จากกรณี วันที่ 26 ธ.ค. 65 เวลา 22.30 น. ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเหตุผู้หญิงกระโดดจากสะพานท่าเคียน ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองอู่ตะเภา ถนนศรีภูวนารถ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทางตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุทันที
ทราบจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่า มีผู้หญิงกระโดดจากสะพานลงไปในคลองและถูกกระแสน้ำพัดหายไปในความมืด และตอนเกิดเหตุมีชายวัยรุ่น 2 คน ที่นั่งตกปลาเห็นเหตุการณ์ ได้กระโดดลงไปช่วย แต่ทำได้แค่ประคองตัวหญิงคนนี้เอาไว้ และทั้งสามคนก็ถูกกระแสน้ำพัดลอยไปเกาะกิ่งไม้บริเวณชายฝั่ง ไม่สามารถขึ้นมาจากคลองได้ และทั้งสามคนก็เริ่มหมดแรงลอยคออยู่ในคลอง โดยคนหนึ่งคอยประคองหญิงคนนี้เอาไว้ ส่วนอีกคนก็ลอยคออยู่ริมฝั่ง
ระหว่างนั้นมีตำรวจ 2 นายคือ จ.ส.ต. คำสิงห์ จำปาขีด ผบ.หมู่ (ป) สภ.หาดใหญ่ และ ด.ต.สมศักดิ์ แก้วเพ็ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.หาดใหญ่ ตัดสินใจวิ่งลุยป่าลงไปในคลองทั้งเครื่องแบบ และว่ายน้ำไปช่วยชีวิตหญิงคนนี้ขึ้นมาจากน้ำ รอดชีวิตอย่างฉิวเฉียดเพราะเริ่มอ่อนแรงเต็มที และอุ้มขึ้นมาจากคลองอย่างทุลักทุเลเพราะน้ำเชี่ยว และริมคลองเป็นโคลนตมเดินลำบาก
ก่อนประสานหน่วยกู้ภัยให้มารับตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อคือ นางศศิธร อายุ 36 ปี ส่วนวัยรุ่นพลเมืองดีอีก 2 คน ที่ลงไปช่วยทีแรกก็ปลอดภัย และช่วยขึ้นมาจากคลองได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน
สำหรับหญิงสาวที่กระโดดสะพานรายนี้ ทราบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยกระโดดสะพานมาแล้ว 2 ครั้ง และกินยาฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง มีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวชรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่
ล่าสุดในวันที่ 27 ธ.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ จ.ส.ต.คำสิงห์ จำปาขีด ผบ.หมู่ (ป) สภ.หาดใหญ่ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวหลังได้รับแจ้งว่ามีคนกระโดดจากสะพานท่าเคียนก็รีบไปช่วยทันที และทราบว่าคนที่กระโดดสะพานเป็นผู้หญิงและมีวัยรุ่นสองคน ซึ่งกระโดดตามลงไปช่วยและทั้งสามคนถูกน้ำซัดลอยไปเกาะกิ่งไม้อยู่ริมคลองขึ้นมาไม่ได้ และจุดนั้นมืดมากต้องใช้ไฟฉายส่อง แต่โชคดีที่บริเวณนี้ตนทั้งสองรู้จักทางลงดี เพราะเมื่อสองปีก่อนก็เคยลงไปช่วยหญิงสูงอายุที่พลัดตกคลองบริเวณนี้เหมือนกัน
ด้าน พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ต้องขอชื่นชมตำรวจสายตรวจทั้งสองนายที่มีจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เต็มตัว ไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ มากกว่าความเป็นตำรวจด้วยซ้ำ เหตุการณ์นี้ได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาให้รับทราบแล้ว และจะมอบประกาศเกียรติคุณให้อีกครั้ง และถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับตำรวจด้วย และทราบว่าทั้งสองคนก็เคยช่วยคนจมน้ำแบบเดียวกันนี้มาครั้งหนึ่งแล้วด้วย แสดงถึงความมีน้ำใจและการทุ่มเทในหน้าที่ของตำรวจ
ส่วนพลเมืองดีอีก 2 คน ที่กระโดดลงสะพานลงไปช่วย ก็มีส่วนสำคัญในเหตุการณ์นี้ ถ้าสองคนนี้ไปกระโดดลงไปช่วยก่อนก็อาจจะช่วยไม่ทัน หากเห็นข่าวนี้ก็ขอให้แสดงตัวในฐานะพลเมืองดีและมาพบเพื่อมอบประกาศเกียรติคุณให้ในฐานะพลเมืองดีที่ช่วยชีวิตคนเอาไว้ในครั้งนี้
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณสะพานข้ามคลองอู่ตะเภา ถนนศรีภูวนารถ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ไปพบกับ นายพรชัย พิมพ์หล่อ หรือ ท๊อป อายุ 25 ปี พลเมืองดี ซึ่งขายใบกระท่อมตรงจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อคืนขณะที่ตนขายใบกระท่อมอยู่ ก็เห็นผู้หญิงกระโดดจากสะพานลงไปในคลอง ทันใดนั้นตนก็วิ่งและกระโดดตามลงไปช่วย
หลังจากที่ตนคว้าตัวของผู้หญิงคนดังกล่าวได้ ตนก็พยายามว่ายน้ำเข้าริมฝั่งและเกาะกับต้นไม้ ซึ่งห่างจากจุดกระโดดประมาณ 500 เมตร และกอดผู้หญิงคนดังกล่าวประคองไม่ให้เขาจม ขณะเดียวกันนายโชคชาย สร้อยทอง หรือ มอส อายุ 23 ปี น้องชายของตนก็กระโดดตามลงไปด้วย และพยายามว่ายมาช่วยให้ตนได้ขึ้นฝั่ง แต่ก็ว่ายน้ำมาไม่ได้เพราะน้ำแรงมาก ได้แต่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็ตามมาช่วย
ยอมรับว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นน้ำค่อนข้างแรง แต่ตนก็ตัดสินใจที่จะกระโดดน้ำไปช่วยเขาเพราะกลัวเขาจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่มาช่วย เพราะในช่วงเกิดเหตุนั้นตนกำลังจะหมดแรงแล้ว และไม่สามารถจะขึ้นจากน้ำได้ ถ้าตำรวจไม่มาช่วยก็อาจจะเป็นตนอีกคนที่ต้องเสียชีวิต
