รถขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา พลิกคว่ำ เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 คนขับหนี

28 ส.ค. 65

ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา พลิกคว่ำถนนสาย สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ พบผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 คนขับหนี

 

เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ ร.ต.อ ธารา ณวานิช รอง.สวส.สภ.สังขละบุรี ปฎิบัติหน้าที่ร้อยเวร.สภ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งพลิกคว่ำบริเวณถนนสาย 323 สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ บริเวณหน้าร้านครัวจัดจ้าน จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครพิทักษ์กาญจน์ (จุดสังขละบุรี)

 

พบรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อ สีบรอนซ์ ทะเบียนเชียงใหม่ พลิกคว่ำในคูระบายน้ำข้างทาง สภาพเสียหายหนักภายในพบศพแรงงานชาวเมียนมา 4 ศพ ชาย 3 หญิง 1 ไม่ทราบชื่อและอายุ โดย 1 ใน 4 เป็นเด็กชายอายุประมาณ 13-14 ปี จึงได้ประสานแพทย์โรงพยาบาลสังขละบุรีเข้ามาชันสูตรการตาย ก่อนจะทำการส่งศพทั้ง 4 ไปยังสถาบันนิติเวช กทม.เพื่อทำการพิสูจน์และเก็บรักษาศพ เพื่อสืบหาญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายต่อไป

 

ทั้งนี้จากการบอกเล่าของนายธีรศักดิ์ ศรีนวล ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าขณะเกิดเหตุตนเองขับรถมาพักนอนที่ปั๊ม ปตท.สามแยกซองกาเลีย ซึ่งห่างจากจุดรถพลิกคว่ำประมาณ 20 เมตร ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังตนจึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่ามีคนหนีตายออกมาจากรถ 8-9 คน นอกจากนั้นยังพบชาย 2 คนวิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนขับรถคันดังกล่าว 

 

ขณะที่ 1 ในอาสามัครพิทักษ์กาญจน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนรับแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.สังขละบุรี 1 ราย ส่วนอีก 8 รายเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่ง รพ.สังขละบุรี 

 

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นรถยนต์คันดังกล่าวรับแรงงานต่างด้าวมาทั้งหมด 13 คน โดยน่าจะรับแรงงานทั้งหมดมาจากพื้นที่ ม 8 บ้านซองกาเลีย ตงหนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อเดินทางต่อไปยังพื้นที่ชั้นในแต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน คาดว่ารถน่าจะวิ่งมาด้วยความเร็วประกอบการเส้นทางช่วงนี้เป็นทางโค้งประกอบกับน้ำหนักที่บรรทุกเกินทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ จากการตรวจสอบภายในรถเบื้องต้นพบว่ามีการถอดที่นั่งด้านข้างคนขับและด้านหลังออกทั้งหมดเหลือเพียงที่นั่งคนขับ

 

ขณะที่ พ.ต.อ ธนกร รอดเรือง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนฯสภ.สังขละบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานพยาบาลในพื้นที่ อ.สังขละบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อขอข้อมูลผู้เข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวันนี้โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 น เพื่อติดตามจับกุมคนขับรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี พร้อมกับสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามภาพรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเนื่องจากมีข้อมูลว่าช่วงเกิดเหตุมีรถกระบะสีดำ มารับคนขับรถคันเกิดเหตุออกจากพื้นที่ก่อนเจ้าหน้าตำรวจจะเดินทางมาถึง

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส