เปิดรูปแบบบ่อนพนัน 4 ประเภท
กลายเป็นข่าวฉาวที่สะเทือนวงการสีกากี ตั้งแต่สัปดาที่ผ่านมา หลังนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พากลุ่มนักพนันไปแจ้งความ กรณีที่ไปเล่นพนันที่บ่อนในซอยรามอินทรา 40 แล้วถูกคนคุมบ่อนอุ้มไปรีดเงินกว่า 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเหตุเกิดมีการแจ้งตำรวจทันที แต่ตำรวจกลับโทรไปเคลียร์ และพยายามให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับอีกฝ่าย
แถมเมื่อเจ้าหน้าที่มีการนำกำลังเข้าไปตรวจค้นบ่อนการพนัน โต๊ะเสือ มังกร บาคาร่า และไฮโล ที่กลุ่มนักพนันเคยเล่นก่อนหน้านี้ กลับกลายสภาพเปลี่ยนเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ อย่างรวดเร็ว จนไม่เหลือเค้าเดิมที่เคยเป็นบ่อนพนัน ขณะที่ตำรวจระบุว่าบ่อนตามคำกล่าวอ้างของนักพนัน น่าจะเป็น “บ่อนวิ่ง” ที่ลักลอบเปิดในช่วงนั้น
ทีมข่าวจะพาไปทำความรู้จักรูปแบบบ่อนพนัน 4 ประเภทใหญ่ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักพนัน และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของบ่อนที่แตกต่างกันไป
เริ่มจากประเภทแรก คือ “บ่อนวิ่ง” ซึ่งมักจะได้ยินบ่อยครั้ง จากคำชี้แจงของตำรวจเมื่อมีข่าวจับ “บ่อนการพนัน” โดยบ่อนวิ่ง จะแยกย่อยเป็น 2 กลุ่ม คือ “บ่อนวิ่งขนาดเล็ก” หรือ “บ่อนวิ่งจริงๆ” เพราะกลุ่มนักพนันจะนัดกันไปเล่นตาม สถานที่ หรืองานต่างๆ เช่น ตามงานศพ หรือบ้านของนักพนันคนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่เล่นตามตรอก ซอก ซอย เรียกได้ว่าเปลี่ยนสถานที่กันไปเรื่อยๆ โดยบ่อนประเภทนี้จะมีนักพนันและเจ้ามือรวมกันแล้ว 5-15 คน ขณะที่รูปแบบการพนันที่นิยมเล่น เช่น กำถั่ว ไฮโล มวยตู้
ส่วนอีกแบบ เรียกว่าเป็น “บ่อนวิ่ง” เหมือนกัน แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ตั้งในพื้นที่ไกลหูไกลตา มีการล้อมรั้วสังกะสี หรือกั้นผ้าเพื่อปิดบังสายตาจากผู้คน โดยจะมีการตั้งบ่อนคราวละ 5-7 วัน เปิดเป็นรอบๆไปไม่เกินนี้ จากนั้นก็จะย้ายไปตั้งจุดอื่นๆ ต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกร้องเรียน หรือการถูกแจ้งให้ตำรวจเข้าจับกุม
ว่ากันว่าบ่อนประเภทนี้จะมีการจ้าง “สเกาท์” หรือคนที่คอยอยู่ประจำจุด เพื่อทำหน้าที่ดูลาดเลา และรีบแจ้งคนในบ่อน หากว่ามีตำรวจเข้าตรวจค้น
บ่อนประเภทที่ 3 เป็น “บ่อนถาวร” มีการเช่าสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ บ้านขนาดใหญ่ หรือแม้แต่โกดัง แล้วมีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์เล่นการพนัน มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ และมี “คนคุมบ่อน”
ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะเสี่ยงต่อการถูกจับ แต่บ่อนประเภทนี้ จัดเป็น “บ่อนอิทธิพล” อย่างไม่ต้องสงสัย
ประเภทที่ 4 คือ “บ่อนไฮเทค” หรือ “บ่อนออนไลน์” บ่อนประเภทนี้มักเปิดกันอย่างโจ๋งครึ่ม ตามตลาด หรือชุมชน ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เพราะไม่ต้องเสียเงินเช่าสถานที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ซึ่งจะเล่นผ่านระบบออนไลน์ โดยมีแอดมินดูแล
ล่าสุดวันนี้ กลุ่มนักพนัน พร้อมตัวแทนเพจสายไหมต้องรอด นำรายชื่อบ่อน ที่เคยเดินสายไปเล่นพนันทั้งในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล นับ 100 บ่อน ไปส่งมอบให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เร่งขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเชื่อมั่นว่าจะเป็นนายทุนจีนที่อยู่เบื้องหลัง เพราะมีเงินหมุนเวียนนับ 100 ล้านบาท
ขณะที่มีข้อมูลว่า หลังมีการออกมาแฉจากนักพนันเอง บ่อนพนันที่เคยอยู่ในนครบาล ต่างย้ายหนีไปเปิดอยู่ในจังหวัดแถบปริมณฑล
หลังจากนี้คงต้องรอดูบทพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะกล้าและจริงจังในการปราบปรามมากน้อยแค่ไหน เมื่อกลุ่มนักพนันกล้าออกมาให้ข้อมูลแบบท้าชน อย่างไม่มีอะไรจะเสียเช่นนี้ หรือสุดท้ายแล้ว...จะปล่อยให้เรื่อง ค่อยๆเงียบหายไปเอง