รปภ.เมาหนักซิ่งเก๋งชนดะ พลเมืองดีไล่บี้จับส่งตร. สุดพีกลูกน้อยกล่อมพ่อเป่าแอลกอฮอล์รับผิด (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีรถเฉี่ยวชนและหลบหนี บริเวณถนนเทพคุณากรซอย 2 อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ด้านหน้าฝั่งซ้ายมีร่องรอยการถูกชนเสียหาย

ในที่เกิดเหตุพบชายยืนอยู่ข้างรถ โดยแต่งกายชุดเสื้อยืดสีเขียวและกางเกงขายาวสีเขียวลักษณะคล้ายชุดทหาร ในสภาพคล้ายคนเมายืนเซไปเซมา ภายในรถยังมีเด็กอายุประมาณ 6 ปี นั่งมาทางด้านหน้าคนขับ อยู่ในลักษณะตกใจตื่นกลัวร้องไห้อยู่ ทราบชื่อคนขับคือ นายประเสริฐ สุขญาติ อายุ 50 ปี โดยพลเมืองดีระบุว่า นายประเสริฐ ขับรถชนรถที่จอดข้างทาง 2 คันแล้วหลบหนี จึงตามมาจนยอมหยุดรถ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุถนนเทพคุณากร ด้านหน้าอาคารพานิชย์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บนถนนมีเศษกระจกกระจายทั่ว รวมถึงรอยขูดลากเป็นทางยาว สอบถาม นายชัยชนะ จงธรรม อายุ 20 ปี พลเมืองดี เล่าว่า เมื่อคืนนี้วันที่ 25 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาที่จุดเกิดเหตุ สังเกตว่ารถเก๋งขับส่ายไปมาก่อนจะเฉี่ยวชนรถที่จอดข้างทาง 2 คัน และมีเสียงรถเก๋งยางระเบิด จากนั้นก็ขับต่อไปโดยไม่หยุดรถ โดยล้อขูดไปตามพื้น ตนจึงบีบแตรให้อีกฝ่ายหยุดรถแต่ก็ไม่ยอมหยุด จึงขับต่อไปและพยายามเรียกให้จอด

อีกฝ่ายขับเบียดตนจนเกือบล้มไม่ให้ตามต่อจนไประหว่างทางเจอรุ่นน้องจึงบอกให้ช่วยตาม และมีพลเมืองดีคนอื่นขับตามมาด้วย
จนไปถึงถนนศรีโสธรตัดใหม่หลังมหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร รถคันก่อเหตุขับต่อไม่ได้เพราะยางระเบิดทำให้รถจอด ตนจึงเรียกให้ลงมาจากรถพบว่าคนขับรถเป็นชายแต่งกายท่อนบนเสื้อสีเขียวคล้ายทหารมีเด็กผู้ชายนั่งมาด้วยด้านข้าง

โดยคนขับมีอาการคล้ายเมาหนักเดินเซไปเซมา อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่ขับรถชน ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจและให้เพื่อนมาบอกเจ้าของรถที่เสียหายไปที่จุดดังกล่าว หลังจากนั้นมีเพื่อนของผู้ก่อเหตุตามมาอีก 2 คน ลักษณะกร่างบีบแตรตั้งแต่มาถึง แต่ตนไม่ได้เข้าไปคุยรายละเอียด ทั้งนี้มองว่าหากตนไม่ขับรถตามมาผู้ก่อเหตุขับรถหนีไม่รับผิดชอบแน่นอน

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ระบุว่า จากการตรวจสอบนายประเสริฐ สุขญาติ อายุ 50 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาล แต่เคยเป็นทหารเกณฑ์ ไม่ได้มีตำแหน่งทางทหารแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถชนทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย

โดยเจ้าตัวไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์จึงส่งไปตรวจเลือด ซึ่งต้องรอผลก่อนว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายหรือไม่ จึงจะสามารถแจ้งเรื่องเมาแล้วขับได้ นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหาเพื่อนของนายประเสริฐที่ขับรถตามมา ในข้อหาเมาแล้วขับ เพราะเป่าแอลกอฮอล์แล้วเกินกว่ากฎหมายกำหนด