หลาน 10 ขวบ เห็นยมบาลยืนอยู่ข้างบ้านลุง ก่อนพบหนุ่ม 38 ปี เสียชีวิตหน้าศาลตายาย เจ้าของที่ดินเตรียมทำพิธียกขันธ์ 5 ขอขมาศาล
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 20.30 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.พ.ต.ท.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สว.สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตที่ต้นไม้ในทุ่งนา บ้านเซหมู่3 ตำบลหนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีและมูลนิธิอุดรส่างเมธาธรรมรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพผู้สียชีวิตทราบชื่อคือนายวุฒิพงษ์ อายุ 38 ปี เป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ผูกคอตนเองกับต้นกระถินณรงค์ข้างริมสระน้ำซึ่งอยู่หน้าศาลตายาย ทำให้เจ้าของที่นาและชาวบ้านแถวนั้นพากันขนหัวลุก พอทราบเรื่องจึงได้เดินทางมาดูทำให้รู้สึกตกใจ ส่วนลูกสาวของผู้ตายน้องน้ำฝนอายุ 17 ปี ได้เดินทางมาดูถึงกับนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก
นายอังคาร อายุ 31 ปี น้องชายของผู้ตาย บอกว่า ภรรยาและลูกของพี่ชายให้ออกตามหาพี่ชายหายออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเย็น แต่ช่วงเที่ยงตนเห็นพี่ชายตัดเชือกที่อยู่ท้ายรถปิกอัพหน้าบ้านเช่าตน ตนจึงเดินตามหาจึงได้มาพบว่าผูกคอตนเองเสียชีวิต แล้วพี่ชายได้ดื่มเหล้ามากทำให้ป่วยทางจิตมาได้ประมาณ 5 ปี เคยพาไปรักษาหลายที่และได้หายป่วยมาเกือบ 1 ปี แต่พี่ชายเป็นคนไม่ค่อยพูดอะไร หรือมีความในใจอะไรก็ไม่บอกใคร
โดยในวันนี้ลูกสาวของตนได้ชวนหลานชายอายุ 10 ขวบ มาเล่นที่บ้านของผู้ตาย แต่หลานบอกว่าเห็นผีผู้ชายตัวใหญ่ยืนอยู่ข้างบ้านพี่ชาย ในตอนแรกตนคิดว่าเด็กก็คงพูดเล่นไปเท่านั้นเอง พอทราบว่าพี่ชายเสียชีวิตแบบนี้ทำให้นึกขึ้นได้ว่าหลายชายที่เห็นผีตัวใหญ่อาจจะเป็นยมบาลมาคอยรับผู้ชายไป
น.ส.เกศร อายุ 51 ปี ภรรยาผู้ตายบอกว่า ตนมีลูกติด 3 คนส่วนสามีมีลูกติด 1 คน โดยได้มาเช่าบ้านอยู่ในบ้านเซ ช่วยกันทำมากินรับเหมาก่อสร้าง ในวันนี้แม่สามีโทรมาพูดคุยและตนได้สอบถามสามีเรื่องงานเท่านั้น และไม่มีเรื่องอะไรอีก ส่วนสามีก็ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างทุกวัน แต่วันนี้สามีบอกว่าทำงานไม่ไหวหนาวไม่สบายจึงกลับมาบ้านช่วง 09.00 น. จากนั้นช่วง 13.00 น. ก็ไม่เห็นสามีอยู่บ้าน สามีไม่เคยบ่นอะไรให้ตนฟัง ไม่เคยจะทำร้ายตัวเอง สามีอยู่กับลูกเมียตลอดเป็นคนชอบนอน และยังบอกอีกว่าในคืนก่อนเกิดเหตุตาด้านขวาของตนเขม่นหรือตากระตุกถือว่าเป็นลางที่ไม่ดี
ส่วนนางอภรพรรณ อายุ 74 ปี เจ้าของที่นาบอกว่า รู้สึกตกใจเหมือนกันที่มีคนผูกคอตายที่หน้าศาลตายายหรือเป็นศาลเจ้าที่เจ้าทางถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี โดยตนนำศาลมาตั้งอยู่ที่บริเวณแห่งนี้ในพื้นที่นาของตนเองจำนวน 15 ไร่ มาเป็นระยะเวลาได้เกือบ 20 ปี เพื่อคอยดูปกป้องรักษาดูแลลูกหลานเวลามาทำนาปลูกข้าว โดยตนอาจจะนินมนต์มาทำพิธีสวดและทำบุญพร้อมทั้งแต่งขันธ์ 5 เพื่อมาขอขมากับเจ้าปู่เจ้าย่าที่ศาล
เบื้องต้นตำรวจร่วมกับแพทย์ได้ทำการสูตรพลิกศพตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาได้ 3-4 ชั่วโมงเกิดจากขาดอากาศด้วยการผูกคอตายซึ่งญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตจึงได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
