ความคืบหน้ากรณีบ่อนพนันใน จ.สมุทรปราการ ที่ก่อนหน้านี้ตำรวจออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีเหตุการณ์ปล้นบ่อน และไม่มีบ่อนพนัน จนสุดท้ายมีคำสั่งเด้ง 4 เสือโรงพักเมืองสมุทรปราการ ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายวุฒิพงษ์ โคตรแสน อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหามีอาวุธปืนและกระสุน ปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งทราบว่าเป็นการ์ดคุมบ่อนได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รักษาการแทน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวไปสอบปากคำทันที
เบื้องต้นนายวุฒิพงษ์ ให้การว่าตนเองทำงานเป็นการ์ดคุมบ่อนได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น โดยคืนเกิดเหตุขณะตนเองและลูกน้องกำลังทำงานอยู่ภายในร้าน ได้มีชายฉกรรจ์ 7 คน สวมชุดดำ ใช้ผ้าปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา 3 คัน เข้ามาจอดบริเวณหน้าร้าน ก่อนที่จะแบ่งหน้าที่กัน โดย 2 คน ถืออาวุธปืนบุกเข้าไปภายในและอีก 5 คน ถืออาวุธปืนยืนคุมเชิงอยู่ด้านนอก
ระหว่างที่คนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ได้ตะโกนบอกให้ทุกคนนอนหมอบลงกับพื้น ก่อนจะคว้าเอาเงินบนโต๊ะพนัน โดยไม่ทราบจำนวนเดินออกมา ขณะลงมือคนร้ายยังได้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้นักพนันหญิงรายหนึ่งให้ถอดสร้อยคอทองคำให้ ก่อนที่จะเดินออกมาจากร้าน พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัด เพื่อเปิดทางหลบหนี จังหวะนั้นตนเองจึงใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัด โดยคนร้ายเห็นท่าไม่ดี เนื่องจากเห็นว่า ฝ่ายตนเองก็มีปืนจึงได้พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางถนนศรีนครินทร์ อย่างไรก็ตามขณะที่คนร้ายลงมือปล้นลูกน้องของตนเองพอที่จะจดจำใบหน้าของผู้ที่เข้ามาก่อเหตุได้ เนื่องจากระหว่างที่คนร้ายกำลังหลบหนีผ้าปิดหน้าเกิดหลุด และเชื่อว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าคืนเกิดเหตุไม่มีใครถูกยิงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันวันนี้หลังจากบิ๊กโจ๊กได้ออกมายืนยันว่า ร้านอาหารดังกล่าวตรวจสอบพบว่ามีการเปิดเป็นบ่อนการพนันจริงและมีการปล้นบ่อนเกิดขึ้นจริง อมรินทร์ทีวีเดินทางไปที่กลับไปที่ร้านอาหารจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง ได้พบกับเฮียอู๊ด (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหารอีกครั้ง โดยเจ้าตัวและลูกน้องกำลังขนข้าวของออกจากร้านและกำลังปิดประตูหน้าร้านพอดี ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามเฮียอู๊ดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เฮียอู๊ดเคยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ยืนยันว่า ร้านอาหารของตัวเองไม่ใช่บ่อน และไม่เคยเปิดให้เล่นพนันเกิดขึ้น ร้านของตนเองเปิดมากว่า 15 ปี มันเป็นร้านอาหาร ไม่มีบ่อน และตนเองช่วงเกิดเหตุยิงกันหน้าร้านก็ไม่รู้เรื่อง หลังยิงเสร็จ ยังนอนอยู่ภายในร้านทั้งคืน จะมีบ่อนในร้านเป็นไปไม่ได้
ส่วนกล้องวงจรปิดในร้านนั้น เฮียอู๊ด อ้างว่ากล้องวงจรปิดหน้าร้าน ถูกถอดออกไปนานนับปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาไม่ได้ถอดหลังเกิดเหตุปล้นบ่อน ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลจากบิ๊กโจ๊กที่ออกมายืนยันว่า ร้านอาหารแห่งนี้เปิดเป็นบ่อนการพนันและเกิดเหตุปล้นบ่อนจริง
ทีมข่าวได้สอบถามเฮียอู๊ดว่า เป็นยังไงบ้างครับเฮีย? เฮียอู๊ดตอบว่า “จบได้แล้วน้อง ตอนนี้เฮียไม่ได้ทำมาหาแดกแล้ว ไม่อยากจะชี้แจงอะไรทั้งนั้น ลูกค้าไม่มีเข้าร้านสักวันเลยตอนนี้ และไม่ต้องมาถามอะไรอีกแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของคดีแล้ว” เฮียอู๊ดบอกต่อ “ผมเปิดร้านมา 15 ปี แต่ต้องมาถูกทำลายเพราะไอ้พวกคุณ พวกคุณไม่มีมารยาท ไม่มีจรรยาบรรณ ผมไม่จำเป็นต้องพูดกับคุณ กฎหมายเขาบอกหรอ ผมไม่จำเป็นต้องชี้แจงกับคุณ สังคมไทยประชาธิบไตยนะ เห็น 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม รถอมรินทร์ยังวิ่งวนที่ร้านอยู่เลย จะอะไรกันนักหนาปล่อยให้ตำรวจเขาทำงานไป”
ทีมข่าวจึงพยายามทำความเข้าใจกับเฮียอู๊ด และแค่ต้องการมาสอบถามความจริงและอยากให้ความเป็นธรรมได้เป็นฝ่ายเฮียอู๊ดได้ชี้แจงความจริงบ้าง โดยเฮียอู๊ดได้ไล่ทีมข่าวให้กลับไปซะและบอกว่า “ให้ไปดูข่าวช่องอื่นบ้าง ข่าวมันจบแล้ว ตอนนี้ตำรวจเขาจับทั้งเจ้าของบ่อน และแก๊งปล้นได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับบอกทีมข่าวว่า “เอ็งอะ อายุน้อยกว่าลูกข้าอีก” กลับไปซะเถอะ
จนสุดท้ายทีมข่าวได้ถามย้ำเฮียอู๊ด คำเดิม สรุปเฮียอู๊ด รู้หรือไม่ว่า ที่ร้านเปิดเป็นบ่อน เจ้าตัวเสียงอ่อนและสารภาพว่า “จริง ๆ แล้วตนเองรู้ แต่ผมไม่สนใจ เขาทำอะไรกันผมยังไม่เห็นเลย เขาแค่มาเช่าสถานที่เรา ทำจัดเลี้ยง แล้วก็ทำแบบนั้นไปเลย ตอนนี้ตนเองเสียหายมาก ที่ร้านไม่ใช่มีผมคนเดียว ทั้งร้านมีลูกน้องอยู่ 10 กว่าคน ทุกวันนี้ลูกน้องต้องหยุดงานหมด
ทั้งนี้หากย้อนกลับไปวันที่ทีมข่าวสัมภาษณ์เฮียอู๊ด วันนี้เฮียอู๊ดพูดจาขัดแย้งกับสิ่งที่ตัวเองพูดเมื่อวันก่อนอย่างสิ้นเชิง ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่า ตนเองทำครัวอยู่หลังร้าน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่ามียิงกันหน้าร้านวิ่งออกมาดูก็ไม่เห็นอะไรแล้ว และช่วงหลังเที่ยงคืน ก็นอนอยู่ที่ร้านตลอด ไม่มีบ่อน นั้นหมายความว่า เฮียอู๊ดซึ่งเป็นเจ้าของร้านไม่รู้เลยว่า มีนักพนัก 40-50 คนที่เล่นพนันกัน มีการ์ด 3 คน คุมบ่อนอยู่ในร้านของตัวเอง
