จากกรณีเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2" โพสต์คลิปทหารเรือไปนั่งทานข้าวในร้านอาหาร ก่อนถูกชายรายหนึ่งโวยถามว่า "รู้จักนายทหารคนนั้นคนนี้ไหม" โดยมีการพูดชื่อผู้การในสังกัดทหารเรือทหาร ผู้ถ่ายคลิปได้แต่คอยตอบคำถาม จากนั้นชายดังกล่าวก็ตบหน้า อ้างว่านั่งอยู่กับผู้การฯ หาว่าเจ้าของคลิปไม่มีสัมมาคารวะ ก็เลยต้องสั่งสอน ต่อยเสร็จก็เข้ามาหาเรื่องอีก จนชายที่นั่งอีกโต๊ะต้องมาดึงออก
ล่าสุด วันที่ 28 ก.ย. 65 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายกฤตวิทย์ อังคุละนาวิน หรือ บอย อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยเพื่อนรวม 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์เดินทางมาที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมนำกระเช้ามาเพื่อขอโทษผู้เสียหาย
ขณะที่ผู้เสียหาย คือ จ่าเอกปัณณธร ประสิทธิเวช อายุ 22 ปี ทหารสังกัดกองอาวุธใต้น้ำ แผนกตอร์ปิโด กรมสรรพาวุธทหารเรือ เดินทางมาพร้อมกับเเฟนสาว และผู้บังคับบัญชา
ทันทีที่ทั้ง 2 ฝ่ายเจอหน้ากัน นายกฤตวิทย์ หรือ บอย ผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวคำขอโทษกับผู้เสียหายว่า "พี่ไม่มีเจตนา ต้องขอโทษด้วย พี่เองก็ใจร้อนไปหน่อย พี่ยอมรับผิด ตอนนี้พี่โดนทัวร์ลงเยอะมาก" ทางด้านจ่าเอกปัณณธร ผู้เสียหาย บอกว่า "ผมไม่ได้มีเรื่องติดใจอะไรกับพี่ พี่ก็อย่ามายุ่งกับผม ผมเเค่ไปนั่งกินข้าวเฉย ๆ"
จ่าเอกปัณณธร ผู้เสียหาย มีร่องรอยถลอกที่ใบหน้า มีเเผลฟกช้ำที่ศีรษะ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. ของวันที่ 28 ก.ย. ตนเองกับไปนั่งทานข้าวอยู่ที่ร้าน เพื่อรอเเฟนสาวเลิกงาน โดยวันเกิดเหตุเเฟนสาวเป็นสาวเชียร์เบียร์อยู่ในร้านดังกล่าว จากนั้นชายคนก่อเหตุ ซึ่งไม่ใช่ทหารก็เดินมาบอกตนว่ารู้จักผู้การฯ ท่านนี้ไหม ไปสวัสดีท่านหน่อย ตนเองก็ลุกยืนขึ้น เอามือแนบลำตัว ทำความเคารพท่านผู้การฯ
หลังจากทำความเคารพเสร็จ คนก่อเหตุก็เดินปรี่เข้ามาหาตนอีก แสดงท่าทีไม่พอใจ เข้ามาถามว่า "ไม่รู้จักท่านผู้การสรรพาวุฒิหรอ" และต่อว่าตนว่าไม่มีสัมมาคารวะ ทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อย จากนั้นก็มีเพื่อนคนก่อเหตุอีก 2 คน เข้ามารุมทำร้ายด้วย ตนเองโดนรุม 3 ต่อ 1 ซึ่งตนเองไม่เคยเจอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน มองว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่มารุมทำร้ายทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน
ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุมาขอโทษ ตนเองยังตอบไม่ได้ว่าจะให้อภัยหรือไม่ อยากรู้ว่าผู้ก่อเหตุจะรับผิดชอบตนอย่างไรมากกว่า เพราะตนก็เจ็บตัว ส่วนตัวไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต แต่ไม่อยากให้ผู้ก่อเหตุมายุ่งกับตนอีก
นายกฤตวิทย์ อังคุละนาวิน หรือ บอย อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุ บอกว่า วันเกิดเหตุตนเองไปที่ร้านกับครอบครัวและเพื่อน ไปเจอกับท่านผู้การกรมสรรพาวุฒิโดยบังเอิญ ซึ่งรู้จักกันเป็นการส่วนตัว จึงได้มีการนั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกัน ตอนเกิดเหตุยอมรับว่าเมาสุราอย่างหนัก จึงทำลงไปโดยไม่ยั้งคิด ตนเองต้องขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป อยากชี้แจงว่าไม่มีเจตนาจะอวดเบ่งหรือพาดพิงใคร สิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับท่านผู้การฯ แต่เกิดจากความเมาขาดสติของตัวเอง โดยหลังเกิดเหตุตนเองก็เกิดความสำนึกผิด อยากขอโทษผู้เสียหาย ยืนยันว่าหลังจากนี้เรื่องจะจบ จะไม่มีการตามทำร้ายกันอีกเเล้ว
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุอีก 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายสมพงษ์ สุขศิริ อายุ 33 ปี และนายพงษ์พัฒน์ สุขโน อายุ 36 ปี มีร่องรอยถลอกบนใบหน้า นายสมพงษ์ ระบุว่า ถูกผู้เสียหายต่อย ตอนแรกตนตั้งใจจะเข้าไปห้าม เนื่องจากรู้ว่านายบอย รุ่นพี่ของตนเริ่มเมาเเล้ว แต่พอเข้าไปตนก็โดนผู้เสียหายชกหน้าสวนกลับมาจึงเกิดการชุลมุนกัน ยอมรับว่าตนผิดเรื่องเหตุการณ์ในคลิป ซึ่งวันนี้ที่เดินทางมาโรงพักก็เพื่ออยากจะขอโทษผู้เสียหาย ทางฝั่งตนยอมจบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
นายพงษ์พัฒน์ พูดเพียงสั้น ๆ ว่าตนไม่ได้ต่อยผู้เสียหาย เพียงแต่เข้าไปห้าม และพยายามดึงตัวนายบอยออกมา กติไม่ค่อยดื่มเหล้า ซึ่งในวันเกิดเหตุตนได้พาหลาน และเด็ก ๆ ไปด้วย ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่องราวกับใคร
ด้านพลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก "Pichai Lorchusakul" พร้อมสถานะรู้สึกโมโห ระบุว่า "เรื่องข้าราชการกองทัพเรือถูกทำร้ายที่สัตหีบ ซึ่งน้องที่โดนทำร้าย เป็นนักกีฬาที่เรียบร้อย สุภาพ ไม่เคยไปอาละวาดระรานใคร นั่งทานอาหารในร้านอย่างเรียบร้อย แต่ไอ้_ะ_ำมันมาทำร้ายโดยไม่มีสาเหตุ ผู้บังคับบัญชาไม่นิ่งนอนใจจะต้องจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างดีที่สุด
:: สัตหีบควรจะเป็นเมืองที่สงบ น่าอยู่ เป็นเมืองที่เราเปิดเพื่อรับนักท่องเที่ยว อยู่กันแบบพี่แบบน้อง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และทุกคนมีรายได้ที่ดี นโยบาย ผบ.ทร.ที่จะจัดการพวกหทารนอกรีดก็เป็นไปอย่างเข้มข้น พฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียได้ลงโทษอย่างเด็ดขาด ปัจจุบันน่าจะไม่มีใครกล้าแหกคอก หรือถ้ามีก็น้อยมาก ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ก็อยู่กันอย่างสงบ จะมีก็พวกที่สร้างปัญหาแบบนี้ไม่มากเราต้องร่วมกันทุกส่วนที่จะกำจัดขยะในอ.สัตหีบของเราให้หมดไป และอยู่อย่างมีความสุข สงบ สามัคคี"
