“ชูวิทย์”เผยเห็นตัดสินคดีโรงพัก อดเทียบเคียงคดีจำนำข้าวไม่ได้ ชี้จะโกงเงินหลวงจะกี่บาทก็ถือว่าผิดคือผิด
วันที่ 21 ก.ย.หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รอดบ่วงกรรม กว่า 10 ปี คดีอื้อฉาวแห่งยุค ร่วมฮั้วประมูล สร้าง 396 โรงพักทดแทน รวมมูลค่า 5,848 ล้านบาทพร้อมๆ กับจำเลยอีก 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผบ.ตร., พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่นจำกัด และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ นั้น
ล่าสุด นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความเรื่องนี้ โดยเปรียบเทียบคดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว ความเหมือนที่แตกต่างโดยมีรายละเอียดว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคุณสุเทพ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงรองนายกฯ ผู้กำกับดูแลนโยบาย ครม.อนุมัติโครงการนี้เพียงหลักการเฉพาะเรื่อง “เปลี่ยนรูปแบบการลงทุน” ส่วนวิธีการจัดจ้าง เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ อีกทั้ง คุณสุเทพมีหน้าที่เพียง “กำกับดูแลนโยบาย” โดยทั่วไป การเซ็นอนุมัติรวมสัญญาตามที่ สตช.เสนอมาก็ไม่ต้องผ่าน ครม. สรุปยกฟ้อง ไม่ผิด ม.157
ส่วนจำเลยอื่นไม่ปรากฏว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้เสนอขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง หรือมีวิธีการที่มิชอบอื่นๆ เมื่อคำพิพากษามาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ
เพียงแต่ทำให้ผมหวนคิดถึง “คดีจำนำข้าว” ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ “กำกับดูแลนโยบาย” เช่นกัน
แค่คิดเปรียบเทียบเท่านั้น เพราะผมเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายอะไรลึกซึ้ง
อย่าคิดว่าผมไปเข้าข้างใคร บาปกรรมตาย
ระหว่าง คดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว
คดีหนึ่งไม่พบหลักฐานการทุจริต อีกคดีหนึ่งพบหลักฐานการทุจริต
แต่ก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบาย และไม่พบว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้มีการทุจริตเหมือนกัน
ผมหมายถึงระดับ นายกฯ และรองนายกฯ นะครับ
แม้ความเสียหายจะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน
แต่จะเสียหายเงินหลวง บาทนึง หรือเป็นหมื่นล้าน
ผิดคือผิด ถูกคือถูก
ประชาชนอย่างผมก็คิดได้เท่านี้
มิน่าเล่า ผมถึงไม่รุ่งทางการเมืองเหมือนคนอื่นเขา