ผัวเก่าช้ำรักยิงเมียโคม่าฉุนพาผัวใหม่หยาม คดีพลิกโดนแฉซุกหญิง (คลิป)

27 ม.ค. 66

จากกรณี “นายกฤษฎา จันทร์ช่วยนา” อายุ 53 ปี อดีตสามีที่แยกทางกับภรรยานาน 3 ปี ทราบชื่อ “น.ส.บุญนอบ อ่อนรู้ที่” อายุ 51 ปี แต่ที่ผ่านมา “น.ส.บุญนอบ” ไปมีชายคนใหม่ เช่าบ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่ทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกันนัก แถมยังทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกดดันให้ “นายกฤษฎา” ออกไปจากบ้านหลังดังกล่าว เพื่อจะเอาชายหนุ่มคนใหม่เข้ามาอยู่แทน ทำให้ “นายกฤษฎา” ไม่พอใจบวกกับเพราะตัวเองเป็นคนดูแลลูก 4 คนเอง

476468

วันที่ 27 ม.ค. 66 เมื่อเวลา 11.00 น. จึงมีปากเสียงกันและบันดาลโทสะ “นายกฤษฎา” คว้าอาวุธปืนยิงใส่ “น.ส.บุญนอบ” 1 นัด กระสุนเข้าที่หน้าท้อง บาดเจ็บสาหัสก่อนจะเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา “พยามยามฆ่าผู้อื่น” และ “ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน”

496461

จากการสอบถาม นายกฤษฎา ซึ่งรับสารภาพทั้งหมด เล่าว่า ตัวเองแยกทางกลับอดีตภรรยาได้ประมาณ 3 ปี โดยที่อดีตภรรยาไปมีผัวใหม่ได้ประมาณ 3 ปีเช่นกัน โดยที่ตนเองกับอดีตภรรยามีลูกด้วยกัน 4 คน โดยคนโตอายุ 29 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 13 ปี  โดยที่ตนเองอยู่บ้านกับลูกและเลี้ยงลูกเอง ส่วนอดีตภรรยาไปมีผัวใหม่ จึงทำให้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงจนบาดเจ็บ จากนั้นได้ไปมอบตัวกับตำรวจสายตรวจชุมชนที่ป้อมยามตำบลบางดี อ.ห้วยยอด พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอาวุธปืนเถื่อนไม่มีทะเบียน

501985

ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียใจหรือไม่เมื่อทำแล้วจะต้องรับโทษ นายกฤษฎาพูดในลักษณะที่ยอมรับสภาพและเตรียมใจยอมรับ โดยบอกว่า “เป็นเรื่องปกติ เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ เพราะมันสุดที่จะทน”  เพราะอดีตภรรยาพยายามจะนำผัวใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน  เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา พยามยามฆ่าผู้อื่น และครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน

404643

“นายเดชา” ซึ่งเป็นสามีใหม่ของ “น.ส.บุญนอบ” ด้วย เจ้าตัวบอกว่าเบื้องต้นตอนนี้ “น.ส.บุญนอบ” ปลอดภัยแล้ว รู้สึกตัว แต่ยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตรัง ไม่มีกำหนดออก เนื่องจากกระสุนเฉี่ยวโดนทั้งตับ ปอด ลำไส้และต้องตัดไส้ติ่งทิ้งด้วย

ส่วนเรื่องปมปัญหานั้นจริง ๆ แล้วตนไม่เคยคิดอยากจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุเลย ที่ผ่านมาไม่เคยเหยียบเข้าไปบ้านหลังนั้นด้วยซ้ำ มีเพียงแค่วันนี้เป็นครั้งแรกเท่านั้น และหนำซ้ำตนกับ “นายกฤษฎา” ไม่เคยพูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ ต่างคนต่างอยู่มาโดยตลอด

กลับกันเท่าที่ตนทราบ คนที่จะพาผู้อื่นเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนั้นคือ “นายกฤษฎา” มากกว่า เพราะปัจจุบันเขามีแฟนใหม่และเคยพามาที่บ้านหลั้งนั้นแล้วด้วย จึงตั้งใจจะพามาอยู่ที่นี่ถาวร แต่เนื่องจากที่ดินและบ้านหลังดังกล่าวเป็นชื่อของ “น.ส.บุญนอบ” เธอจึงไม่ยอมก็เลยขัดคอกันจนทำร้ายร่างกายอย่างที่เห็น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ถึงขั้นที่ว่าเคยขึ้นศูนย์ดำรงธรรมเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่หาข้อสรุปไม่ได้เพราะต่างคนต่างไม่ยอม

219036

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งจุดเกิดเหตุคือบริเวณโรงจอดรถหน้าบ้าน “นายฟาอัล” (นามสมมติ) พี่เขยของผู้บาดเจ็บ เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าเดิมทีบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ “นายกฤษฎา” กับ “น.ส.บุญนอบ” เก็บหอมรอมริบสร้างกันมาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกัน 4 คน ที่ผ่านมาถือว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นครอบครัวนึง

แต่ช่วง 2-3 ปีให้หลัง “นายกฤษฎา” จับได้ว่า “น.ส.บุญนอบ” ไปสนิทสนมกับผู้ชายคนนึงที่รู้จักกันผ่านโซเชี่ยล ทราบชื่อ “นายเดชา” ก็เลยมีปัญหาทะเลาะกัน แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกรากันไป โดย “น.ส.บุญนอบ” ก็ย้ายออกไปอยู่กับ “นายเดชา” ที่บ้านเช่าภายในหมู่บ้านเดียวกัน ด้วยความที่ปัจจุบันลูกของทั้งคู่อีก 2 คนยังคงเรียนหนังสืออยู่ คนที่ 3 เป็นผู้หญิงอายุ 17 ปีและคนที่ 4 เป็นผู้ชายอายุ 10 ขวบ ทั้ง 2 คนยังอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดเหตุโดยมี “นายกฤษฎา” เป็นผู้เลี้ยงดู ส่วนลูกอีก 2 คนไปเรียนที่และทำงานที่ กทม.

ด้านของ “น.ส.บุญนอบ” ด้วยความเป็นแม่ ก็เลยต้องแวะเวียนมาเยี่ยม มาช่วยซักเสื้อผ้าให้ลูกทั้ง 2 คนที่บ้านเกิดประจำ บางครั้งก็แบ่งกันพาลูกไปส่งโรงเรียน แต่ที่ผ่านมา “นายเดชา” ไม่เคยมาเลยสักครั้ง ก็เลยไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง

241980

จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ หลังจาก “นายกฤษฎา” กลับมาจากกรีดยางพารา ก็เห็นว่า “น.ส.บุญนอบ” กำลังตัดแต่งต้นไม้หน้าบ้าน ประจวบเหมาะกับเวลาประมาณ 10.00 น. “นายเดชา” พาลูกชายวัย 7 ขวบมาส่งที่บ้านเกิดเหตุ หลังจากไปเข้าค่ายลูกเสือกับโรงเรียนได้ 2 วัน ทำให้ “นายกฤษฎา” ไม่พอใจที่ “นายเดชา” เหยียบเข้ามาในบ้านหลังนึ้ ซึ่งเป็นครั้งแรก บวกกับทราบมาว่า “น.ส.บุญนอบ” พยายามจะพา “นายเดชา” เข้ามาอยู่ที่บ้านเกิดเหตุด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนั้น “นายกฤษฎา” ต้องยอมไม่ได้แน่ ๆ

เนื่องจาก “นายกฤษฎา” อาจจะต้องพาลูกย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่ ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ก็เลยคุยกันเรื่องนี้ แต่คาดว่าคงเคลียร์กันไม่ลง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม “นายกฤษฎา” ด้วยความที่เพิ่งเหนื่อยจากการกรีดยาง ยังไม่ได้กินข้าว ก็เลยบันดาลโทสะ หยิบปืนออกมาจากในบ้าน แล้วขู่ว่าจะยิงด้านของ “น.ส.บุญนอบ” ก็ท้าท้าย คิดว่า “นายกฤษฎา” คงไม่กล้ายิง ด้วยการยกมือไหว้เหนือหัวแล้วพูดเชิงประชดประชันว่า “สาธุให้ยิงจริงๆ” แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามคาด เพราะ “นายกฤษฎา” ตัดสินใจยิงจริง ๆ

ทั้งนี้ถ้าถามว่านิสัยใจคอของ “นายกฤษฎา” ก็มีอารมณ์ร้อนบ้าง แต่คงไม่ได้รัก “น.ส.บุญนอบ” แล้ว เพราะถ้ารักก็คงไม่กล้ายิง ดังนั้นเชื่อว่าปมสาเหตุน่าจะมาจากไม่พอใจที่ “น.ส.บุญนอบ” พยายามจะพา “นายเดชา” เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้มากกว่า บวกกับก่อนเกิดเหตุคงมีการพูดจาไม่เข้าหูกัน

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนในฐานะลุงของลูกผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บ ก็จะช่วยดูแลเด็ก ๆ ไปก่อน อย่างหลาน 7 ขวบ ตอนนี้ก็พาไปอยู่ที่บ้านแล้ว ส่วนหลานวัย 17 ปี เขาบอกว่าจะอยู่ที่บ้านต่อ วันนี้ตนก็เลยนำไข่ไก่มาให้เผื่อจะได้ทำกับข้าวกิน

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส