตื่นนอนตั้งเเต่ตี 4 ก็ลุกมาหุงข้าวเเละเดินไปเดินมาอยู่รอบ ๆ บ้าน จากนั้นเวลา 06.00 น. ก็ออกไปนั่งรอใส่บาตรอยู่ริมถนนหน้าบ้าน โดยตนใส่บาตรพระ 2 วัด พระวัดเเรกเดินมาบิณฑบาตที่หน้าบ้านตนเวลา 06.30 น. พระวัดที่สองเดินมาบิณฑบาตเวลา 07.00 น. หลังจากใส่บาตรเสร็จก็เดินเข้าไปในบ้าน ยืนยันว่าช่วงเวลาตั้งเเต่ตอนตื่นนอนจนถึงตอนใส่บาตรเสร็จตนเองไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ เลย เเละไม่เห็นชายเสื้อเหลืองที่ถูกอ้างถึงด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส