จากกรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย (วัดป่าบ้านขุมดิน) บ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยพบว่าที่ศาลาการเปรียญ จุดที่เก็บพระพุทธรูปรวมถึงวัตถุโบราณที่พระสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ได้ขุดพบในช่วงที่ผ่านมา มีชาวบ้านมาทำบุญที่วัดและพากันชมพระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่โชว์อยู่ และมีกระแสววิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลว่ามีเซียนพระออกมาบอกว่าเป็นพระปลอมหรือไม่นั้น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย (วัดป่าบ้านขุมดิน) บ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งวัดยังเปิดให้ชาวบ้านมาทำบุญตามปกติ ขณะที่ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับพี่ชายพระครูบา ให้ข้อมูลว่าตอนนี้พระครูบาไก่ปิดวาจาแล้ว และทุกอย่างที่ถูกพูดถึงไปสู่กระบวนการตรวจสอบ ซึ่งจบประเด็นดังกล่าวแล้ว
นายศุภกนก์ธีร์ อรุศรี อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย กล่าวว่า หลังจากที่เห็นภาพพระพุทธรูปและสิ่งของโบราณ ที่พระสุวิทย์ ชินวโร หรือครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ป่าปฐมเทวาราม แม้ว่าตนจะไม่ได้ลงพื้นที่เอง แต่เห็นภาพที่แชร์มาให้ดูจากคนรู้จัก ว่าพระพุทธรูปนั้นเป็นพระแท้หรือไม่ จากการดูรูปอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นมาย้อนยุค ไม่ใช่พระอายุเก่า 500 ปีขึ้นไป
วัตถุโบราณตามที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมานั้น สามารถหาเช่าบูชาได้ตามท้องตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตลาดท่าพระจันทร์ พระพุทธรูปที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมานั้นดูง่าย เพราะใช้สารเคมีอย่างแอมโมเนียผสมน้ำแล้วทาไปที่องค์พระ หรือจะนำไปแช่ก็ได้ เช่นนำพระพุทธรูปองค์ทองเหลือง ไปแช่น้ำที่ผสมแอมโมเนียประมาณ 10-20 นาที แล้วนำขึ้นมา พระก็จะมีผิวสีเขียว หรือสนิมเขียว
หากเป็นพระเก่าจริงอายุหลายร้อยปีจริง สีเขียวนั้นจะออกมาจากเนื้อพระ สีจะเขียวเสมอหรือที่วงการพระเรียกว่าสนิมเขียว เนื่องจากเนื้อพระ ทำปฏิกิริยาออกซิเจนผสมกับออกซิไดร์ จะทำให้ผิวออกมาสีเขียวเสมอกันจึงทำให้ดูง่ายว่าเป็นพระที่อายุหลายร้อยปี ซึ่งเป็นความรู้ที่ได้ศึกษามานาน 39 ปี จึงมั่นใจว่าพระพุทธรูปที่ครูบาไก่ที่พบนั้นเป็นพระไม่ทันยุคเก่าอายุหลายร้อยปีหรือพระปลอม
จากนั้นทีมข่าวไปยังวัดป่าบ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ภายในศาลาการเปรียญ มีตู้กระจกที่บรรจุไปด้วยพระโบราณที่ขุดเจอในดิน 2 ตู้กระจกหน้าทางเข้า มีทั้งพระพุทธรูปหลายปาง และเทวรูปต่าง ๆ รวมถึงหิน และวัตถุโบราณ และมีพระร่วมสมัยอย่างกุดพระบรมสารีริกฐาตุ ที่ชาวบ้านนำมาถวาย ก็ถูกบรรจุรวมไว้ด้วยกันมากกว่า 100 ชิ้น
นายบุญทัน สิงห์หลง อายุ 81 ปี เจ้าของที่ดินที่ขุดพบพระ เล่าย้อนว่า เรื่องราวเกิดขึ้นมาหลานปีแล้ว ประมาณปี 2557-2558 โดยตนเองไปนอนอยู่เถียงนา ตกกลางดึกเกิดแสงไฟประหลาดพุ่งลงมาตกในที่นาของตนเองประมาณ 3 จุด ตอนนั้นก็สงสัยว่ามันคือแสงอะไร ขณะเดียวกันสมัยนั้นพระครูบ่าไก่ ขึ้นชื่อว่าไปนั่งสมาธิแล้วเห็นว่าเจอพระในดิน
ตนเองก็ไม่เชื่อเลยท้าพิสูจน์ด้วยการนิมนต์กิจมาดูที่นาว่ามีอะไรหรือไม่ แล้วพระครูบาไก่ก็นั่งสมาธิ หลังจากนั้นมีการวาดรูปใส่กระดาษว่าเจอพระอะไรตรงไหน ซึ่งก็ขุดไปประมาณเกือบ 1.5 เมตร เจอพระพุทธรูปจริง ๆ โดยที่ตนเห็นกับตาตัวเองเลย ไม่ได้มีการแอบซุกพระไว้ในจีวรใด ๆ จากนั้นอีกจุดก็ขุดพบไหกระเบื้องที่ข้างในมีพระองค์เล็กอยู่ ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านในพื้นที่ชายคนที่ขุดเจอ ไม่ใช่แค่ที่นาของคนตนคนเดียว
ซึ่งพระพุทธรูปทั้งหมดที่ขุดขึ้นได้ ชาวบ้านถวายวัดกันหมด ไม่มีใครนำมาบูชาที่บ้าน เพราะเชื่อกันว่านี่เป็นสมบัติของบรรพบุรุษ อีกทั้งพื้นที่ไร่นาของสิน ในอดีตบรรพบุรุษก็เล่าให้ฟังว่าเป็นสิมเก่าในอดีต เหมือนอุโบสถในปัจจุบัน ซึ่งก็จะมีการบูชาพระพุทธรูปเยอะ ก็ไม่แปลกที่จะขุดเจอ แต่ที่แปลกใจคือพระครูบาไก่รู้ได้อย่างไรว่าพระอยู่ตรงจุดนั้น
ส่วนตัวก็ยังเชื่อและศรัทธาพระครูบาไก่ เพราะท่านเองไม่เคยอวดอุตริ มีแต่ชาวบ้านที่พากันเอาไปพูดปากต่อปาก ซึ่งการเห็นต่างไม่ใช่ความผิด แต่ถ้าเป็นการพูดให้ร้าย มันจะกลายเป็นบาป เช่นเดียวกับคุณแพรรี่ ที่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องของพระที่ขุดดินอาจจะเป็นพระปลอมนั้น ตนก็ไม่เข้าใจว่าพระปลอมมันเป็นยังไง จริงหรือปลอมมันเกิดมูลค่ายังไง เนื่องจากมีไว้เคารพบูชา ไม่ใช่เอาไปขายในตลาด และมองว่าคุณแพรรี่อาจจะไม่ได้มาอยู่ในเหตุการณ์ เลยอาจจะไม่เชื่อ
นางดวงพร ภูมี อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ในวันที่มีการขุดของในที่ดินนายบุญทัน บอกว่าส่วนตัวก็ไม่ได้เชื่อตั้งแต่แรก แต่ได้ยินเสียงร่ำลือของชาวบ้านว่าพระครูบาไก่มีนิมิตเห็นพระอยู่บริเวณใต้ดิน ตนจึงอาศัยไปดูพิธีเวลาที่มีชาวบ้านในพื้นที่นิมนต์พระครูบาไก่มาขุดผ่านใต้ดินเกือบจะทุกครั้ง เวลาที่ชาวบ้านในพื้นที่นิมนต์พระครูบาไก่มาทำพิธีขุดพระ
โดยพิธีดังกล่าวจะมีการให้ชาวบ้านที่มาดูพิธีจุดธูปร่วมกันอธิษฐานจิต จากนั้นพระครูบาไก่ได้มีการนั่งสมาธิ และมีการวาดภาพในกระดาษบางครั้งก็เป็นรูปพระปางที่ขุดเจอ บางครั้งก็เป็นการวาดบริเวณจุดที่จะขุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่ขุดดินให้นั้นจะเป็นญาติโยม ไม่ใช่ครูบาไก่ทุกครั้ง ตามคำกล่าวอ้างที่มีข้อสงสัยว่าพระครูบาไก่มีการนำพระไปซุกว่าอยู่ที่บริเวณจีวรและมีการนำไปหย่อนที่ดินนั้น ตนว่าไม่น่าจะใช่เรื่องจริง เพราะเห็นมาแล้วกับตาตัวเอง
ซึ่งส่วนตัวยืนยันได้ว่าพระครูบาไก่ไม่เคยมีการอวดอ้าง มีแต่ชาวบ้านเองที่มีการขอร้องให้ครูบาไก่มาช่วยดูให้ ว่ามีพระใต้ดินที่บ้านหรือไม่ ชาวบ้านบางคนมีความทุกข์ใจ บางคนมีอาการป่วย แต่พอนำพระพุทธรูปออกจากใต้ดินในพื้นที่ชีวิตก็ดีขึ้น ในบ้านของตนก็เคยขุดเจอเทวรูปพระสังกัจจายย์ เป็นรูปปั้นขนาดเล็ก และส่วนใหญ่พระพุทธรูปที่ขุดได้ชาวบ้านจะนำถวายวัดป่า เพราะทุกคนเชื่อว่าพระพุทธรูปดังกล่าวมีเจ้าของอยู่แล้วและอาจจะเป็นสมบัติของบรรพบุรุษ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับการตั้งข้อสงสัยของประชาชน และคนบางกลุ่มที่โจมตีพระครูบาไก่ ก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับมีมารผจญ เพราะมันมีคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แต่ก็อยากให้คำนึง ว่าบุคคลที่กำลังพูดถึงอยู่นั้นถือสินมากกว่า 5 ข้อ
ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่สำรวจสนามพระ ท่าพระจันทร์ กทม. ได้สอบถามเซียนพระในพื้นที่แล้ว พระที่เป็นข่าวนั้นไม่สามารถฟันธงได้ว่าของจริงหรือปลอม ต้องได้เห็นพระของจริงถึงจะดูได้ สำหรับเทวรูปพิมพ์นาคปก สมัยลพบุรี ศิลปเขมร หน้าตัก 5-7 นิ้ว ส่วนเรื่องราคาซื้อขายนั้น ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ซึ่งเทวรูปพิมพ์นาคปรกนี้ ถ้าเป็นของแท้และสภาพสมบูรณ์ ราคาเฉียดล้าน ในตลาดพระยังมีจัดวางขายทั้งพิมพ์ไม้และโลหะ ถ้าเกิดพระที่ขุดเจอนั้นเป็นของจริง ทางวัดต้องแจ้งกรมศิลปากร เพื่อให้เข้าตรวจสอบ และพิสูจน์ต่อไป
