ชั่วเกินมนุษย์! พ่อน้องพิณปล่อยโฮ หวั่นมือหั่นศพพ้นคุกไว อึ้งฆ่าหลังฉลองวันเกิด (คลิป)

วันที่ 3 ต.ค. 65 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ตำรวจ ภ.จว.สมุทรปราการ ได้คุมตัวชายวัย 35 ปี ชี้จุดนำชิ้นส่วนร่างสาว วัย 30 ปี ทิ้งใต้ทางด่วน ฉลองรัชใกล้ถนนเลียบด่วนรามอินทรา หลังก่อเหตุฆ่าหั่นศพในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสำโรงเหนือ ถ.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ผู้ก่อเหตุคือ นายชาญวิทย์ หรือ ดอน วงศ์สหาก อายุ 35 ปี ส่วนผู้ตายคือ นางสาวอรนันท์ หรือ พิณ นราทร อายุ 30 ปี ทำงานขายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

ช่วงสายบรรยากาศที่ สภ.สำโรงเหนือ พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เตรียมคุมตัว นายชาญวิทย์ วงศ์สหาก หรือ ดอน อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นางสาวอรนันท์ นราทร หรือ พิน อายุ 30 ปี ไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการ ฝากขังผัดแรกช่วงบ่าย

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สน.โคกคราม นายอร่าม นราทร พ่อของผู้เสียชีวิต และญาติ ๆ ของนางสาวอรนันท์ ได้เดินทางมาดำเนินเรื่อง จัดการเอกสารเพื่อที่จะนำไปรับศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจ

นายอร่าม พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวว่า วันนี้หลังจากรับศพลูกสาว จะไปอัญเชิญดวงวิญญาณที่หลุมฝังศพลูกสาว จะนำร่างลูกกลับบ้านเกิดที่ จ.ร้อยเอ็ด เพราะอยากให้ลูกได้กลับบ้าน จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด ตนมีลูก 3 คน น้องพิณคือลูกสาวคนโต ลูกคนนี้พ่อรักมาก ไม่เคยทำอะไรให้พ่อเดือดร้อนหรือผิดหวังเลย

ปกติทุกวันที่ 27 ก.ย. เป็นวันเกิดของลูกสาว ตนเองก็จะทักอวยพรวันเกิดลูกไปทุกครั้ง ลูกสาวก็จะโทรมาหาตนตลอด แต่ปีนี้วันเกิดลูกสาวอายุเต็ม 30 ปี ลูกสาวกลับเงียบหายไปผิดปกติ เดิมลูกสาวก็จะเป็นคนเงียบ ๆ อยู่แล้ว มีโลกส่วนตัวสูง พ่อเองก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย รอบนี้ยิ่งเงียบหายไปมากกว่าเดิม กระทั่งตนมาทราบข่าวเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 65 ว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว

ส่วนครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับน้องพิณ เมื่อช่วง 1 เดือนที่แล้วที่ตนพาลูกสาวคนกลางมาสอบที่ รพ.ราชวิถี กทม. ตอนนั้นก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วไป ส่วนครั้งสุดท้ายที่ไปเที่ยวทะเลกับลูกสาวก็คือช่วงก่อนหน้านี้อีกไม่กี่สัปดาห์ ช่วงหลังเดือนนี้ ตนและลูกสาวนัดกันไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันที่ภาคเหนือ

ทั้งนี้ ลูกสาวไม่เคยเล่าเรื่องผู้ชายคนนี้ให้ตนฟังมาก่อน ตนเองก็ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้เลย ดูจากพฤติกรรมที่ทำกับลูกสาวตนแล้วมันไม่ใช่คน อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะว่ามันชั่วเกินมนุษย์ หากคนแบบนี้ได้ลดโทษแล้วได้ออกมา ก็อาจจะไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นอีก เพราะสังคมไทยลืมง่าย อีกหน่อยหากเดินสวนกันก็จำไม่ได้แล้วว่าคนนี้คือฆาตกรฆ่าหั่นศพ สังคมให้อภัยคนได้ แต่ไม่ควรให้อภัยคนแบบนี้ "มันเป็นภัยสังคม เป็นอันตรายกับผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่เฉพาะลูกผม" ตนไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บปวดเหมือนตนอีก คนแบบนี้ควรประหารสถานเดียว เพราะมันมีการเตรียมการจะฆ่าลูกสาวตนมานานหลายเดือน แค่นี้ก็แย่มากพอแล้ว คนแบบนี้ไม่ควรมีที่ยืนในสังคม หากออกมาก็จะทำแบบเดิมอีก

