แม่ช็อกหมดสติ ลูกสาววัย 5 ขวบวิดีโอคอลให้พ่อช่วยแต่ไม่ทัน!

4 ก.พ. 66

กอดลูกร่ำไห้! แม่ช็อกหมดสติลูกสาววัย 5 ขวบวิดีโอคอลให้พ่อช่วยแต่ไม่ทัน ลูกสาวกอดปลอบพ่อไม่ต้องเสียใจ เดี๋ยวแม่ก็กลับมา

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 22.30 น. พ.ต.ท.พีระกุล แฝงฤทธิ์หลง สว.สอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีหญิงสาวอายุ 35 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ม.6 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีลูกสาววัย 5 ขวบอยู่ในบ้านด้วย

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านมีเพื่อนบ้านมามุงดูเหตุการณ์ ภายในห้องนอนพบศพนางสาวจริยาสงวนนามสกุล อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน ตรวจสอบภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย พบอุปกรณ์ในการฟอกไตและภาพที่ทุกคนที่พบเห็นสลดใจ เมื่อนายพีระพันธ์ สงวนนามสกุล อายุ 30 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ที่ทราบข่าวเดินทางกลับมาจากทำงานที่กรุงเทพมหานครร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา

ช่วยไม่ทัน

มีน้องน้ำหวานอายุ 5 ขวบ ลูกสาวคอยกอดและปลอบพ่อให้กำลังใจอยู่ตอลดเวลา บอกให้พ่อไม่ต้องเสียใจไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวแม่ก็กลับมาด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก จากการสอบถามนายพีระพันธ์สามีของผู้เสียชีวิตทราบว่า ตนเองรู้จักกับภรรยาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกัน จนเรียนจบมาแต่งงานกัน สร้างครอบครัวมาด้วยกัน ส่วนภรรยาป่วยเป็นโรคเบาหวานมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงตนจึงไม่ให้ทำงาน ต่อมาภรรยาได้ป่วยเป็นโรคไตต้องฟอกไตอยู่เป็นประจำ

ส่วนตนเองทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พอเลิกงานจะขับไรเดอร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อหารายได้เสริม และจะกลับมาบ้านประมาณ 23.00 น. หรือเที่ยงคืนเป็นประจำ ส่วนเวลากลางวันภรรยาจะอยู่บ้านเพียงคนเดียว ลูกสาวจะไปโรงเรียนมีรถโรงเรียนรับส่ง

แม่ช็อก

ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้โทรไปบอกตนเองและวีดีโอคอลว่า แม่ล้มและชักกัดลิ้นตัวเอง ตนจึงโทรหาร้านค้าในหมู่บ้านให้รีบมาดู และได้แจ้งเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจให้มาช่วยเหลือ แต่พบว่าภรรยาตนเองเสียชีวิตแล้ว รู้สึกเสียใจมากสงสารภรรยาที่เจ็บป่วยทรมาน ความฝันของภรรยาและตนเองอยากมีบ้านจนทำความฝันเป็นจริงซื้อบ้านหลังนี้ได้แล้ว โดยตัวภรรยาได้บริจาคร่างกายให้กับทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกรียติเอาไว้ เป็นความตั้งใจของภรรยาเพราะเขารู้ตัวว่าป่วย ซึ่งได้ประสานกับทางโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของทางโรงพยาบาล

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีประวัติการรักษาตัวมาอย่างต่อเนื่อง อาจจะเกิดจากโรคประจำตัวที่รักษาตัวอยู่กำเริบจนทำให้ช็อกเสียชีวิต

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส