จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ชื่อว่า Heart MyHeart ได้โพสต์คลิปวีดีโอขณะที่ทางเจ้าตัวขับรถไปส่งอาหารให้ลูกค้ารายหนึ่ง แล้วเกิดมีปากเสียงกัน หลังลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ปรากฎในคลิป
โดยทางเจ้าของคลิปได้โพสต์แจ้งเตือนภัยพร้อมระบุข้อความเพิ่มเติมว่า "ฝากเตือนภัย rider นะครับลูกค้าชื่อ น พิกัด อ่อนนุช ไรเดอร์ระวังกันด้วยนะครับ ทำเหมือนสแกนจ่ายเงินแล้วเดินหนีเข้าคอนโด ดีที่ผมไหวตัวทันผมรีบเดินไปขวาง"
โดยในคลิปดังกล่าวลูกค้าสาวพูดจาวกวนบอกกับไรเดอร์ว่า "คุกเข่าแล้วกราบค่ะ แล้วให้พิชซ่าเราฟรีเดี๋ยวนี้ ไม่ได้เหรอคะ ตกอเวจีปอยเปต แสนล้านภพ แสนล้านชาติ ชั่วนิจนิรันดร์เดี๋ยวนี้ค่ะ ห้ามแตะตัวผู้เป็นเจ้านะคะ สองแสนล้านภพ สองแสนล้านชาติเดี๋ยวนี้ ยืนนิ่ง ๆ คืนไม่ได้ค่ะ หนูสงสารพวกคุณนะคะ พยายามเข้านะคะ สามแสนล้านภพสามแสนล้านชาติในนรกอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ สี่แสนล้านภพสี่แสนล้านชาติ ในอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ ช่วยตัวเองหน่อยสิคะ เดินออกประตูไปค่ะ 760 บาท เสียไม่ได้เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ เหรอคะ ห้าแสนล้านภพห้าแสนล้านชาติในอเวจีปอยเปตเดี๋ยวนี้ค่ะ เดี๋ยวนี้ค่ะ เดี๋ยวนี้ค่ะ" ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้หลายคนต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด 14 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปพูดคุยกับทาง นายปฐมพงศ์ (นามสมมติ) ไรเดอร์หนุ่มเจ้าของโพสต์ ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุเกิดประมาณช่วงเวลา 1 ทุ่มกว่า โดยตนเองปกติทำงานประจำพอเลิกงาน 4 โมงเย็น ก็จะรับจ็อบขับรถส่งอาหาร โดยจะทำงาน 4 โมง ถึง 3 ทุ่ม
เมื่อวานนี้ หลังจากร้านอาหารที่ตนทำงานอยู่ ได้รับออเดอร์จากลูกค้าช่วงเวลาประมาณ 6 โมง เกือบ 1 ทุ่ม ตนเองก็ได้โทรไปยังลูกค้ารายดังกล่าวเพื่อคอนเฟิร์มออเดอร์อีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นทางปลายสายรับสายปกติและได้คอนเฟิร์มออเดอร์กันเรียบร้อย เขาบอกว่าคอนเฟิร์มเป็นร้อนพันหมื่นครั้งแล้วถ้าไม่มาภายใน 5 นาที ขอให้ฉิบหายวายป่วง ตอนนั้นตนเองก็อึ้งและตกใจ แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะคงเข้าใจว่าคงโมโหหิว
ผ่านไปประมาณ 10 นาที ตนเองก็ได้ขับรถนำพิชช่าไปส่ง และโทรหาลูกค้ารายดังกล่าวอีกครั้ง เขาเองก็ตอบรับว่าเดียวจะลงมาเอา ผ่านไปสักครู่ทางลูกค้ารายดังกล่าวก็ได้ลงมารับอาหาร เท่าที่สังเกตเขาเองอายุประมาณ 30 ปี ตนก็ส่งมอบตามปกติ ก่อนที่ทางลูกค้าจะบอกว่าขอสแกนจ่าย ทางตนก็ได้ให้สแกนแต่ปรากฎว่าเขาทำท่าทางเหมือนจะสแกนแต่ไม่ได้กดเข้าสแกนจริง ประจวบกับยอดเงินไม่เข้า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทางลูกค้ารายดังกล่าวพยายามจะแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าไปในคอนโด
ตนเองก็เห็นท่าไม่ดีเลยตัดสินใจขว้างประตู และบอกว่าขอดูสลิปอีกครั้งเพราะเงินยังไม่เข้า เขาเองก็พยายามบ่ายเบี่ยงและจะเข้าไปภายในคอนโดให้ได้ ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะด่าทอตนด้วยภาษาแปลก ๆ และไม่ยอมคืนของหรือจ่ายเงิน ตนเลยตัดสินใจถ่ายคลิปตามที่ปรากฎออกไป
ทั้งนี้เหตุการณ์หลังจากที่ปรากฎในคลิปแล้ว ตนได้พยายามพูดขอพิซซ่าคืน แต่สาวคนดังกล่าวก็ไม่ยอม จนเจ้าหน้าที่ รปภ. และนิติของคอนโดได้เข้ามาสอบถาม ตนพยายามอธิบายให้เขาฟัง จนทางนิติเกลี่ยกล่อมให้ลูกค้ารายดังกล่าวคืนของไป แต่เขาบอกว่าจะสแกนจ่ายเงินอีกครั้ง ตนก็ยอมให้เขาสแกน แต่สุดท้ายก็ไม่มียอดเงินเข้า จนคุยไปคุยมาทางนิติก็บอกให้เขาคืนของ เขาเองก็ยอมคืน ตนก็เลยขับรถออกมาพร้อมของจำนวน 790 บาท เพื่อนำส่งคืนบริษัท โชคดีที่ตนได้ถ่ายคลิปไว้ทางบริษัทเองเลยเข้าใจและไม่ได้ปรับตน
ส่วนตัว ตนค่อนข้างเสียความรู้สึกและเสียเวลา มองกลับกันว่าวันนั้นถ้าตนปล่อยให้เขาเอาพิชซ่าไป เงินจำนวน 790 บาท ตนเองก็ต้องจ่าย ทั้งที่รายได้จากการขับรถส่งอาหารของตนอยู่ที่ 400-500 บาท ต่อวัน เท่ากับตนไม่ได้ค่าจ้างวันนั้น แล้วยังต้องออกเงินชดไปอีก จากกรณีที่เกิดขึ้นตนมองได้ 2 มุม มุมแรกที่ตนเห็นคือจะมีบางช่วงบางตอนที่เขาสามารถสื่อสารได้ปกติ ตนพูดหรือบอกอะไรเขาเองก็ตอบด้วยถ้อยคำปกติ หากเขาป่วยทำไมเขาสามารถสั่งพิชช่าหรือสั่งของได้ตามปกติ แต่อีกมุมหนึ่งตามที่เห็นเขาเองก็พูดแปลก ๆ คล้ายคนป่วย
ทางทีมข่าวได้เดินทางไปคอนโดของหญิงสาวรายดังกล่าวย่านสุขุมวิท 77 ปรากฎว่า คอนโดดังกล่าวเป็นคอนโดขนาดใหญ่ มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนา ไม่สามารถให้คนนอกเข้าไปภายในคอนโด ยกเว้นลูกบ้านที่มีคีย์การ์ดเท่านั้น
ทางทีมข่าวได้สอบถามกับทางลูกบ้านรายหนึ่งและให้เขาเองดูคลิปที่ปรากฎ ซึ่งทางเจ้าตัวบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากคอนโดดังกล่าวจริง ๆ ค่อนข้างเป็นการส่วนตัว ต่างคนต่างอยู่ และช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่ได้อยู่คอนโด ทั้งนี้ทีมข่าวพยายามสอบถามไรเดอร์หรือแม่ค้าแถวนั้น ก็ยืนยันว่าไม่เคยเจอหญิงคนดังกล่าว อีกทั้งในคลิปเองปรากฎแค่เสียงไม่ปรากฎหน้าเลยค่อนข้างยากที่จะตามหาตัว
