ไม่ดุแน่นะวิ! พิตบูลบุกบ้านคน ป้าเปิดก้นเย้ยพวกรุมตี อ้างน่ารักแค่หลุดไม่กัดคน (คลิป)

จากกรณีที่เพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2" ได้มีการโพสต์คลิปวีดีโอพร้อมกับข้อความที่ระบุว่า "#เล่าเรื่องจากหลังไมค์ ปัญหาเพื่อนบ้านกับการเลี้ยงหมา พิตบูลบ้านหนึ่งมากัดหมาบ้านหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างก็รักน้องสี่ขา การเลี้ยงดูแลถ้ามันบกพร่องอย่างไร แก้ไขปรับเปลี่ยนเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ ผู้นำชุมชนหรือ จนท.ฝ่ายปกครองที่เป็นคนกลางช่วยเข้าไปไกล่เกลี่ยด้วย พิตบูลมากัดหมาเราในบ้านเราหลายครั้งหลาย ไม่ยอมรับผิดแถมด่าเราเสีย ๆ หาย ๆ วันนี้อีกแล้วมีคลิปให้ดู มันก็เหมือนเดิมจะมากัดลูกสาวเราอีกเราต้องป้องกันตัวดูคลิปเองค่ะ” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา

โดยภาพภายในคลิปวีดีโอเป็นภาพที่ชายคนหนึ่งกับเด็กวัยรุ่นผู้หญิง ซึ่งคาดว่าทั้งคู่น่าจะเป็นพ่อลูกกัน กำลังอุ้มสุนัขพิตบูลของตนพร้อมกับเดินกลับไปยังบ้านของตนเองซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม 

ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย. 65 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังพื้นที่ หมู่ 7 บ.ไทรทอง ต.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พบกับนางนัทธิญา ชาบรรทม อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลมากัดสุนัขของตัวเองได้รับบาดเจ็บ

นางนัทธิญา เล่าให้ฟังว่า บ้านของตนเองนั้นอยู่คนละฝั่งถนนกับคู่กรณี ห่างจากกันแค่นิดเดียว โดยวันเกิดเหตุนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 14.15 น. ของวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นตนเองกำลังทำงานสับร่องปลูกมะเขือเทศอยู่ข้างบ้าน และได้ยินลูกค้าที่มาซื้อของในร้านของคู่กรณีตะโกนบอกว่าหมาหลุด ๆ ตนเองก็มองไปดูเห็นหมาหลุด ได้ยินเสียงลูกสาวเขาพูดว่าไปทำไม ๆ แต่พอมองเห็นอีกทีหมาพิตบูล 1 ตัว ก็วิ่งมาถึงกัดหมาของตนเองแล้ว สักครู่เขาก็มาอุ้มกลับไป แต่ไม่นานหมาพิตบูลก็หลุดออกมาอีก คราวนี้หลุดมา 2 ตัวเลย โดยมันได้กัดหมาแม่ลูกอ่อนของตนที่ผูกเชือกไว้บริเวณกระท่อม ชื่อเจ้ากล้วย อายุ 1 ปี ที่มีลูกอ่อน 2 ตัว จนเป็นแผลที่บริเวณราวนมด้านซ้าย

