มหากาพย์ชู้รัก อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับเมียชาวบ้าน ยังไม่จบ !

11 ม.ค. 66

 

มหากาพย์ชู้รัก! เผยเอกสารอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. แจ้งความ สาวเคยสนิท พร้อมครอบครัว ข้อหาถูกฉ้อโกง หลอกเอาค่าสินสอด 19,419,000 บาท

จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ออกมาเปิดประเด็นจนสร้างความฮือฮาในสังคมว่า ได้รับมอบอำนาจจากสามีชื่อย่อนาย ก. เป็นโจทก์ฟ้องแพ่งเรียกค่าตอบแทนจากอดีตรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง เป็นจำเลยต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 กรณีเป็นชู้กับภรรยาของนาย ก. ตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี อักษรย่อ ย. ได้เคยแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สว. (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ว่า น.ส. ธ. นาย ก. ผู้เป็นสามี นาง ข. ผู้เป็นมารดา และนาย พ. ผู้เป็นบิดาของ น.ส. ธ. ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 65 โดยมีพฤติการณ์คือ เมื่อระหว่างเดือน ธ.ค. 64 ถึงเดือน พ.ย. 65 น.ส. ธ. พร้อมด้วยบิดา และมารดา ได้ร่วมกันหลอกลวงอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย.ว่า น.ส. ธ.ยังไม่ได้แต่งานและยังไม่มีสามี ทั้งที่จริงได้จดทะเบียนสมรส และอยู่กินเป็นสามีภรรยากับนาย ก. มาตั้งแต่ปี 2560 ทำให้อดีตรองนายกรัฐมนตรี ย.หลงเชื่อ และหลงรัก อยากให้ น.ส. ธ. มาดูแลในฐานะคนรัก จึงได้นำเงินไปสู่ขอกับบิดาและมารดาของ น.ส. ธ. โดยเป็นเงิน 1 ล้านบาท แหวนเพชร ราคาประมาณ 5 แสนบาท 1 วง ทองคำจำนวน 50 บาท มูลค่า 1.6 ล้านบาท เงินสดให้ไปซื้อรถ  3 ล้านบาท เงินสดให้ไปซื้อบ้าน 3 ล้านบาท เงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร 319,000 บาท เงินสดที่ น.ส. ธ. เอาไป 10 ล้านบาท รวม 7 รายการเป็นเงิน 19,419,000 บาท

ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาทุกรายทราบอยู่แล้วว่า น.ส. ธ. จดทะเบียนสมรส และอยู่กินกับสามี แต่ได้ปิดบังอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. เมื่อ น.ส. ธ.ได้ทรัพย์สินไปแล้วประมาณเดือน พ.ย. 65 ได้ตีตัวออกห่าง และเลิกกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย. และไม่ติดต่ออดีตรองนายกรัฐมนตรี ย.อีกต่อไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้พ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สว. (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ได้นัดหมายให้ น.ส. ธ. นาย ก. ผู้เป็นสามี นาง ข. มารดา และนาย พ. บิดาของ น.ส. ธ. ผู้ถูกกล่าวหาและสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการอาญาตลิ่งชัน 2 หลังมีคำสั่งฟ้อง แต่ปรากฏว่า นาย พ.ไม่ให้ความร่วมมือการสอบสวนก่อนหน้า และไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ และศาลอนุมัติหมายจับแล้ว จึงส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา 1-3 ให้พนักงานอัยการอาญาตลิ่งชัน เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น พ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สว. (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ทำหนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวน (สรุปสำนวนส่งอัยการ) ที่ ตช 0015. (บก.น.7) 4 (ว.พ.) ลงวันที่ 10 ม.ค. 66 ระบุว่า “เรียน นาย ย.ผู้เสียหาย ตามที่ท่านแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ น.ส. ธ. ผู้ต้องหาที่ 1 นาย ก. ผู้ต้องหาที่ 2 นาง ข. ผู้ต้องหาที่ 3 และนาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 546/2565 และพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนแล้วนั้น

“ขอแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินการของพนักงานสอบสวนให้ทราบดังนี้ 1. ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนสั่งฟ้อง น.ส. ธ. ผู้ต้องหาที่ 1 นาย ก. ผู้ต้องหาที่ 2 นาง ข. ผู้ต้องหาที่ 3 และนาย พ. ผู้ต้องหาที่ 4 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และในส่วนผู้ต้องหาที่ 4 พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับและศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ตามหมายจับที่ จ.4/2566 ลงวันที่ 5 ม.ค. 66 และส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา 1-3 ให้พนักงานอัยการอาญาตลิ่งชัน 2 แล้ว ในวันที่ 10 ม.ค. 66 และขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นอัยการในชั้นศาล”

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค. 66) เวลา 09.00 น. ทนายตั้ม พร้อมผู้เสียหาย ซึ่งเป็นสามีของ น.ส. ธ. จะเดินทางไปแจ้งความอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ สน. บางยี่ขัน ในข้อหาแจ้งความเท็จ และให้การเท็จ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส