คดีพลิกสองโจ๋ถูกไล่ฟันหนีตายที่แท้เปิดก่อน พลาดซิ่งหนีก่อนโดนรุม (คลิป)

9 ม.ค. 66

วันที่ 9 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 16.30 น. เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นต่างสถาบันรุมทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีด เหตุเกิดในพื้นที่ ปากซอยเอกชัย 76 เบื้องต้นทราบว่า คนเจ็บขับรถมอเตอร์ไซค์มากัน 2 คนโดยเข้าไปบริเวณกลางซอยเอกชัย 76 เพื่อไปซื้อน้ำแข็งก่อนจะบังเอิญเจอคู่อริต่างสถาบันซ้อนมอเตอร์ไซค์มา 3 คน และเกิดการตะลุมบอนไล่ฟันกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีมีดทั้งคู่

713689

ก่อนที่ฝ่ายผู้บาดเจ็บ 2 คน จะหลบหนีไปบริเวณหน้าปากซอยเอกชัย 76 และวิ่งหลบเข้าไปภายในร้านขายอุปกรณ์ปั๊มลม เเละถูกกลุ่มคนก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย จากนั้นชาวบ้านได้เเจ้งตำรวจ สน.บางขุนเทียน กลุ่มคนก่อเหตุจำนวน 3 คน จึงขับรถ จยย.หลบหนีไป

900797

โดยผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ทราบชื่อ 1 ในคนเจ็บ คือ นายพลกนก ลาวิไล อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ โดยเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเเละพลเมืองดีช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากนายพลกนก ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่มือทั้ง 2 ข้าง ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันอีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งคู่ถูกนำตัวส่ง รพ.ตากสิน

826098

ทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดจากร้านขายอุปกรณ์ปั๊มลมบริเวณหน้าปากซอยเอกชัย 76 โดยในคลิปวงจรปิดจะเห็นภาพ ที่นายพลกนก คนเจ็บวิ่งหนีเข้ามาในร้าน เเละถูกคู่อริ 2 คน ตามเข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยในภาพจะเห็นว่าคู่อริถืออาวุธที่มีลักษณะคล้ายมีดดาบยาว

367536

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้รับภาพจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุสามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงหน้าซอยมีการตะลุมบอนริมถนน

480449

ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลจากนายไก่ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี เผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนเองไปนั่งกินก็วนเตี๋ยวตรงกลางซอยเอกชัย 76 หลังจากนั้นก็เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม กลุ่มหนี่ง 2 คน อีกกลุ่มหนึ่ง 3 คน ได้รุมทำร้ายกัน โดยกลุ่มที่มากัน 2 คน เป็นคนเริ่มก่อนโดยใช้อาวุธมีดเข้าไปไล่ฟันกลุ่มวัยรุ่น 3 คน

หลังจากนั้นเหมือนจะสู้ไม่ไหว จึงขับขี่รถ จยย.หลบหนีออกไปทางซอยอื่น เเต่ยังคงวิ่งกลับมาที่ถนนเส้นหลัก ส่วนกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ก็ได้ออกมาดักรอที่บริเวณปากซอยเอกชัย 76 เมื่อเห็นคู่อริจึงจอดรถเเละวิ่งเข้าไปตะลุมบอน จนกระทั่งตำรวจมา กลุ่ม 3 คนจึงวิ่งหนีเเละมาขับรถจยย.หลบหนีไปทางถนนเอกชัย-บางบอน 

194354

ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอนกันที่กลางซอยเอกชัย 76 นั้นมีคนเห็นเหตุการณ์ค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นช่วงเลิกงาน ทุกคนพยายามช่วยกันตะโกนห้ามว่าอย่าฟันกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปในวงเพื่อห้ามไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มทำร้ายร่างกายกันเนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีอาวุธมีดยาวลักษณะเดียวกันทั้งคู่

ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีกลุ่มวัยรุ่นตีกันมาก่อนภายในซอยเอกชัย 76 นี้ เเต่ตนก็ไม่เเน่ใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ โดยส่วนตัวเเล้ว ตนเองเคยเห็นหน้า 1 ใน 3 ของกลุ่มคู่อริ เพราะเป็นเด็กในซอย เเต่ก็น่าจะย้ายออกไปนานเเล้ว เพราะไม่เห็นเขามานาน ตอนนี้จึงไม่รู้ว่าเขาหลบหนีไปที่ไหน เเต่เมื่อก่อนเท่าที่สัมผัสเขาก็เป็นคนดี เเละไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใครมาก่อน

ส่วนสาเหตุของเหตุการณ์นี้ตนคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องทะเลาะบาดหมางกันมาก่อนแล้วมีการมาตามเอาคืนกันภายหลัง แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เเต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังเป็นนักเรียนอยู่ด้วย ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์อย่างมาก ตนอยากจะฝากเคสลักษณะนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ และไม่ควรที่จะมาเกิดเหตุ แบบนี้ในพื้นที่ชุมชนที่มีคนค่อนข้างเยอะโชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากลูกหลง

titled

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน ที่ห้องสืบสวน ทีมข่าวได้พบกับ นายเฟีย อายุ 19 ปี 1 ในกลุ่ม 3 คนที่หลบหนีไป กำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ โดยนายเฟียได้เดินทางมาเเจ้งความหลังจากที่ถูกคู่อริกระโดดถีบรถจยย.เเละทำร้ายร่างกายก่อน

371393

ทีมข่าวได้สอบถามนายมอส (นามสมมติ) อายุ 34 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของนายเฟีย ที่มารอหน้าห้องสืบสวน เปิดเผยว่า นายเฟียเป็นเพื่อนกับน้องชายแท้ ๆ ของตนทำให้ตนพอจะรู้จักกับนายเฟียอยู่บ้าง ซึ่งเมื่อเย็นที่ผ่านมาน้องชายของตนได้โทรมาบอกว่านายเฟียถูกเหล็กแทงที่บริเวณซอยเอสเค โดยน้องบอกว่า ฝ่ายคู่กรณีมาเเทงนายเฟียก่อนจึงเกิดการต่อสู้กัน หลังจากนั้นนายเฟียก็ถูกตำรวจเรียกตัวให้มาเเจ้งความ เเละยังไม่ถูกปล่อยตัวไป 

โดยกลุ่มของนายเฟีย มีคนโดนเเทงที่หลังด้วย เเต่ตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนนายเฟียเองก็มีรอยที่หลัง เเต่ตนก็ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดอะไรมาก เพราะตำรวจพาตัวเข้าไปสอบปากคำก่อน ส่วนฝ่ายคู่อริตนก็คิดว่าน่าจะเป็นเด็กช่างเเละมีปัญหากันเรื่องสถาบันจนทำให้ตีกัน นิสัยส่วนตัวของนายเฟียเเล้วตนไม่ค่อยรู้มากนัก เคยเจอก็เเค่ไหว้กันเท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน้องชายเเท้ ๆ ของตนก็ไม่ได้เข้าร่วมด้วย เเต่เป็นห่วงเพื่อนจึงบอกให้ตนมาดูให้เท่านั้น

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส