เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 65 เมื่อเวลา 13.30 น. ตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ ได้รับแจ้งเหตุ ว่ามีเด็กนักเรียนจมน้ำอยู่ภายในสระน้ำข้างข้างสนามกีฬาหลวงไชยสุริยงค์ โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ที่เกิดเหตุพบเด็กหญิงพรพิมล อินทอง หรือ น้องพิ้งค์ อายุ 13 ปี เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 นอนจมน้ำอยู่ภายในหนองน้ำ สระข้างโรงเรียน ทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันที่ 24 ก.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังวัดประทุมสว่าง ต.ช่างปี่ จ.สุรินทร์ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของเด็กหญิงพรพิมล นางละอองดาว อินทอง อายุ 39 ปี แม่คนตาย เปิดใจว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองไม่ได้เดินทางไปที่โรงเรียน แต่ได้เดินทางตามไปที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงพบว่าทางโรงพยาบาลได้พยายามปั๊มหัวใจของลูกแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเนื่องจากลูกสาวขาดอากาศหายใจตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้ว
ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะไปจมน้ำ เพราะโดยปกติก็เคยเตือนกันตลอดว่าอย่าไปเล่นน้ำสาธารณะ เนื่องจากไม่รู้ความลึก ที่สำคัญลูกสาวว่ายน้ำไม่เป็น
ส่วนตัวเคยดูข่าวเกี่ยวกับเด็กจมน้ำ และแนะนำลูกสาวตลอดว่าอย่าไปเล่น วันดังกล่าวตนเองก็ทราบว่าลูกสาวไม่ได้ตั้งใจไปเล่น แต่เพียงแค่ไปถ่ายรูปให้กับเพื่อน และเดินเล่นอยู่บนขอบริมน้ำเท่านั้น จากนั้นเมื่อมีการสิ้นสุดการถ่ายคลิป ปรากฏว่าลูกสาวเดินไปเหยียบพลาดบริเวณจุดที่เป็นโคลน ลื่นลงไปในคลอง จนกระทั่งเพื่อนพยามช่วยกันช่วยเหลือ ร้องตะโกนเรียกให้ครูมาช่วยแต่ก็ไม่ทันเหตุการณ์ เพราะลูกสาวไถลลื่นลงไปในน้ำจุดที่ลึก
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยังทำใจต่อการจากไปของลูกไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะกะทันหันแบบนี้ และไม่คิดว่าเหตุการณ์จมน้ำจะเกิดขึ้นกับลูกด้วยซ้ำ แต่ในมุมหนึ่งตนเองก็ติดใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือ ที่เพื่อนกลุ่มนักเรียนไปเรียกให้ครูมาช่วย รวมทั้งเพื่อนบางคนพยายามช่วยเหลือ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวินาทีนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังติดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับการช่วยเหลือของทางโรงเรียน ในจุดที่พบร่างของลูกสาวก็ไม่ใช่จุดที่มีความลึกขนาดนั้น หากยืนขึ้นความลึกของน้ำจะเลยเนื้อหัวไปไม่ถึง 1 ไม้บรรทัด โดยตอนแรกตนเองทราบว่าจุดลูกสาวจมน้ำค่อนข้างลึก แต่ตอนที่พบร่างกับพบว่าอยู่ในจุดที่ไม่ลึก จึงค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย
ส่วนในเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตนเองก็อยากจะให้เคสของลูกสาวกลายเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสังคม เกี่ยวกับการไปเล่นน้ำในที่สาธารณะ และการเล่นมือถือที่ยืนอยู่ริมคลองหรือริมน้ำ ตนเองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพราะไม่อยากให้ครอบครัวอื่นเกิดความสูญเสียเช่นเหตุการณ์ของลูกสาว
สำหรับลูกสาวนั้นเป็นคนเรียนเก่ง ตอนที่จบประถมศึกษาปีที่ 6 มีเกรดเฉลี่ยถึง 3.2 และลูกสาวก็เป็นคนชื่นชอบในรายวิชาภาษาอังกฤษ และพยายามบอกกับตัวเองเสมอว่าหากโตขึ้นจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
น้องการ์ตูน (นามสมมติ) เพื่อนนักเรียน เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่ครูปล่อยก่อนเวลา แต่เป็นช่วงกิจกรรมซึ่งรอเลิกเรียนเวลา 17.00 น. คนตายได้ไปเล่นที่สระหลังโรงเรียน ซึ่งมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและชายรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 13 คน ไปด้วยกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่จะมีกลุ่มเพื่อนบางคนที่ว่ายน้ำเป็นลงไปเล่นน้ำในสภาพชุดนักเรียน น้องพิ้งค์ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ได้ลงไปเล่นด้วย ยืนถ่ายคลิปและถ่ายรูปให้กับเพื่อนเท่านั้น
แต่ภายหลังมีการถ่ายคลิปเสร็จแล้ว พิ้งค์เดินเล่นอยู่บริเวณริมสระ เหยียบโคลนซึ่งมีลักษณะลื่นไถลลงไปในน้ำ มือถือร่วงตกบนฝั่ง แต่ตัวของน้องพิ้งค์ไหลลงไปในน้ำ และเริ่มหลุดลงไปอยู่จุดที่มีน้ำลึก เพื่อนที่อยู่ด้วยกันบางส่วนวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากครู แต่บางส่วนทั้งผู้หญิงและผู้ชายรวมกัน 4-5 คน ใช้ลักษณะต่อตัวจับมือต่อกัน และเอื้อมปลายมือไปจับน้องพิ้งค์ที่กำลังจมน้ำ แต่ปรากฏว่าตัวของน้องพิ้งค์หลุดจากมือของเพื่อนคนสุดท้าย และไหลลงไปในน้ำที่มีความลึก เพื่อนช่วยเหลือไม่ทัน จึงทำให้จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา
ส่วนตัวในฐานะเพื่อนของน้องพิ้งค์ ที่เรียนและโตมาด้วยกัน ปกติแล้วน้องพิ้งค์จะเป็นคนเล่นน้ำเฉพาะสวนน้ำ หรือน้ำที่ไม่ลึก ไม่เคยที่จะลงเล่นน้ำในคลอง
ทั้งนี้ น้องการ์นตูน เพื่อนคนตาย เผยอีกว่า น้องพิ้งค์เป็นคนที่เรียนเก่งไม่ต่ำกว่าเกรด 3 และเป็นคนชื่นชอบวิชาภาษาอังกฤษมาก เคยวาดฝันอนาคตว่าอยากโตขึ้นมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้อายุของเพื่อนจะสั้น ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจที่เพื่อนมาจากไปด้วยเหตุการณ์แบบนี้
