เด็กช่างถูกตัดแขนขายังไม่ฟื้น - นายจ้างยันไม่เคยใช้ทำพลุ แค่แปลงอุปกรณ์ลับทำระเบิดฉีกร่าง (คลิป)

จากกรณีนายยิ้ว นักศึกษาอาชีวะ เกิดอุบัติเหตุพลุระเบิดใส่ร่างกาย หลังจากไปประกอบพลุกับนายบู๊ท จนต้องตัดขาทั้งสองข้าง และแขนนั้น

วันที่ 21 พ.ค. 62 นางสุกฟ้า เซี่ยงว่อง อายุ 73 ปี ยายของยิ้ว ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ปกติตนอยู่ 2 คนกับหลาน เพราะแม่ทิ้งไว้ตั้งแต่เล็ก  ๆ ไปทำงานและมึครอบครัวใหม่อยู่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งน้องยิ้วเองก็ดูแลตน ขยันทำมาหากิน ใครจ้างทำอะไรทำหมด ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ช่วงใกล้เปิดเทอมก่อนเกิดเหตุก็บอกกับตนว่า “ยายไม่ต้องเครียดนะ เดี๋ยวหนูหาค่าเทอมเอง” แล้วก็บอกว่าไปทำงาน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะไปทำงานลองประกอบพลุ เพราะหลานเคยทำเมื่อ 5 ปีก่อน และบอกว่าจะกลับมาสิ้นเดือน แต่ก็มาเกิดเหตุเเสียก่อน

ตอนนี้หลานนอนไม่ได้สติมา 16 วันแล้ว แพทย์แจ้งว่าทำการสแกนสมองแล้ว อวัยวะปกติดี ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็ได้มาจากพี่น้อง เงินบริจาคจากโรงเรียนประมาณ 1.2 แสนบาท ส่วนด้านนายบู๊ทก็บอกว่าจะรับผิดชอบ แต่ยังไม่มีเงิน ตั้งแต่เกิดเหตุให้เงินมาแค่ 2,000 บาท และมาเยี่ยมประจำ นางสุกฟ้า กล่าวว่า ขอให้หลานฟื้นขึ้นมา จะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะมันเป็นไปแล้ว จะฟูมฟายไม่ได้ ไปโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้มาก เขาจะช่วยเหลือหรือไม่ช่วยก็บังคับไม่ได้ จะไปฆ่าเขาให้ตายก็ไม่ได้คืน ก็คงต้องอโหสิให้กันไป

นางวนิดา พุฒซ้อน กำนัน ต.วังด้ง ให้ข้อมูลว่า น้องยิ้วเป็นเด็กดี ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่หรือเที่ยวเตร่ ตั้งใจเรียน ขยันทำมาหากิน ช่วยเหลือยายทุกอย่าง หรือชาวบ้านใครมีปัญหาอะไร เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียก็ไปช่วย ส่วนเรื่องธุรกิจรับจ้างจุดพลุของนายบู๊ท ตนทราบว่าเมื่อ 3-4 ปีก่อน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารของทางอำเภอ เคยเข้ามาทลายแหล่งแล้ว แต่ครั้งนี้มีการแอบทำอีกหรือไม่ โดยเมื่อ 2-3 วันก่อน มีชาวบ้านเห็นว่ามีรถกระบะมาขนของ อุปกรณ์ในบ้านออกไป ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งตนเองได้คุยกับทางพ่อของบู๊ทว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ทางพ่อก็บอกว่าจะรับผิดชอบดูแล แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงิน ตนจึงประสาน พม. เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยบอกกับยายของยิ้วว่าจะทำบัตรผู้พิการให้น้อง จะได้มีเงินเดือน และได้รับการช่วยเหลืออื่น ๆ ร่วมด้วย

น.ส.ศรีพัชรางค์ (สงวนนามสกุล) แฟนนายบู๊ท ผู้จ้าง ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุตนเป็นคนขับรถออกไปรับบู๊ทและยิ้วพาไปส่งโรงพยาบาล ยิ้วบอกกับตนว่า “พี่อย่าทิ้งหนูนะ” ตนก็บอกว่าไม่ทิ้ง ซึ่งบู๊ทก็บาดเจ็บ และนอนอยู่เตียงข้างกัน จนหลังผ่าตัดออกมา น้องก็ยังไม่ได้สติ ซึ่งสาเหตุ บู๊ทบอกกับตนว่า ไม่ใช่การจุดพลุ หรือพลุระเบิด แต่เป็นเพียงการชักชวนกันไปดัดแปลงอุปกรณ์วัตถุระเบิดเล็ก ๆ เล่นกันด้วยความคึกคะนองเท่านั้น ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดบางขั้นตอน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่พลุที่ใช้ในการไปออกงาน เพราะหากเป็นพลุจริง อาการน่าจะไม่ใช่แค่แขนขาขาด เพราะมีขนาดใหญ่และความรุนแรงสูงกว่านี้ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีโรงงานผลิตพลุ แค่รับจุดเท่านั้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ เรียกตัวบู๊ท และตนไปสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว

ด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางเข้าเยี่ยมอาการน้องยิ้ว พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และแจ้งว่าหากต้องการความช่วยเหลือ ให้แจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถช่วยเหลือได้ ทั้งด้านเงินชดเชย และการช่วยเหลือฟื้นฟูในอนาคต ด้านอาชีพ รายได้ หรือในด้านอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วย และมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้น 5,000 บาท