กรณีช่วงกลางคืนที่ 6 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัวนายไมตรีเรือนมูล หรือ ตรี อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทง นายวัชรินทร์ คำซาว อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน จนทำให้นายวัชรินทร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านไม่มีเลขที่ภายในหมู่บ้านป่าลาน หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบนายวัชรินทร์อยู่ในสภาพนอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าที่บริเวณหน้าอก มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และหมดสติ ไม่หายใจ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ห้ามเลือดและปั๊มหัวใจก่อนที่จะนำตัวส่งมาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสันป่าตอง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น
วันที่ 7 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สภ.สันป่าตอง เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายไมตรี ส่งฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ นายไมตรี เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตัวเองก่อเหตุไปเพราะเมาเหล้า ยืนยันว่าตอนเกิดเหตุ ตัวเองจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย เนื่องจากเมาเหล้าหนักมาก ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายมาก่อนแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุด้วย ทั้งนี้ ตัวเองอยากขอโทษคนตายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายไมตรีส่งฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุบ้านของผู้ตาย ลักษณะเป็นบ้านอิฐผสมไม้ชั้นเดียว ข้างบ้านของผู้เสียชีวิต พบคราบเลือด กระเด็นติดตามสังกะสี และข้าวของเครื่องใช้บริเวณนั้น ส่วนจุดที่เจอศพของผู้เสียชีวิตทางญาติได้นำดินทรายมากลบเรียบร้อยแล้ว ที่ข้างจุดพบศพ ยังเจอหม้อต้มที่ผู้เสียชีวิต กำลังต้มเนื้อหมูเพื่อทำกับข้าว กระทั่งมาถูกนายไมตรีแทงเสียชีวิตก่อน
นางแตง (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 19.20 น. ตัวเองได้ยินเสียงนายวัชรินทร์ หรือ หนุ่ย ผู้เสียชีวิต ร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงโหยหวนว่า "แทงผมทำไม แทงผมทำไม" แต่ตัวเองไม่ได้ยินเสียงคนก่อเหตุ จากนั้นตัวเองจึงรีบวิ่งมาที่จุดเกิดเหตุ มาเจอนายวัชรินทร์นอนจมกองเลือดที่ข้างบ้าน มีรอยเลือดเต็มตัว คาดว่าน่าจะโดนแทงหลายแผล ตอนนั้นนายวัชรินทร์ยังไม่เสียชีวิต เขาได้พูดกับตัวเองว่า “เจ็บ เจ็บ” จากนั้นตัวเองจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่
ส่วนคนก่อเหตุ หลังก่อเหตุแล้ว เขาได้เดินกลับบ้านของเขา ที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านคนตาย ซึ่งตัวเองสังเกตสีหน้าของผู้ก่อเหตุว่าสีหน้ามึนเมา ส่วนตัวแล้วตัวเองก็ไม่รู้ว่าทั้ง 2 ทคนทะเลาะกันเรื่องอะไร เพราะที่ผ่านมา 2 คนนี้เขาอยู่ด้วยกันเหมือนลุงกับหลาน สำหรับคนก่อเหตุ เขาจะมีนิสัยขี้เมา ชอบระรานและขู่ชาวบ้าน เขาจะพกมีดปลายแหลมติดตัวตลอดเวลา
ช่วงเที่ยงญาติผู้เสียชีวิตได้พาทีมข่าวไปดูที่จุดเกิดเหตุ เหล่าบรรดาญาติผู้เสียชีวิต เมื่อเห็นคราบเลือดในสถานที่จุดเกิดเหตุ ก็ต่างพากันน้องไห้ฟูมฟาย เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางสาวบุปผา คำซาว อายุ 46 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตัวเองอาศัยอยู่ต่างอำเภอ จึงไม่รู้เหตุการณ์ตอนเกิดเหตุ แล้วที่ผ่านมาพี่ชายและผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน และที่ผ่านมาพี่ชายของตัวเองก็อยู่กับผู้ก่อเหตุมาแบบพ่อลูกกันตลอด ตัวเองจึงไม่คิดว่า นายไมตรีจะกล้ามาก่อเหตุกับพี่ชายตัวเองได้ และมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำเกินกว่าเหตุ
สำหรับนายไมตรี ผู้ก่อเหตุมีนิสัยชอบดื่มเหล้า พอดื่มเหล้าเมาก็จะมีเรื่องกับชาวบ้านไปทั่ว แต่ถ้าเขาไม่ดื่มเหล้า เขาก็นิสัยดีอยู่เหมือนกัน ส่วนพี่ชายตัวเอง เป็นคนเงียบ ๆ ชอบอยู่คนเดียวไม่ค่อยมีปีญหากับใคร แต่เองมาเห็นคราบเลือดที่เกิดเหตุ แล้วรู้สึกหดหู่ ทำใจไม่ได้ อยากให้คนก่อเหตุมารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำลงไป เพราะทางครอบครัวตัวเองก็ฐานะยากจน ถ้าคนก่อเหตุได้ประกันตัวออกมา ตัวเองก็ยินดีให้เขามาขอขมาศพพี่ชาย เพราะอยากให้พี่ชายไปสบาย ถ้าเจอหน้าคนก่อเหตุ ตัวเองอยากจะถามเขาว่าพี่ชายตัวเองไปทำอะไรให้ ทำไมต้องมาฆ่าพี่ตัวเองด้วย
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.65 นายวัชรินทร์ไปหาตัวเองที่บ้านใน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ วันนั้นพี่ชายตัวเองแต่งกายไปค่อนข้างโทรม สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ น้าอีกคนจึงทักทายพี่ชายลักษณะเป็นลางสังหรณ์ว่า "ทำชอบใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ เสื้อผ้าตัวใหม่ ๆ จะรอเอาใส่หน้าโลงศพหรอ" จากนั้นพี่ชายตัวเองก็หัวเราะ
ด้านนางปราณี อุปธรรม อยุ 66 ปี เพื่อนบ้านคนก่อเหตุ เล่าว่า สำหรับนายไมตรี ผู้ก่อเหตุ มีนิสัยขี้เมา ชอบระรานคนในหมู่บ้านไปทั่ว และนายไมตรี เขาจะชอบพกมีดปลายแหลมที่เขาก่อเหตุไว้ที่ตัวเป็นประจำ ก่อนหน้าจะเกิดเหตุก็เคยมาขอเงินตัวเองไปซื้อเหล้า ถ้าตัวเองไม่ให้เงินเขา เขาก็จะขู่ฆ่าตัวเอง จะเอามีดมาแทงตัวเอง จนตัวเองต้องให้เงินเขาประจำ
สำหรับนายวัชรินทร์ไม่ใช่ศพแรกที่นายไมตรีฆ่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา นายไมตรีก็เคยใช้มีดแทงชายต่างหมู่บ้าน จนชายรายนั้นเสียชีวิตมาแล้ว โดยนายไมตรีเปรียบเสมือนเป็นบุคคลอันตรายในหมู่บ้าน
