"เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" เจ้าแม่รถทัวร์สุดสตรอง เล่าหมดเปลือกกับเส้นทางชีวิตรักสุดแซ่บ จากคาสโนวี่ คุย 80 คนใน 1 ปี สู่คุณแม่และรักแท้หนึ่งเดียว
โดยล่าสุด "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" เผยในรายการ โดนเทเซมาที่แพท ว่า
"อดีตเคยคาสโนวี่ท่านหนึ่ง สมัยก่อนเราไม่มีแฟน เราจะคุยกับใครก็ได้ แต่ถ้าเราจะเลือกคบกับใครสักคน เราก็ต้องสแกนให้ดี อย่างน้อยมันต้องมีตัวเลือก 1 2 3 4 ว่าแบบใครดีที่สุด ณ ตอนนั้น เคยทำสถิติไว้ตอนนั้นในเวลาเดียวกัน เคยนับตอนนั้นขึ้น มหาลัยปี 1 คุยไป 80 คน ภายใน 1 ปี ทุกสาขา ทุกชั้นปี พอคุยแล้วไม่ใช่เราตัดเลย"
"บางคนที่ชอบเรา เราไม่ชอบก็นับเป็น 1 คน ใน 80 คนมี 1 คนได้เป็นตัวจริง แต่สุดท้ายเขาก็มีแฟนแล้ว ก็ต้องเลิกกัน พอหนูจับได้เขาทิ้งหนูไปเลย เนี้ยแหละความรัก มันไม่มีอะไรแน่นอน ตอนนั้นก็มั่นใจมากว่า ต้องคนนี้ แต่สุดท้าย เรายังอ่อนแอ และโง่ เรื่องความรักอยู่ดี ไม่เป็นไรเอาใหม่"
"เดินทางมาเจอพ่อของลูก ยอมรับว่า เส้นทางขรุขระมาก ด้วยชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ ตอนที่มีปัญหา เราก็คนมั่นใจคนหนึ่งที่คบใคร รักกับใครเราไม่ชอบการปิดบังที่สุด เพระาถ้าปิดบัง เราก็ไม่รู้ว่า เราจะไปเป็นมือที่ 3 เขาอีกไหม จะไปเป็นกิ๊กเขาโดยไม่รู้ตัวอีกไหม ก็เลยต้องเปิดเผย ไม่อยากถูกนินทา ก็เลือกที่ชัดเจนไปเลย"
"ซึ่งทางสามี ยิว ฉัตรมงคล ก็ขึ้นสถานะขอเราเป็นแฟนก่อนเลย พอวันที่หนูขึ้นสถานะมีแฟนบ้าง ก็มีคนเข้ามากดไลก์ 5 แสนไลก์ แต่ด่าหนูไปแล้ว 3 แสนไลก์ แต่เราโอเค เพราะเรากำลังแฮปปี้กับรักของเรา หลายๆ คนบอกว่า เร็วไป เดี๋ยวก็ไปกันไม่รอด เขามาหลอกหรือเปล่า คือเราไม่สามารถรู้ได้ ถ้าเรารักใครสักคน ก็อยากให้ชัดเจนแบบ 100% ไปเลย ถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่ ก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย ว่าทำไมวันนั้นไม่เปิดตัวว่ะ ก็เลือกเปิดไปเลย"
"เปิดตัวปั๊บ รถทัวร์ก็เลี้ยวเข้าหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสวยๆ ที่เคยคุยกับยิวมาก่อน ด่าเราเละมาก คือเราไม่ได้เสียใจที่เขามาด่าเรา แต่เราเสียใจที่ ทำไมเราหน้าตาขี้เหร่สุดในแก๊งผู้หญิงคนก่อนๆ ของยิวว่ะ ซึ่งผู้หญิงที่ยิวเคยคุยมีทั้งนางแบบ คนในวงการ และตัวท็อปของหาดใหญ่ เราก็แบบเอาแล้วไง เปิดตัวไปแล้วด้วย ถ้าต้องเลิกกัน คนต้องแห่มาสมน้ำหน้าแน่ๆ เลย"
"เราก็คิดวางแผนเลย จะทำยังไงให้เขารักเราแบบที่เขาไม่เคยได้รับจากคนอื่น เรียกว่าไม่ธรรมดาค่ะ เรื่องผู้ชายเราก็พอตัวอยู่"
"ยอมรับระหว่างทางที่คบหากัน มีคิดอยากเลิกรา เพราะกระแสมันไม่ดีเลย ว่ายิวอดีตเป็นตำรวจแล้วมาคบกับเราคนที่มีชื่อเสียง ที่ทำอะไรก็ผิดอยู่แล้ว พอมาเปิดตัวคบกับเรา เขาก็โดนด่าเยอะมาก จะทำอะไรก็เป็นข่าว เราก็กลัวว่าครอบครัวเขาจะรู้สึกไม่ดีกับเรา อีกทั้งเราก็คิดว่า ไม่เหมาะสมกันด้วยหน้าตาเราก็ถ่อมตัว แต่สุดท้ายยิวก็ยืนยันว่า ยังรักเราเหมือนเดิม เราก็เลยเปลี่ยนมาทำให้เขาภูมิใจ แล้วก็รักเราในแบบที่เป็นเรา"
"ระหว่างทางเราก็มีคุยกันว่า ไหวไหม โอเคหรือเปล่า รักเราจะรอดไหม ซึ่งเขาพยายามบอกเราเสมอว่า อย่าไปแคร์ อย่าไปสนใจ เราโอเค ปล่อยให้เวลาพิสูจน์ ซึ่ง ณ วันนี้มันทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง
"ยิวเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้มาเพื่อหลอกเรา เหมือนที่ทุกคนคิดตั้งแต่ตอนแรก"
"โชคดีอีกอย่างคือ ครอบครัวของยิว เขาแบบลูกรักใครก็ได้ แต่ขอให้รักลูกเราจริงก็พอ แต่คุณแม่ของยิว เคยเตือนหนูว่า ยิวเป็นลูกคนสุดท้องนะ อาจจะเอาแต่ใจนะ เจนนี่โตกว่า เขากังวลว่ายิวจะมาแสดงความเป็นเด็กให้เรามีปัญหาจนต้องเลิกรากัน ซึ่งเราแก่กว่าเขา 4 ปี อายุมันไม่ได้เป็นตัววัด ถ้าเราคุยกันแล้วมันคลิกกันมันก็ใช่"
"ยิวเป็นคนขี้หึงแต่ปากแข็ง เหตุการณ์หนึ่ง วันนั้นเขาพาเพื่อนมาบ้าน เราไปยิ้มไปทักทายเพื่อนเขา สไตล์สดใสร่าเริง เป็นกันเองในฐานะเจ้าบ้าน แต่ยิวเขามองว่าเราไป มันเป็นรอยยิ้มที่เราเคยยิ้มให้เขาช่วงแรกๆ พอวันนั้นผ่านไป ยิวก็มานั่งคุยกับหนูบอกว่า "ทำไมต้องยิ้มให้เพื่อนเขาแบบที่เคยยิ้มให้เขาช่วงแรกๆ ตัวเองชอบมันหรอ" ส่วนตัวงงมากฟิวแบบสวยมาก"
"นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้ว่า เขาเป็นคนขี้หึง ลามมาถึงขั้นการแต่งตัว ต้องสกรีนชุดให้ตลอด เขาบอกว่า "เซ็กซี่กับน่าเกลียด มันเป็นเส้นบางๆ นะ ขอสแกนก่อน" ซึ่งก่อนมาคบกันเขาบอกว่า เจนนี้แต่งตัวไม่เหมาะกับกาลเทศะ จนโดนคนด่า สุดท้ายเราก็โอเคนะ เพราะถ้ารักกันแล้วนำพาไปในทางที่ดีขึ้น เราก็โอเค"
"ถามว่าอึดอัดไหม แรกๆ หนูยอมได้ไง เพราะรู้สึกว่า อยากทำให้เขา แรกๆ ความรักมันบังตา กินอะไรมันก็อร่อย นอนหลับฝันดี อะไรก็ด้ไปหมด ไม่กลัวหรอว่าถ้ากลับมาเป็นตัวเองแล้วจะเป็นปัญหา ตอนนั้นไม่ได้คิดไง คิดแค่ว่า ทำอะไรก็ได้ที่เขารักเรา และชอบเรา"
"ส่วนตัวเหมือนเป็นคนมีปมด้อย ที่อยากสวยขึ้น อยากดูดีขึ้น ให้ถูกใจเหมือนคนที่เขาเคยคบๆ มา ก็เลยปรับให้เขา ซึ่งตอนนี้เขาก็พูดกับเรานะว่า ตัวเองทำเขาเซอร์ไพรส์ในทุกๆ วัน หนูก็บอกเขาว่า ใช่ไง เพราะตอนแรกเขาอยากได้ตัวเองไง ตอนนี้ตัวเองเป็นของเขาแล้ว เขาจะทำอะไรก็ได้"
ล่าสุดย้ายมาอยู่ กทม. อย่างถาวรแล้ว ?
"ก่อนหน้านี้เคยพูดกับทุกรายการว่า ชีวิตนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ต้องมีแม่ ต้องอยู่ติดแม่ สรุปพอมีผัวแยกบ้านเฉย งงมากต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ "รักแม่ก็รัก แต่เรามีผัวแล้วไง" จริงๆ เราอยากซื้อสังคมให้ลูก อยากให้น้องมาอยู่ กทม. การเรียนการอยู่ อะไรมันก็สะดวกสบาย ก็เลยยอมมาอยู่ กทม.เพื่อลูก"
เราตั้งใจที่จะมีลูกไหม?
"ปกติเป็นคนที่อยากมีลูกอยู่แล้ว ช่วงที่คบกันแรกๆ มันก็ข้าวใหม่ปลามันทุกวัน ไม่ได้ตั้งใจจะป้องกัน เพราะอยากมีอยู่แล้ว ซึ่งก็มีพูดคุยกันอยู่ตลอดว่า ถ้าน้องมาจะไหวไหม ก็ใจพร้อมทั้งคู่ แต่ปรากฎว่า สิ่งที่เราพูดคุยกัน มันก็ดูสวยหรู เราคุยกันภาษาคนคลั่งรักที่ไม่ได้มองการณ์ไกล ก็ยอมรับว่า ท้องก่อนแต่ง"
"แต่ด้วยอาชีพการงานของยิวที่เป็นตำรวจมันไม่ได้ง่ายเลย ที่เขาจะเอาเวลามาเลี้ยงดูลูก ซึ่งก็ยอมรับว่า เราลืมคิดถึงจุดๆ นี้ ส่วนของตัวเองที่เป็นคนมีชื่อเสียง"
"ก็ไม่ได้คิดว่าจะเจอกระแสลบ คิดแค่ว่า เราเป็นแม่คนแล้ว เรามีความสุขมาก คนรอบตัวดีใจมาก ครอบครัวมันสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ถ้าสังคมเขาไม่ยอมรับ จนเราต้องออกจากวงการ มันก็สุดแล้วแต่"
"พอน้องมาจริงๆ ดีใจก็ดีใจ แต่เราก็แอบเสียใจที่ยิวต้องลาออกจากตำรวจเพื่อมาดูแลเรากับลูก เพราะเขาห่วงใยเรามาก ซึ่งส่วนตัวมองว่า เขาไม่ต้องออกมาก็ได้ เราสามารถเดินทางไปหาเขาก็ได้ ก็ยกให้เป็นการเสียสละที่ลึกซึ้ง"
"เพราะการจะเป็นตำรวจมันก็ไม่ง่าย วินาทีที่ยิวส่งข้อความไปหาครอบครัว แม่เขาตอบกลับมาว่า "อะไรที่ลูกมีความสุขลูกทำได้เลย ถ้าเราเลือกทางผิดเราก็เลือกทางใหม่ได้ตลอดเวลา ไม่มีคำว่าสายเกินไป" สุดท้ายก็ลาออกมาอยู่ด้วยกันก็แฮปปี้"
"แพลนมีน้องคนที่สอง ซึ่งทางคุณย่าเขาอยากให้เรามี 5 คน แต่ส่วนตัวแพลนไว้ 3 คน ก็คิดอยู่ว่าท้องสอง จะทำแฝดเลยดีไหม แต่สามีบอกจะทำให้แบบธรรมชาติ เรียนรู้ทุกท่าจากกูเกิล"
ติดตามรายการ โดนเทเซมาที่แพท ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook Amarintv online และ youtube กดแจ้งเตือนกันไว้ด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่พลาดความสนุกนี้
