ผัวตำรวจขี้วีนปืนตบเมีย ฉุนตื๊อให้ดูหนัง อ้างต้องซ่อมรังรักไร้เวลาสวีต (คลิป)

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ซี (นามสมมติ) หยื่อทารุณกรรม ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถ.รังสิต-นครนายก (คลอง7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณาหงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดีเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูกสามีที่เป็นตำรวจมีพฤติกรรมสองบุคลิกชอบใช้ความรุนแรง ถึงขั้นปืนจ่อศีรษะ โดย น.ส.ซี ต้องการหย่าแยกทางหวั่นเป็นอันตรายถึงชีวิต

น.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย ภรรยาดาบตำรวจเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เผยว่า ตนเองอยู่กินกับสามีมา 3 ปี จดทะเบียนสมรสกัน โดยก่อนหน้านั้นที่รู้จักกันรู้จักผ่านเฟซบุ๊กและสามีย้ายมาจาก จ.เพชรบุรี แต่ไม่ได้บอกว่าทำอาชีพอะไร จนกระทั่งพูดคุยกันประมาณ 3 เดือน และคบหาจดทะเบียนด้วยกัน จึงย้ายไปอยู่ในแฟลตตำรวจกับเขา ที่ผ่านมาสามีคล้ายเป็นคนสองบุคลิกเวลาหงุดหงิดโมโหจะอารมณ์ร้ายเวลาอารมณ์ดีก็จะดีมาก เมื่อพูดจาขัดใจก็จะทำร้ายตบตีกว่า 10 ครั้งมาแล้ว ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานในแฟลตตำรวจ สถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเพียงเพราะพูดไม่เข้าหูเขา

ซึ่งล่าสุดวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา สามีไม่พอใจ เพราะสามีตนเองอยากจะรีโรเวททาสีห้องแต่ตนขอให้ไปทาวันที่ตนไม่อยู่ เพราะวันนั้นจะขอนอนพักเพราะเป็นวันหยุดของตนเพียงแค่ 1 วัน และหยุดพร้อมกันอยากนอนอยู่ด้วยกัน ซึ่งตอนเช้านั้นก็พูดคุยกันปกติทานข้าวปกติไม่มีเรื่องทะเลาะกัน

ตนเองพูดเพียงแค่ว่า "เธออย่าเพิ่งทาได้ไหมเดี๋ยวมันเหม็น นาน ๆ ที่เราจะได้หยุดตรงกัน จะได้นอนดูหนังกัน" แต่สามีก็ไม่พอใจขึ้นเสียงดุด่า "มึงอยากจะนอนมึงก็นอนไป" และตนเองก็น้อยใจเลยบอกว่า "นาน ๆ ที เธอมานอนเล่นกันมั้ย" เขาก็บอกว่า "ไม่ได้มีเวลาให้เยอะขนาดนั้น" และสามีเอาแปรงทาสีไม้มาฟาดที่แขน ตบตี เตะตามลำตัวจนตนล้มลงบนที่นอน ก่อนที่สามีจะขึ้นคร่อมและบีบคอง้างมือจะใช้ปืนตบหน้าตนกลัวมากนาทีนั้นต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจึงรอดมาได้

อีกทั้งที่ผ่านมาสามีก็เคยใช้ปืนยิงเฉียดหูมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากทะเลาะกันเพราะพูดไม่เข้าหู ซึ่งตนเองก็มองว่า ตนเองพูดปกติ เหมือนสามีภรรยา ตนเองไม่เคย ใช้คำพูดรุนแรงเลย ซึ่งตนเองก็หนีออกมาได้ประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาสักตัว ไม่กล้าอยู่ด้วย ยอมรับว่าตนเองก็รักเขามากเช่นกัน เพราะมีแพลนจะแต่งงานด้วยกันในสิ้นปีนี้ และได้ไปดูแหวนแต่งงานด้วยกันมาแล้ว แต่ก็คงต้องยกเลิกงานไป ในตอนนี้ตนต้องการแยกทางต้องการหย่ากับเขา เพราะกลัวว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ

ทีมข่าวเดินมางมายังพื้นที่แฟลตตำรวจภายใน ซ.รามอินทรา 39 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยทีมข่าวได้เดินเข้า พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนนายดาบเกรียงไกร ระบุว่า ตนเองก็เป็นเพื่อนร่วมงานรู้จักดาบตำรวจเกรียงไกรเขาย้ายมาจาก สภ.เพชรบูรณ์ มาได้หลายปีแล้ว โดยเขาก็เป็นคนเงียบ ๆ เก็บตัว ก็เคยเห็นทะเลาะกับภรรยาแต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวเขาและทราบว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ภรรยาเขาหนีออกไปจริง ตนเองไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของเขามากสักเท่าไหร่ก็ปล่อยเขาจัดการกันไป ส่วนเรื่องที่ยิงกันในแฟลตตนเองก็ไม่ทราบไม่ได้อยู่แฟลตตลอดเวลา

ขณะเดียวกันทีมข่าวพยายามโทรศัพท์หาดาบตำรวจเกรียงไกร โดยเจ้าตัวระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภรรยาบอกว่าถูกทำร้าย เนื่องจากตนเองจะทาสีภายในห้องและภรรยาก็พูดคุยกับตนห้ามทาสี ซึ่งภรรยาเขาก็ด่าทอตนเองว่ากล่าวด่าไปถึงบุพการีและลูกของตนเองกับภรรยาเก่าตนเองจึงโกรธโมโห จึงใช้แปรงทาสีทาตีไปที่แขนของเขาและต่อยไป 1 ที เท่านั้น และก็ไม่ได้มีอะไรก็เป็นปกติที่สามีภรรยาทะเลาะกัน

ส่วนเรื่องครั้งอื่น ๆ กว่า 10 ครั้งนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรมากมันเป็นเรื่องผ่านมานานแล้วไม่ขอเล่าว่าเพราะอะไร เป็นเรื่องสามีภรรยาทะเลาะกันไม่อยากพูดถึงแล้ว อีกทั้งเรื่องของที่ภรรยาได้บอกว่าตนเองเคยใช้ปืนยิงภายในแฟลตเฉี่ยวภรรยานั้น ดาบตำรวจตอบย้ำกับทีมข่าวว่า “จำไม่ได้ครับ“ ทีมข่าวจึงย้ำถามว่านานแล้วหรือยังก็ได้ตอบว่า “จำไม่ได้ครับ“

ดาบตำรวจเกรียงไกร ยืนยันว่าตนเองนั้นพร้อมที่จะไปสำนักงานเขตเพื่อที่จะเดินทางไปหย่ากับทางด้าน น.ส.ซี ภรรยา อย่างแน่นอน เพราะตนเองก็พยายามติดต่อ แต่ภรรยาก็ไม่เดินทางมาพบเจอแต่อย่างใด