ตื้นตัน ผู้ใจบุญวางเงินยื้อคดี ตาถูกหลอกแลกที่ (คลิป)

กรณีครอบครัวนายประยงค์ ทัศนกิจ อายุ 84 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร้องเรียนมายังทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เนื่องจากบ้านของพวกเขาซึ่งมีสมาชิกในบ้านกว่า 20 ชีวิต กำลังจะถูกยึด และไล่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากที่ดินที่สร้างบ้านอยู่ปัจจุบันนั้นซึ่งได้มาจากการแลกที่ดินเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว

โดยเป็นที่ดินซึ่งเจ้าของเดิมนำไปจำนองไว้ ทำให้ถูกไล่ที่ ภายใน 7 วัน หรือ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 โดยให้ออกจากพื้นที่ซึ่งอนุญาตให้ขนข้าวของออกเท่านั้น ส่วนตัวบ้าน ทั้งหมดห้ามรื้อถอนออก

ล่าสุดทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายประยงค์ จ.อยุธยา เนื่องจากทราบข่าวว่ามีผู้ใจบุญมอบเงินให้ 72,000 บาท ให้นำไปวางเป็นค่าธรรมเนียมศาลในวันนี้ เพื่อไม่ให้ถูกไล่ที่

นายประยงค์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณผู้ใจบุญที่มาช่วยเหลือ ทราบว่าดูข่าวแล้วสงสารจึงเข้ามาช่วย ส่วนตัวดีใจและตื่นตันมาก ถือเป็นบุญคุณต่อครอบครัวตน หลังจากนี้หากไปทำบุญที่ไหนจะอธิษฐานให้ผู้ใจบุญได้รับส่วนบุญส่วนกุศลไปด้วย เพราะที่ผ่านมาตนจนปัญญาแล้วจริง ๆ บ้านที่สร้างอยู่ในปัจจุบันตั้งใจว่าจะเอาไว้นอนตาย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

เวลา 13.00 น. นางยุพดี ทัศนกิจ อายุ 54 ปี ลูกสาวนายประยงค์ ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายนางปัทมา น้องสาวเพื่อเดินทางไปที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการวางเงินค่าธรรมเนียมศาล โดยนางยุพดี กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการนำเงินมาวางค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งผู้ใจบุญจะนำเงินมาวางที่ศาลให้ด้วยตัวเอง ส่วนตัวดีใจมาก ถือเป็นการยื้อเวลาออกไปให้พวกตนได้ต่อสู้และเตรียมตัวเตรียมใจ

ด้านคดีต้องขอปรึกษาทนายความว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ยอมรับว่าค่อนข้างถอดใจ คิดว่าอาจจะไม่สามารถอยู่บนที่ดินดังกล่าวได้แล้ว ตอนนี้ก็เตรียมแผนสำรองไว้ คือที่ดิน สปก. ของพ่อที่ใช้ทำการเกษตร แต่ยังไม่มีเงินจะไปสร้างบ้าน

โดยตอนนี้อยากให้อย่างน้อย หากต้องถูกขับไล่ที่ ก็น่าจะให้ตนรื้อบ้านออกไปได้ เพื่อจะได้นำไปสร้างใหม่ หรือนำไปขายนำเงินมาสร้างบ้าน นอกจากนี้ช่วงปี 2562 เจ้าหน้าที่เคยเข้ามาไกล่เกลี่ย และนำที่ดินจำนวน 112 ตารางวาของตนไปขาย อ้างว่าจะนำมาหักลบกลบหนี้จากส่วนของที่ดินที่จำนองไว้ จาก 3 ล้านบาท ลดเหลือ 2 ล้านบาท โดยหากตนต้องถูกขับไล่ที่ ก็อยากได้เงินส่วนนี้คืน เพื่อจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

นายสานันต์ องอาจ ทนายความ ระบุว่า วันนี้เป็นการวางค่าธรรมเนียมศาลชั้นต้น ภายหลังบริษัทบริหารสินทรัพย์ฟ้องขับไล่ที่นางยุพดีและครอบครัว ซึ่งทางจำเลยยื่นคัดค้านการขับไล่ที่ โดยเบื้องต้นมีการสืบพยาน และยื่นหลักฐานต่าง ๆ ไปหมดแล้ว ทั้งเรื่องที่นางยุพดี อาศัยอยู่ในที่ดินอย่างเปิดเผย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้ดี

โดยจะมีนัดฟังคำสั่งศาลขั้นต้นวันที่ 7 ก.พ. หลังจากนั้นหากยังถูกขับไล่ ก็จะยื่นอุทธรณ์ต่อ คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือน คดีจึงจะเป็นที่สิ้นสุด ในระหว่างนี้ตนในฐานะทนายความก็จะช่วยอย่างเต็มที่ให้นางยุพดี และครอบครัวได้อยู่ต่อในที่ดินดังกล่าว ส่วนกรณีของเจ้าของที่จะต้องดูว่าฝ่ายตนสามารถฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ เพราะนำที่ติดจำนองมาแลก ไม่เป็นไปตามข้อตกลงตอนแรก