“นฤมล” แนะเสริมจุดแข็งส่งออกท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจปี 66

13 ธ.ค. 65

“นฤมล” ระบุ ธปท.สะท้อนว่าระบบการเงินไทยยังมั่นคง แนะเสริมจุดแข็งส่งออก-ท่องเที่ยว เร่งปิดจุดอ่อนหนี้ครัวเรือน-SMEs ดันเศรษฐกิจปี 66

วันที่ 13 ธ.ค. 65 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีต รมช.แรงงาน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ #เสริมจุดแข็งปิดจุดอ่อน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่งรายงานตัวเลขเงินกองทุน และเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง และสถานะทางการเงินของธุรกิจประกันภัยยังมั่นคง สะท้อนว่าระบบการเงินไทยยังมั่นคง แต่ระบบการเงินโลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ที่อาจส่งผลกระทบกับเสถียรภาพของระบบการเงินไทยได้”

ศ.ดร.นฤมล ระบุต่อว่า "การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกทั่วโลกหดตัว การส่งออกไทย เดือน ต.ค. 65 ขยายตัวติดลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ 4.4% หรือมูลค่า 801,273 ล้านบาท ล่าสุด ธปท. และสภาพัฒน์ฯ คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยปี 2023 จะโตเพียง 1% จากปี 2022  ทิศทางการส่งออกของไทยในปี 2023 จึงยังเป็นที่น่ากังวล โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ในขณะที่รายได้จากภาคการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มศักยภาพ ต้องเร่งแผนส่งเสริมการส่งออกเพื่อเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังไปได้ดี โดยเฉพาะ “ข้าว” ยังเป็นพระเอก ส่งออกขยายตัว 2.8% ต่อเนื่องมาตลอด มีโอกาสเติบโตเพิ่มทั้งในตลาดอิรัก จีน แอฟริกาใต้ และญี่ปุ่น”

ศ.ดร.นฤมล ระบุอีกว่า "นอกจากเร่งส่งเสริมจุดแข็งในภาคส่งออก และภาคท่องเที่ยวแล้ว เราต้องรีบปิดจุดอ่อนในระบบการเศรษฐกิจและการเงินไทย คือ ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและ SMEs ที่ยังมีมูลหนี้ในระดับสูง สัญญาณหนี้เสียมาจากกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัว การระดมสรรพกำลังแก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ให้กลุ่มนี้ ไม่เพียงพอ เขาจำเป็นต้องได้รับมาตรการเสริมเฉพาะจุดในการช่วยเพิ่มรายได้ และมาตราะที่จะช่วยลดค่าครองชีพ ไม่ต้องทำแบบหว่านแหให้ทุกคน แต่ทำเฉพาะกลุ่ม ด้วยการใช้ข้อมูลเฉพาะของกลุ่มเปราะบางนี้มาจัดมาตรการเฉพาะช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนถึงระยะปานกลาง จะเป็นหนทางในการป้องกันความเสียงให้กับระบบเศรษฐกิจและการเงินไทย"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม