จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 65 ที่ด่านตรวจหนองสองห้อง ริมถนนมิตรภาพหนองคาย–อุดรธานี พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.สกล สิทธิวิชัย รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และ พ.ต.ท.อัครเดช พรมโสภา สวป.สภ.เมืองหนองคาย ได้ร่วมกันตรวจสอบเบื้องต้น
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ประจำด่านตรวจฯ ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ภาสินี บุญที อายุ 36 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาเค 14 ห่อ น้ำหนักรวมประมาณ 14 กก., ยาอี จำนวน 15 ถุงใหญ่, ยา Erimin 5 หรือยาเสียสาว จำนวน 5 มัด ๆ ละ 50 แผง รวม 250 แผง และผงแฮปปี ที่มีการทำเป็นซองคล้ายซองเกลือแร่หรือซองขนมเด็ก จำนวน 3 ถุงใหญ่
การตรวจยึดและจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 65 เจ้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ประจำด่านตรวจหนองสองห้อง ได้มีการตั้งด่านตรวจบริเวณถนนมิตรภาพหนองคาย-อุดรธานี ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก จ.หนองคาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสังเกตเห็นรถยนต์เก๋งสีดำวิ่งมาตามถนนมิตรภาพ ฝั่งขาออกจ.หนองคาย
เมื่อใกล้ถึงด่านตรวจฯ รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจฯ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบ น.ส.ภาสินี นั่งอยู่ภายในรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเอแวนซ่า สีดำ จอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่จึงสอบถาม น.ส.ภาสินี บอกว่ามากับแฟนหนุ่มทราบชื่อต่อมาคือ นายพันธุ์ลภ ช้างเจริญ อายุ 30 ปี ที่ไปเข้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องน้ำของปั๊มน้ำมันเพื่อจะตามตัวมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขอตรวจค้นภายในรถแต่ไม่พบตัว จึงได้สอบถามคนที่อยู่ภายในปั้มทำให้ทราบว่า นายพันธุ์ลภ ได้ปีนรั้วของปั๊มน้ำมันหลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภายในรถพบกระเป๋าใส่ของขนาดใหญ่อยู่บริเวณตอนท้ายรถ ภายในมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ จึงได้นำรถมาตรวจสอบภายในด่านตรวจหนองสองห้อง พบมียาเสพติดข้างต้นซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว น.ส.ภาสินี ไว้ พร้อมประสานกำลังสนับสนุนออกติดตามตัว นายพันธุ์ลภ ที่ยังหลบหนีอยู่ อีกทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคาย ให้มาตรวจสอบยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้
ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองหนองคาย เนื่องจากมีรายงานว่า พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบช.ภ.4 แถลงถึงการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดที่จังหวัดหนองคายว่า หลังตรวจค้นในรถและพบยาเสพติดจำนวนมาก ในเบื้องต้น น.ส.ภาสินี ให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตัวเองกับ นายพันธุ์ลภ ซึ่งเป็นแฟนกัน มีผู้จ้างวานในราคา 50,000 บาท ขนยาเสพติดทั้งหมดจาก จ.หนองคาย ไปส่งที่จุดหมายในพื้นที่ภาคกลาง แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แฟนจึงขับรถเข้าในปั๊มน้ำมันและแฟนก็ทิ้งรถหลบหนีไป
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 16.20 น. ทางตำรวจได้นำตัว น.ส.ภาสินี บุญที อายุ 36 ปี ออกมาจากห้องคุมขัง เพื่อจะต้องไปสอบปากคำเพิ่มเติม ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามกับเจ้าตัวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดย น.ส.ภาสินี เปิดใจกับทีมข่าวว่า ที่จริงแล้วตัวเองไม่ได้เสียใจเลยที่แฟนหนีไป จริง ๆ ดีใจด้วยซ้ำหากแฟนหนีไปได้ เพราะว่าไหน ๆ ตัวเองก็ถูกจับแล้ว จะได้เหลือคนไว้ข้างนอกคุกเพื่อดูแลครอบครัว ตอนที่แฟนโทรศัพท์มาก่อนมอบตัวแฟนก็พูดกับตนเองว่า ไม่ได้คิดจะทิ้งนะเป็นห่วงรักและคิดถึง แต่ขอไปตั้งหลักเคลียร์กับครอบครัวเท่านั้น
ตอนนี้แม่ของแฟนรู้เรื่องแล้ว ยืนยันไม่ได้โกรธและไม่เสียใจที่แฟนหนีไป เมื่อวานหลังตำรวจไปรับแฟนมา ก็ได้เจอกันแล้ว ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน เดี๋ยวตำรวจขยายผลเสร็จก็ได้เจอกันอีก
ในขณะเดียวกันช่วงคืนวันที่ 24 ต.ค. 65 นายพันธุ์ลภ ก็ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปรับตัว นายพันธุ์ลภ ที่ ริมถนนในพื้นที่ ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย
โดยหลังรับตัวมา นายพันธุ์ลภ ให้การรับสารภาพเรื่องยาเสพติดว่า ตัวเขาเองเคยถูกจับในคดียาเสพติดและติดคุกที่เรือนจำ จ.พิษณุโลก ทำให้รู้จักกับ นายตูมตาม เมื่อพ้นโทษออกมาก็ยังติดต่อกัน และนายตูมตามก็ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดชนิดต่าง ๆ ไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง รับจ้างมาแล้ว 4 ครั้ง ๆ ละ 50,000 บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5
ส่วนยาเสพติดทั้งหมดเป็นเครือข่ายที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาส่งให้ ตนและแฟนสาวก็มารับยาเสพติดทั้งหมด เพื่อนำไปส่งยังจังหวัดปลายทางในพื้นที่ภาคกลาง
หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยขณะนี้ นายพันธุ์ลภ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.และ กอ.รมน. อยู่ระหว่างนำตัวไปขยายผล