ส่วนเมื่อคืนนี้หลังจากตนเดินทางมาถึงที่ สภ.สำโรงเหนือ ตนก็ได้ขึ้นไปด้านบน ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าคนไหนคือผู้ต้องหา ตนก็ไม่ทันได้สังเกตสีหน้าท่าทางของผู้ต้องหา ใส่ทั้งแมสก์และหมวก เพราะเพิ่งมาทราบภายหลังจากที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาลงไปห้องควบคุมตัวด้านล่าง หลังจากนั้นตนก็เพิ่งทราบจากตำรวจว่าคนที่เพิ่งเดินสวนตนไปคือผู้ต้องหา หากได้เจอกัน ตนก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดกับเขา ตนก็เหมือนคนทั่วไปมีอารมณ์มีความรู้สึก เพราะตนเป็นพ่อ ลูกทั้งคนมาโดนทำแบบนี้ สุดท้ายตนอยากจะบอกกับลูกสาวว่ารัก

ต่อมาเวลา 14.00 น. นางรัชนี ภูคงน้ำ อายุ 57 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจาก สภ.สำโรงเหนือ ถึงนิติเวช รพ.ตำรวจ เปิดใจกับทีมข่าวว่า หลังจากทราบเรื่องของลูกสาวก็เดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ โดยออกเดินทางมาตั้งเเต่เมื่อวาน รถเสียกลางทางจึงต้องตีรถต้องกลับไป จ.กาฬสินธุ์ อีกครั้ง เปลี่ยนเอารถเก๋งมาเเทน ออกมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ช่วงเวลา 03.00 น.

ตนเองเคยสอนลูกสาวว่าอะไรที่ไม่ถูกต้อง อะไรที่ไม่ดีอย่าไปคบ เพราะลูกสาวก็เคยมาเล่าเรื่องที่มีผู้ชายมีภรรยาแล้วมาจีบ ตนก็ได้เตือนไปว่าอย่าไปคบหา แต่กับนายดอนคนนี้ ลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ลูกสาวไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัว ตนก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มากเพราะลูกสาวก็โตอายุ 30 ปีแล้ว ตนจึงปล่อยให้ลูกตัดสินใจเรื่องในชีวิตเอง

ตนคุยกับลูกสาวครั้งสุดท้ายนานมากผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนเมื่อช่วงวันเกิดตนเองก็ได้ส่งอวยพรวันเกิดไป ลูกสาวไม่ตอบ ไม่อ่าน ตนรู้สึกขนลุกและผิดสังเกตมาก เพราะปกติลูกสาวจะอ่านไลน์ตลอด วันนั้นไม่อ่านไลน์เลย ยิ่งเป็นวันเกิดของลูกสาว เขากลับไม่อ่านไลน์ ก็แปลกใจว่าลูกสาวเป็นอะไรหรือไม่ ก่อนจะบอกกับลูกว่าหากฝนหยุดตก ตนเองจะรีบลงมาที่ กทม.

และตนเองเพิ่งจะทราบเรื่องที่ลูกสาวเสียชีวิตจากข่าวเพราะไม่มีใครบอกอะไรเลย ขนาดพ่อน้องพิณเองก็เพิ่งจะรู้ ปกติเเล้วตนเองจะสวดมนต์นั่งกรรมฐาน เพราะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ วันที่รู้ข่าวตนถึงกับเป็นลมไปเลย ส่วนเมื่อเช้าตนได้ไปที่ สภ.สำโรงเหนือมา เพื่อยื่นฟ้อง ตนมองว่าการกระทำของฝ่ายชายเป็นการเจตนาวางแผน สติครบถ้วน ไม่ใช่พลั้งมือฆ่า อันที่จริงตนอยากจะเจอหน้าผู้ต้องหา อยากจะถามว่าทำทำไมและเพิ่งเรียนจบ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษสูงสุดประหารชีวิต เพราะออกมาก็เป็นภัยต่อสังคม ไม่ควรให้โอกาสคนแบบนี้ เท่าที่ตนสอบถามตำรวจมา ผู้ต้องหาไม่ได้สำนึกในสิ่งที่ทำลงไปเลยแม้เเต่น้อย

หลังจากนั้น คุณพ่อก็ได้เดินเข้ามาดูรูปลูกสาว ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ต่อมาเวลา 15.20 น. พ่อแม่ ญาติ เพื่อน ๆ ได้เดินเข้าไปดูศพน้องพิณในห้อง เพื่อยืนยันตัวตน เวลาผ่านไป 7 นาที เวลา 15.27 น. เพื่อน ๆ พ่อเเม่ออกมาจากห้องดูศพน้องพิณ โดยเดินออกมาพร้อมกับน้ำตา

จากนั้นเวลา 15.45 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญพ่อเเม่เเละญาติของน้องพิณเข้าไปทำพิธีเรียกดวงวิญญาณน้องพิณกลับบ้าน ที่นิติเวช โดยพ่อเเม่เเละญาติ ๆ ได้เดินเข้าไปภายในห้องรับศพ เเละเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้า หลังจากนั้นพ่อเเละเเม่ก็ได้เดินมาจุดธูป ทีมข่าวได้สอบถามคุณแม่ ทราบว่าได้แผ่เมตตาก่อนจะบอกให้ลูกสาวเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่รถรับศพจะขับออกไปเเละมุ่งหน้าไปยังบ้านเกิดผู้ตาย จ.ร้อยเอ็ด ในวันนี้จะไม่มีพิธีเชิญดวงวิญญาณ ในวันพรุ่งนี้แม่จะเดินทางไปที่คอนโดฯ ขอให้ตำรวจช่วยคุยกับเจ้าของคอนโดฯ เพื่อขอเข้าไปอัญเชิญดวงวิญญาณลูกสาวกลับบ้าน

นายอร่าม นราทร พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยอีกครั้งว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอกับลูกสาว คือเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่เเล้ว ที่ไปเที่ยวหลีเป๊ะด้วยกัน ก็คุยกันสัพเพเหระตามประสาพ่อลูก เขายังร่าเริงปกติ ลูกสาวระบายแค่เรื่องงานว่าเปลี่ยนงานใหม่ เครียดเพราะงานหนัก ลูกสาวไม่เคยมาเล่าเรื่องผู้ชายคนนี้ให้ฟัง ตนก็ไม่ได้สอบถาม เพราะตนก็ให้เกียรติลูก ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ลูกไม่เคยทำเรื่องเสียหายหรือเรื่องไม่ดี

โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตนเองก็ติดต่อกับลูกมาโดยตลอด แต่ลูกก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ก็จะเห็นเฉพาะมุมที่ลูกสาวทำงาน หรือหากจะไปเที่ยวกับเพื่อนก็จะมีเเต่เพื่อนผู้หญิง โดยหลังหมดฝนนี้ตนเองจะนัดกับลูกสาวไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ เพราะลูกชอบหน้าหนาว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรับไม่ได้อย่างมาก ตนเริ่มผิดสังเกตตั้งเเต่ช่วงวันเกิดลูกคือวันที่ 27 ก.ย.65 ที่ทักลูกไปแล้วลูกไม่ตอบ ตนเองก็แปลกใจ พยายามถามคนใกล้ตัวลูกสาวตลอด พยายามเช็กทุกอย่างที่พอจะติดต่อลูกสาวได้ แต่ก็ไร้วี่เเวว จนกระทั่งตนเองมาทราบข่าวตอนที่ตำรวจโทรไปบอก หลังจากนั้นตนก็มาทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

ตนมองว่าเรื่องนี้ผู้ก่อเหตุไม่ได้พลั้งมือฆ่า เป็นการเจตนา ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนเรื่องโทรศัพท์สายสุดท้ายที่มีการคุยกับลูกสาวแล้วได้ยินเสียงร้องกับเสียงวิ่งนั้น ตนเองไม่ทราบมาก่อน อยากให้มีการลงโทษผู้ต้องหาด้วยกฎหมายสูงสุดที่มีเมืองไทยมีอยู่ เพราะการกระทำมันเกินมนุษย์ ลูกตนไม่เคยทำอะไรเสียหาย แต่พอมีข่าวแบบนี้ออกไป ตนก็เสียใจ "ไม่มีอะไรจะพูดถึงผู้ต้องหา เพราะมันไม่ใช่คน ผมไม่อยากพูดด้วย" การที่เป็นคนเเล้วเห็นชิ้นส่วนมนุษย์แบบนั้น มันเกินไป

ตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายอร่าม นราทร พ่อของผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 27 ก.ย.65 โพสต์ภาพถ่ายคู่กับลูกสาวที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน พร้อมกับระบุข้อความว่า "สขสันต์วันเกิดนะลูก"รักและเป็นห่วงเสมอ" คุ้มครอง สขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่จน คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถณาทุกประการนะลูก" พร้อมแท็กเฟซบุ๊กคนในครอบครัว

นอกจากนี้ ในไลน์กลุ่มครอบครัวนราทร พ่อของน้องพิณยังได้ส่งคำอวยพรไปในกลุ่ม พร้อมกับแท็กลูกสาวด้วยว่า "สุขสันต์วันเกิดนะลูกขอให้ลูก สมปรารถนาทุกประการสขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่จนบุญรักษาเทวดาคุ้มครองรักและ คิดถึงนะลูก" มีคนในครอบครัวที่มาร่วมอวยพรวันเกิดน้องพิณ

อีกทั้งมีโพสต์รูปคู่กับลูกสาวสมัยเด็ก ระบุข้อความว่า "สุขสันต์วันเกิด"ลูกสาวคนโต" ขอให้ลูกสุขภาพแข็งแรงร่ำรวยเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานคิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถณาทุกประการบุญรักษาเทวดาคุ้มครองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องรักและห่วงใยเสมอนะลูก" ด้วยเช่นกัน

วันที่ 28 ก.ย.65 นางสาวพิณ ได้โพสต์หางานในกลุ่มเฟซบุ๊กหนึ่ง โดยหลังจากพ่อทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกสาว ก็ได้โพสต์ภาพลูกสาวเเละระบุข้อความเศร้าว่า "ความหวังความฝัน.ไหนหนูบอกหมดฝนหน้าหนาวนี้หนู จะไปเที่ยวเหนือกะพ่อกะน้องๆไง??... เหมือนตกเหว ใจหายทำอะไรไม่ถูกรักและคิดถึงมาก" โพสต์อีกระบุว่า "เหมือนหัวใจสลาย...ฟ้าให้น้องพิณอยู่กะพ่อแค่นี้หรือลูก
ไปเป็นนางฟ้านะลูก หนูงดงามในหัวใจพ่อเสมอ แม้ไม่ได้เอ่ยคำลา รักนิรันดร์ หัวใจพ่อ"

เพื่อนคนตาย ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุ 28 ก.ย.65 ตัวเองได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้างานว่าพิณหายตัวไป ไม่มาทำงาน ติดต่อไม่ได้ หัวหน้างานจึงขอให้ตนช่วยติดต่อพิณ โดยหัวหน้าของพิณอีกเล่าว่าในวันเดียวกันลูกค้าคนหนึ่งโทรไปถามเรื่องงานกับพิณ แล้วได้ยินเสียงพิณตะโกน "เห้ยอะไร" เสียงคล้ายตกใจอะไรบางอย่าง ตามด้วยเสียงคล้ายคนวิ่ง ก่อนเสียงโทรศัพท์จะตัดไป ลูกค้าเห็นท่าไม่ดี จึงติดต่อหาหัวหน้า หัวหน้าจึงติดต่อมาที่ตน ตนพยายามติดต่อหาคนรู้จักใกล้ตัวพิณ เเต่ไม่มีใครทราบเรื่อง

วันต่อมา วันพฤหัสบดี 29 ก.ย.65 เพื่อนสนิทของผู้ตายอีกคนซึ่งอยู่ จ.นครราชสีมา ได้ติดต่อไปหานายดอน ผู้ต้องหา เพื่อสอบถามว่าได้อยู่กับพิณหรือไม่ ผู้ต้องหากลับบอกว่า "ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว หากมีอะไรให้ช่วยขอให้บอก" ตอนนั้นไม่มีใครสงสัยนายดอน เพราะช่วงเดือน ต.ค. 64 พิณเคยบอกว่าจะออกห่างจากผู้ชายคนนี้แล้ว ประกอบกับเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เพื่อนสนิทคนนี้ได้พบกับพิณ และพิณก็ไม่ได้พูดถึงนายดอน เพื่อน ๆ จึงเข้าใจว่าทั้งคู่เลิกติดต่อกันไปเเล้ว

ซึ่งหลังจากที่เพื่อนได้ฟังคำสารภาพของนายดอน เพื่อนติดใจว่าการที่นายดอนบอกว่าแทงที่คอแล้วพิณเสียชีวิตเลยนั้น แต่สายสุดท้ายที่ลูกค้าได้ยินเสียงวิ่ง ทำให้เพื่อนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการทะเลาะกันก่อนที่นายดอนจะลงมือทำร้ายร่างกายพิณจนเสียชีวิต โดยหลังจากที่ญาติรับศพเดินทางกลับ จ.ร้อยเอ็ด  ก็จะมีการสวดอภิธรรม 1 คืน ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันถัดไป

ด้านเฟซบุ๊กของผู้ตายมีเพื่อน ๆ เข้ามาโพสต์อาลัย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ก.ย.65 ที่ผ่านมา มีเพื่อนเข้ามาโพสต์อวยพรวันเกิดอายุครบ 30 ปีเต็ม และมีคลิปที่เต้นของผู้ต้องหากับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานด้วย