ลุ้นกันยาวยิ่งกว่าหนังชีวิต! อาร์เจนตินา ดวลลูกโทษชนะ ฝรั่งเศส ซิวแชมป์บอลโลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา พบกับ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่สนามลูเซล ไอคอนิก เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ครึ่งแรกเป็นอาร์เจนตินาที่มีโอกาสได้ครองบอลและกดดันหน้าประตูฝรั่งเศสมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่นาทีที่ 21 อาร์เจนตินาจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่ "เดมเบเล" เข้าสกัดใส่ด้านหลังของ "ดิมาเรีย" และก็เป็น "ลิโอเนล เมสซี" รับหน้าที่สังหารจุดโทษสำเร็จ ทำให้ทีมฟ้าขาวขึ้นนำไปก่อน 1-0
อาร์เจนตินา เครื่องร้อนหลังได้ลูกแรกมาแล้ว ทำให้เล่นได้มั่นใจมากขึ้นเปิดเกมรุกใส่ฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ "อังเคล ดิ มาเรีย" จะซัดเน้นๆ ตุงประตู ในนาทีที่ 36 ทำให้อาร์เจนตินา หนีห่าง ฝรั่งเศส ไปเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรก
ครึ่งหลัง ฝรั่งเศสเร่งเครื่องอย่างหนัก หวังตีไข่แตกก่อนเพื่อเรียกความมั่นใจ แต่อาร์เจนตินาก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เปิดเกมรุก ช่วยกันบีบพื้นที่เข้ามาวนเวียนหน้าประตูทีมตราไก่ให้ได้ลุ้นสกอร์อย่างสนุก
จุดเปลี่ยนเกมอยู่ที่นาทีที่ 80 อาร์เจนตินามาโดนจุดโทษ ก่อนที่ "คีลิยัน เอ็มบัปเป้" จะซัดเข้าประตูแบบเต็มคาราเบล ให้ฝรั่งเศสตามมา 1-2
นาทีที่ 81 กองเชียร์ฝรั่งเศสยังไชโยโห่ร้องกันไม่จบ ก็ต้องเฮกันอีกครั้งเมื่อ "เอ็มบัปเป้" คนเดิมซัดบอลตุงตาข่ายให้ฝรั่งเศส กลับมาตีเสมออาร์เจนตินาได้ทัน 2-2 จนทำให้ความกดดันกลับไปสู่นักเตะทีมฟ้าขาว
หมดเวลา 90 นาที ฝรั่งเศส เสมอ อาร์เจนตินา 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมมีโอกาสส่องประตู แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่ได้ ครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ อาร์เจนตินา ได้เฮอีกครั้ง เมื่อเมสซีทำประตูแซงนำในนาทีที่ 109 ทำให้ฟ้าขาวขึ้นนำ 3-2
แต่สถานการณ์ยังไม่จบ กรรมการเป่าจุดโทษอาร์เจนตินาจากลูกแฮนด์บอล ก่อนที่ "เอ็มบัปเป้" จะซัดแฮตทริกจากจุดโทษในนาทีที่ 118 ตีเสมอให้ตราไก่ 3-3 ท่ามกลางเสียงเฮจากกองเชียร์ลั่นสนาม ก่อนที่เสียงนกหวีดจะดังว่าหมดเวลา ต้องไปวัดกันที่การดวลจุดโทษ
และเป็น อาร์เจนตินา ที่แม่นยำกว่า สามารถดวลจุดโทษชนะ ฝรั่งเศส 4-2 ทำให้อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ได้เป็นสมัยที่ 3 ถัดจากปี 1986 และ 1978 และ "ลิโอเนล เมสซี" ยังขึ้นหิ้งเป็นนักเตะคนที่ 9 ในโลกนี้ ที่ได้ทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก, แชมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และรางวัลบัลลงดอร์