ขณะนั้นลูกสาวตนเองจะเข้าไปช่วยหมาพิตบูลก็กระโจนใส่ลูกสาว ตนเองจึงใช้ด้ามจอบฟาดหมาพิตบูลไป 1 ครั้ง เพื่อป้องกันตัวลูกสาว ทำให้ฝ่ายคู่กรณีรู้สึกโกรธมากที่ตนเองไปตีหมาเขาจนเกิดปากเสียงกันตามคลิป ซึ่งเหตุการณ์หมาหลุดมากัดหมาของตนเองเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อช่วง 2 เดือนที่แล้วก็เคยหลุดมากัดจนหมาของตนเองนมหลุดไปข้างหนึ่ง จึงอยากฝากเจ้าของหมาพิตบูลว่า ถ้าอยากจะเลี้ยงหมาพันธุ์ดุ ๆ อย่างนี้ไว้ก็ควรที่จะมีการดูแลให้ดี อย่าปล่อยให้หลุดออกมาเพ่นพ่านเพราะเคยได้ยินข่าวบ่อยครั้งว่าหมาพันธุ์พิตบูลกัดคนเสียชีวิต ตอนนี้เวลามีเด็ก ๆ ออกมาวิ่งเล่นตนเองต้องถือไม้ไปด้วยทุกครั้ง เพราะกลัวมันจะมากัดเด็ก ๆ ซึ่งขณะนี้ตนเองได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.วังน้ำเขียว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าของหมาต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปเหตุการณ์ หลังจากที่เจ้าของสุนัขพิตบูล ได้อุ้มสุนัขพิตบูลกลับบ้านไปได้มีการตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายกันไปมา ก่อนที่สุดท้ายฝ่ายเจ้าของสุนัขพิตบูล นางสุดถนอม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของชายที่เดินมาอุ้มสุนัขได้มีการหันหลังพร้อมดึงกางเกงลงจนเห็นก้น 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเจ้าของหมาพิตบูล พบกับนางสุดถนอม บุญสมภพ อายุ 48 ปี เจ้าของหมาพันธุ์พิตบูล โดยนางสุดถนอม ได้พามาดูหมาพิตบูล 3 ตัว ตัวแรกชื่อเคซี่ เพศเมีย อายุ 1 ปี ตัวที่ 2 ชื่อไลอ้อน เพศผู้อายุ 3 ปี และตัวที่ 3 ชื่อ เบาโว้ เพศผู้ อายุ 3 ปี ซึ่งขังไว้บริเวณข้างบ้าน ที่มีการก่ออิฐสูงประมาณ 3 เมตร

นางสุดถนอม เล่าว่า วันเกิดเหตุระหว่างที่ตนเองกำลังขายของอยู่ในร้านขายของชำ ก็ได้ยินลูกค้าบอกว่าหมาหลุด ๆ ตนเองจึงได้วิ่งออกมาดูก็เห็นว่าหมาพิตบูลเพศผู้ชื่อเจ้าไลอ้อนหลุดออกมาและวิ่งไปที่บ้านคู่กรณี สามีของตนเองพยายามจุดประทัดให้มันตกใจเพื่อที่จะได้วิ่งเข้าบ้านแล้วแต่ไม่เป็นผล จึงได้ให้ลูกสาวและสามีวิ่งไปอุ้มมาไว้ในกรง แต่สักพักก็หลุดออกมาอีกครั้ง 2 ตัว เป็นเจ้าไลอ้อน กับเจ้าเคซี่ วิ่งไปที่บ้านคู่กรณีและได้กัดหมาของคู่กรณี

ก่อนที่คู่กรณีจะใช้จอบตีเจ้าไลอ้อนบริเวณหลังเพื่อให้หมาแยกออกจากกัน ตนเอง สามี และลูกสาว จึงได้วิ่งไปอุ้มหมาทั้ง 2 ตัวกลับบ้าน และด้วยอารมณ์โมโหที่อีกฝ่ายใช้จอบตีหมาของตนเอง และหมาของตนเองก็ถูกหมาของบ้านคู่กรณีกัดเป็นแผลหลายแห่งด้วย จึงได้เกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือนตามคลิป ซึ่งเหตุการณ์กระทบกระทั่งลักษณะนี้เกิดขึ้นจนมีการแจ้งความขึ้นโรงพักมาหลายครั้ง ทำให้ครอบครัวของตนเองกับครอบครัวคู่กรณีเกิดความระหองระแหงใจกันมาโดยตลอด และได้ตกลงกันว่าเมื่อเคลียร์กันบนโรงพักแล้วก็ขอให้จบ ๆ กันไปและต่างคนต่างอยู่

จนกระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้งนี้ ซึ่งตนเองก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “แมรี่ สุดถนอม” เพื่อขอโทษ และไม่ได้ตั้งใจปล่อยหมาให้หลุดออกมาแต่อย่างใด ส่วนจะให้ไปพูดคุยกันนั้นคงจะไม่คุยกันแล้วเพราะอยากให้เรื่องจบแค่นี้ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า