GPS ไม่ใช่เซฟโซน พาขับรถขึ้น "เขานางหงส์" ตอนแรกไม่รู้ มารู้ทีหลังถึงกับขนลุกซู่ ชาวเน็ตโผล่เมนต์ ถนนเส้นนี้ไม่ค่อยมีใครไปแล้ว
เรื่องราวของ GPS ที่สร้างตำนานบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง เช่น พาไปในทางที่มักไม่มีใครไป แม้แต่คนในพื้นที่เองก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไป แต่เจ้าสิ่งนี้พาเขาไป จนทำให้หลายต่อหลายคนได้สร้างไวรัลไว้บนโลกออนไลน์ให้ได้แชร์ต่อมากมาย
เช่นเดียวกับผู้ใช้งาน TikTok ชื่อว่า @milkk_2001 ซึ่งเธอได้เแชร์เรื่องราวการเดินทางระหว่างกลับจากพังงา โดยเธอได้ให้เจ้า GPS ช่วยนำทางไป แต่ปรากฎว่าเส้นทางที่รถกำลังเคลื่อนผ่านสองข้างทางขนาบด้วยป่าไม้เขียวชะอุ่ม พร้อมฝนที่โปรยลงมาสร้างบรรยากาศชวนขนลุกประกบกับแสงสลัวก่อนพระอาทิตย์จะลับของฟ้าในวันนั้น
เธอระบุว่า ระหว่างเส้นทางไม่มีรถสวนมาเลยแม้แต่คันเดียว มีเพียงรถของเพื่อนร่วมทางที่นำหน้าเธอ ซึ่งคาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางตาม GPS ไปเช่นเดียวกับเธอ
ผู้ใช้งาน TikTok รายนี้ บรรยายของความเอาไว้ว่า "ระหว่างกลับจากพังงา GPS พาเรามาทางลัด มีแค่ 2 คันที่ขับมา เราเชื่อว่าเขาก็เป็นนักท่องเที่ยวแบบเรา ไม่รู้เส้นทาง ฝนก็ตก ตอนนั้นในใจหวิวๆมาก แต่ไม่ได้คิดอะไร จนกลับมาเพิ่งรู้ว่า GPS พาขึ้นเขานางหงส์"
@milkk_2001 GPS ไม่ใช่เซฟโซนก็วันนี้แหละ⛰️😂 #เขานางหงส์ #พังงา ตอนนั้นยังไม่รู้แต่ตอนนี้รู้แล้วขนลุกซู่ #ความเชื่อ #มะละมิ้วรีวิว #gps ♬ ความรักเจ้าเอย - มะเขือเทศสีชมพู(◍•ᴗ•◍)🌺
หลังจากที่แชร์เรื่องราวไปไม่นาน ผู้ใชงานรายอื่นก็ได่เข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยระบุข้อความว่า "ทางไปพังงา อันนี้เป็นเส้นเก่า ที่มีคนตกเขาตายเยอะ เลยไม่ค่อยมีใครไปแล้วครับ"
พร้อมทั้งยังได้มีบางรายที่ช่วยแนะนำวิธีการใช้งาน GPS ก่อนการเดินทางเพื่อป้องกันไม่ให้หลงเข้าไปในเส้นทางเปลี่ยนเช่นในคลิปว่า "เปลี่ยนจีพีเอสให้เป็นโหมดดาวเทียมค่ะ จะดูง่าย โซนไหนป่าเขา โซนไหนเป็นเมืองจะเห็นหลังคาบ้าน เราเป็นเซลล์เดินทางเยอะ แฟนสอนให้เปิดโหมดดาวเทียม"
สำหรับ ตำนานเขานางหงส์ เส้นทางที่ผู้ใช้ TikTok รายนี้ขับขึ้นไปมีอยู่ว่า มีชาย 2 คน เป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งชื่อเฒ่า อยู่บ้านทับปุด อำเภอทัปปุด จังหวัดพังงา อีกคนหนึ่งชื่อเต่า อยู่ที่เมืองพังงา นายเต่า มีลูกสาวสวยมากชื่อ นางหงส์ ไม่ยอมแต่งงานกับชายใด ต่อมา นายเฒ่า มาสู่ขอจากนายเต่า นายเต่าเห็นว่านายเฒ่า เป็นคนดี รูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลาก็ยกลูกสาวให้
พอถึงวันดีนายเฒ่า ก็ยกขันหมากแห่กันมาอย่างมโหฬารเดินทางมาจากทับปุดมายังพังงา นายเต่า ก็จัดการหุงหาอาหาร ฝ่ายนางหงส์ เห็นขบวนขันหมากมาสอบถามจนรู้ว่านายเฒ่าจะมาแต่งงานกับตนก็โกรธแค้นว่าแก่เฒ่าแล้วยังไม่เจียมตัว เพราะนางคิดว่าเฒ่า หมายถึงคนเฒ่าคนแก่ จึงตะโกนด่าต่างๆ นานาไม่ยอมแต่งงานด้วย
นายเฒ่า ก็ทั้งโกรธทั้งอายถึงกับเหวี่ยงขันหมากทิ้ง เวลาผ่านมา นางหงส์ ได้ไปเที่ยวงานแห่งหนึ่ง ได้แอบเห็นนายเฒ่า เข้าก็ตกตะลึงเพราะเป็นคนหนุ่มรูปหล่อ นางหงส์ นึกเสียดายรีบกลับบ้านจัดพานดอกไม้ธูปเทียนเดินทางไปขอขมาลาโทษต่อนายเฒ่าทันที เมื่อไปถึงก็รีบกราบขอขมา และบอกว่าจะยินดีแต่งงานด้วย นายเฒ่า กลับตวาดด่าต่างๆ นานา และขว้างพานดอกไม้ทิ้ง
นางหงส์ ได้รับความอับอายอย่างยิ่งจึงวิ่งกลับบ้านด้วยความแค้นสุดขีดจึงขาดใจตายในระหว่างทาง จากนั้นร่างของนางหงส์ กลายเป็น “เขานางหงส์” กั้นเขตแดนระหว่างอำเภอเมืองพังงา กับทับปุดมาจนถึงทุกวันนี้ ฝ่ายนายเฒ่า พอทราบข่าวนี้ก็เสียใจเดินทางไปทรุดนั่งเหม่อมองทะเลจนขาดใจตาย ร่างของนายเฒ่า ก็กลายเป็น “เขาเฒ่า” อยู่ชายทะเลในเขตอำเภอทับปุดนั่นเอง
