จากกรณีครูสาวส่งเรื่องร้องเรียนไปเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" ถึงกรณีที่สามีซึ่งรับราชการเป็นทหารอากาศ แอบคบชู้ แต่ภรรยาจับได้ สุดท้ายยอมรับเรื่องถึงหน่วยงาน มีการเซ็นตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ไม่ทำตามข้อตกลง จึงร้องสื่อต้องการความเป็นธรรม
วันที่ 18 ม.ค. 66 ครูดาวเรือง บูรณธณิต เปิดเผยว่า ตนและสามีคบหากัน อยู่กินฉันสามีภรรยาจดทะเบียนสมรสตั้งแต่ปี 61 จนปี 65 สามีย้ายจากอู่ตะเภา ไปอยู่ที่กองบิน 1 จ. นครราชสีมา ตนจับได้ว่าสามีมีชู้ช่วงเดือน พ.ย. 65 สามีโทรมาสารภาพบอกว่าไปแอบรักเขา ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อว่าน้ำ เป็นแม่ค้าในตลาด จ.นครราชสีมา เป็นคนชอบทำบุญ มักไปเจอกับแม่ฝ่ายชายในงานกฐินงานทำบุญต่าง ๆ ทำให้รู้จักสนิทสนมกัน
โดยวันที่ 26 พ.ย. 65 สามียอมรับว่าได้มีผู้หญิงคนใหม่ และรักทั้ง 2 คนไม่อยากเลิกกับใคร ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ ครูสาวคือตนเองยื่นข้อเสนอ ถ้าจะเก็บไว้ทั้ง 2 คนต้องจ่ายเงินให้ตนเดือนละ 30,000 บาท หากจะให้ตนเซ็นใบหย่าจ่ายมา 6 ล้านบาท
วันที่ 28 พ.ย. 65 ครูสาวเดินทางไปที่บ้านพักของสามีที่ จ.นครราชสีมา พบเข้าของเสื้อผ้าเครื่องสำอางของชู้ของสามี สอบถามพี่สะใภ้ ซึ่งอยู่ในบ้านเดียวกันก็ยอมรับว่าเขามาอยู่กินด้วยกันแล้ว แต่พี่สะใภ้บอกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่อยากไปยุ่งเรื่องของเขา ตนโมโหทำลายข้าวของที่เป็นของชู้พังเสียหาย แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขณะเดินทางกลับสามีได้โทรมา พร้อมกับให้เจรจากับสาวที่เป็นชู้ จึงมีปากเสียงกันผ่านทางโทรศัพท์ ครูสาวคือตนเองก็ด่าชู้ว่า "เป็นคนธรรมะธัมโม แต่ไม่มีศีลธรรม มายุ่งมานอนมาอยู่บ้านกับสามีคนอื่น หากไม่ยอมเลิกรากันก็จ่ายค่าเลี้ยงดูมา หากไม่ยอมเลิกกันก็จ่ายค่าเลี้ยงดูมาเดือนละ 30,000 บาท แต่ถ้าอยากได้ใบหย่าจะเซ็นให้จ่ายมา 6 ล้านบาท"
ด้านฝ่ายหญิงชู้ก็บอกกลับมาว่า "เป็นถึงข้าราชการ ไม่มีเงินเดือนกินหรือ ทำไมต้องมาขอเงิน" และยังบอกอีกว่าตนกับสามีครูรักกันอยู่ด้วยกัน มีอะไรกันแล้ว ทำไมไม่ยอมรับ และด่าว่าตนเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทั้งที่ตนไม่เคยแย่งผัวชาวบ้าน
ตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งกลับผู้บัญชาการทหารอากาศกองบิน 1 จนมีการเรียกไปเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ระหว่างครูสาวคือตนเอง และสามีซึ่งเป็นทหารอากาศในกองบิน 1 จนได้มีการร่างสัญญาขึ้นมาใจความสำคัญ ทางฝ่ายสามีขอ กลับตัวกลับใจและจะปฏิบัติตามข้อตกลงไม่คบชู้ โทรวิดีโอคอลรายงานความเคลื่อนไหวกับภรรยาก่อนนอน และไปหาภรรยาเดือนละ 2 ครั้ง หลังจากนั้นปรากฏว่าผู้เป็นสามีไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ตนได้ร้องเรียนไปยังกองบิน 1 อีก จนทำให้กองบิน 1 สั่งให้สามีปฏิบัติตามมิเช่นนั้นจะผิดระเบียบวินัยข้าราชการ ล่าสุดสามีส่งข้อความมาบอกว่าจะมาหาในวันที่ 21 ม.ค. 66
ส่วนที่นำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพราะต้องการความเป็นธรรม เนื่องจากสามีเป็นทหารเป็นข้าราชการ มีระเบียบวินัยของข้าราชการ ซึ่งตนก็ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเหมือนกัน หากข้าราชการคบชู้ก็จะมีความผิดถึงขั้นปลดออก ไล่ออก แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นานแล้ว ตนพยายามแจ้งกับทางหน่วยงานต้นสังกัดมาตลอด แต่สามีกลับไม่ได้รับโทษใด ๆ เหมือนเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่
"ไม่ใช่ไม่มีภรรยาคนไหนอยากให้สามีถูกไล่ออก เพียงแต่อยากให้สามีทำตามข้อตกลง หรือกฎระเบียบทางราชการไม่ศักดิ์สิทธิ์เลยหรือ และที่ทำกับตนมันเหยียดหยามศักดิ์ศรีเกินไป อยากมีผู้หญิงคนใหม่ก็ต้องมาขอกันดี ๆ ทำตามกฎหมาย ทำตามระเบียบวินัยข้าราชการ ไม่ใช่แอบไปอยู่กินกัน แถมยังให้ชู้โทรมาด่าตนว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก" เมียตัวจริงของทหารอากาศ กล่าว
นอกจากนี้ มีคลิปเสียง สามีที่เป็นทหารอากาศยอมรับว่ามีสาวคนใหม่จริง และสาวคนดังกล่าวรักตนมาก ซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เข้ามาอยู่ที่บ้านแล้ว ครูดาวเรืองจึงสอบถามว่าอยากจะเลิกกับตน อยากจะหย่ากับตนหรือไม่ สามีบอกว่าไม่เลิกไม่ได้ ยังรักครูดาวเรืองและเป็นห่วง ครูดาวเรืองจึงบอกว่า "หมายความว่าจะรักทั้ง 2 คนหรือ ถ้าเลิกกับใครไม่ได้อยากจะอยู่แบบนี้ ต้องจ่ายเงินให้เดือนละ 30,000 บาท หรือถ้าอยากให้อย่า ก็จ่ายมา 6 ล้านบาท" ตอนนั้นสามีทหารอากาศก็บอกว่าจะไปปรึกษาเรื่องนี้กับสาวคนใหม่ที่มาชอบผัวชาวบ้าอยู่ด้วย
ล่าสุด ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังทหารอากาศ สามีของครูดาวเรือง ยืนยันว่าตนไม่ได้มีชู้ แต่ภรรยาเข้าใจผิด หญิงสาวที่ชื่อว่าน้ำ สนิทกับแม่ของตน เพราะเป็นสายบุญ ไปทำบุญด้วยกันบ่อยแล้วรู้จักกับตนมาหลายปีแล้ว ได้เคยว่าจ้างให้ตนไปต่อสายไฟ ต่อพวกกล้องวงจรปิดต่าง ๆ ที่ร้านค้าของนางสาวน้ำเท่านั้น ทำให้รู้จักกัน ส่วนนางสาวน้ำรู้จักสนิทสนมกับแม่ของตน และพี่สาวของตน ได้ว่าจ้างให้พี่สาวซักผ้าให้ แล้วพี่สาวก็ได้นำเสื้อผ้าของนางสาวน้ำมาแขวนไว้ที่ห้องของตน ซึ่งเป็นห้องที่ตนไม่ได้พักอาศัยอยู่ เพราะส่วนใหญ่ตนจะไปพักในกองบินส่วน บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านส่วนตัวที่อยู่กับแม่พี่สาวและลูกสาว
เบื้องต้น ตนเองได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจข้อหาลักทรัพย์และบุกรุกยามวิกาลกับภรรยาแล้ว แต่ได้บอกให้ตำรวจชะลอเรื่องไว้ก่อน หากมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะถอนฟ้อง แต่หากภรรยายังไม่ยอมหยุด และพยายามประจานตนก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ตอนนี้ตนหมดรักภรรยาแล้ว เนื่องจากว่าวันที่มาอาละวาดที่บ้านมาทำลายข้าวของ และนำทรัพย์สินบางส่วนไป ได้ต่อว่าแม่ของตน ต่อว่าพี่สาวตน ตนรับไม่ได้ ส่วนข้อตกลงที่มีการตกลงกัน ตนทำไม่ได้ เพราะไม่สามารถมองหน้าภรรยาได้แล้ว แต่วันที่ 21 ม.ค. 66 จะเดินทางไปหาภรรยา เพราะต้องทำตามข้อตกลงเท่านั้น