ทีมข่าวถามคำถามสุดท้ายกับเฮียอู๊ดเรื่องที่แก๊งปล้นบ่อนได้รับสารภาพกับ “กัน จองพลัง” ว่าร้านแห่งนี้เปิดเป็นบ่อนมากว่า 3 ปีแล้วจริงหรือไม่ เฮียอู๊ดและลูกน้องที่ยืนอยู่ด้วยขณะนั้นบอกว่า “มันขี้โม้”
ด้าน กัน จอมพลัง เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับการติดต่อจากหนึ่งในแก๊งปล้นบ่อนจริง โดยติดต่อมาให้ตนเองช่วยเหลือในการพาเข้ามอบตัว ตนเองจึงสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ความเป็นมาอย่างไรถึงไปก่อเหตุปล้น โดยได้พูดคุยโทรศัพท์กันเพียงครั้งเดียว
แต่หลังจากนั้นไม่นานหนึ่งในแก๊งปล้นก็บล็อกเฟซบุ๊กตนเอง โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่า สาเหตุใดถึงเปลี่ยนใจไม่มอบตัว ซึ่งหากแก๊งปล้นทั้งหมดฟังตนเองอยู่ก็อยากให้รีบมอบตัวซะ เพราะตอนนี้ถ้ามอบตัวกับตำรวจ ตำรวจยังคุ้มครองอยู่ แต่ถ้ายังหนีก็ต้องระวังพวกผู้มีอิทธิพลในบ่อนที่อาจจะตามเช็กบิลก็ได้ เพราะไปทำเรื่องแบบนี้กับบ่อนเขา เขาไม่ยอมอยู่แล้ว ทางที่ดีมอบตัวปลอดภัยกว่า ยังไงตนเองก็เชื่อว่า หนีไม่รอดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ “กัน จอมพลัง” ได้มอบคลิปเสียง เป็นคลิปเสียงซึ่งหนึ่งในผู้ก่อเหตุปล้นบ่อนย่านสมุทรปราการ ได้ติดต่อมาเล่าถึงสาเหตุในการปล้นครั้งนี้ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดบ่อน จำนวนคนเล่นและอื่น ๆ ที่กำลังเป็นประเด็นคาใจของสังคม
ส่วนในคลิปเสียง หนึ่งในคนร้ายให้ข้อมูลกับ “กัน จอมพลัง” ว่าบ่อนดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเปิด เพราะตั้งแต่มาอยู่ 3-4 ปี ก็เห็นเปิดทำการอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เปิดประจำทุกวัน เปิดๆ ปิดๆ และไม่ได้เป็นบ่อนวิ่ง เพิ่งเปิดได้ 2 วันอย่างที่ตำรวจบอก ส่วนเหตุผลที่ปล้น ขณะนั้นเจ้าตัวและกลุ่มเพื่อนรวม 6 คน ไปเล่นพนันที่บ่อน พกเงินสดไปเกือบแสน แต่เล่นไปเล่นมา กลับเสียเงินทั้งหมด และคิดว่า บ่อนโกง ก่อนที่ฝั่งของตนเองจะโวยวาย
จากนั้น การ์ดของบ่อน 1 คน ได้เดินเข้ามาหา และพูดจาไม่ดีใส่ พร้อมกับโชว์ปืนที่เอว จึงทำให้ฝั่งตนเองโมโห เหมือนถูกดูถูก จึงได้กลับไปเอาปืนที่บ้านและบุกมาปล้นเอาเงินคืน ไปด้วยกันทั้งหมด 6 คน ขี่มอเตอร์ไซค์มาทั้งหมด 3 คัน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า พกปืนไปจริง 2 กระบอก และรีบวิ่งเข้าไปชาร์จตัวการ์ดของบ่อน 3 คน เอาไว้ ก่อนเข้าไปโกยเงินบนโต๊ะพนันไป แต่ยืนยันไม่ได้ยิงใคร และเป็นฝั่งของการ์ดบ่อนเองที่ไล่ยิงฝั่งตนเอง แต่กระสุนไม่ได้ถูกใครเจ็บ
หลังเกิดเหตุ คนร้ายยังอ้างว่า มีตำรวจมาในที่เกิดเหตุด้วย มีการปิดซอยเคลียร์หลักฐาน เอารถมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าซอย 2 คัน ไม่ให้ใครเข้า คนร้ายยังบอก กัน จอมพลัง ทิ้งท้าย ตอนนี้ห่วงความไม่ปลอดภัยมาก กลัวจะไม่ปลอดภัย หากเข้ามอบตัวกับตำรวจ
