ชาวสวนจังหวัดพิษณุโลก โค่นต้นมะม่วงโชคอนันต์ทิ้ง หลังราคาตกและขายไม่ได้ ช่วงโควิดระบาด หันมาปลูกฝรั่งไต้หวันเนื้อสีแดง หงเป่าสือ และเฟิ่นหงมี่ ขายดีทางออนไลน์ทั้งผลและกิ่งพันธุ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ฝรั่งไต้หวันเนื้อสีแดง เฟิ่นหงมี่ ที่รสชาติหวานอร่อย และ พันธุ์หงเป่าสือ เม็ดน้อยถึงไม่มี หวาน กรอบ อมเปรี้ยว เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจากทั่วประเทศ รวมถึงเกษตรกรที่ต้องการเพาะปลูกเพื่อจำหน่ายผลผลิต เนื่องจากผลผลิตยังไม่เพียงพอต้องการบริโภค ทำให้ได้ราคาขายกิโลกรัมละ 100 บาท หากผิวไม่สวยกิโลกรัมละ 70 บาท ส่วนกิ่งพันธุ์ เริ่มต้นที่ 150-200 บาท และ 300 บาท ตามขนาด
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับ นางสาวณัฐวรารินทร์ เม้งมั่งมี หรือโอ๋ อายุ 44 ปี เจ้าของ ณัฐวรารินทร์ฟาร์มบ้านสวนพิดโลก ที่ บ้านย่านยาว หมู่ 11 ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเธอใช้เวลาเพียง 1 ปีกว่าก็สามารถใช้พื้นที่สวนหน้าบ้านและหลังบ้านประมาณ 2 ไร่ ปลูกฝรั่งสายพันธุ์ หงเป่าสือ และเฟิ่นหงมี่ ขายผลผลิตและขายกิ่งพันธุ์ ได้เงินคืนทั้งหมดที่ลงทุนประมาณ 75,000 บาท จากการโค่นสวนมะม่วงโชคอนันต์และปรับพื้นที่เตรียมปลูกได้ไม่ยาก
นางสาวณัฐวรารินทร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ฝนตกต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่งผลเสียให้แก่ผลฝรั่งในสวนเป็นอย่างมาก ผลฝรั่งได้รับความเสียหายจาก โรคแอนแทรคโนส ทำให้ผลผลิตเสียหายไปครึ่งต่อครึ่ง จึงทำให้ไม่สามารถส่ง ฝรั่งหงเป่าสือ และเฟิ่นหงมี่ ให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาทางออนไลน์จากทั้งในและต่างจังหวัดได้ ในช่วงนี้จึงเร่งนำเอาต้นตอฝรั่งขี้นกมาทาบกิ่งเพาะขยายกิ่งพันธุ์จากต้นส่งขายไปก่อน
ส่วนความเป็นมาของการทำสวนฝรั่งครั้งนี้ นางสาวณัฐวรารินทร์ เล่าว่า ตอนแรกสวนนี้เป็นสวนมะม่วงโชคอนันต์ เป็นผลไม้ที่ไม่ต้องดูแลเยอะและครอบครัวยังเลี้ยงปลากระชังควบคู่ไปด้วย สวนมะม่วงได้รับผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล้งที่เคยรับซื้อมะม่วงกิโลกรัมละ 1-2 บาท ไม่เข้ามารับซื้อเหมือเดิม ตนเองต้องเก็บมะม่วงและขายออนไลน์แทน ในราคากิโลกรัมละ 8 บาท กล่องละ 10 กิโลกรัม ส่งให้ลูกค้า ซึ่งเหนื่อยมากกว่าจะได้เงิน 800 บาท เพราะต้องเก็บ ล้างให้สะอาดและแพ็ก เนื่องจากเป็นการปลูกแบบปล่อยธรรมชาติ จึงปรึกษาพี่ชายและเดินทางไปดูแปลงปลูกฝรั่ง ที่วังน้ำเขียว ได้ทดลองชิมก็พบว่าเป็นฝรั่งที่มีรสชาติอร่อย จึงกลับมาเตรียมพื้นที่โค่นต้นมะม่วงโชคอนันต์ทิ้งทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่คนในพื้นที่ไม่ค่อยเห็นด้วย จากนั้นได้นำเอากิ่งพันธุ์มาปลูก ช่วง 6 เดือนแรกไม่ต้องดูแลเยอะ แค่คอยกำจัดวัชพืช วางถุงปุ๋ยมูลสัตว์ตามโคนต้น เริ่มขายผลได้ตั้งแต่หลังจากปลูกประมาณ 6 เดือน และใช้เวลาประมาณ 1 ปี 2 เดือน ได้เงินคืนทุนจากการขายผลและกิ่งพันธุ์
สำหรับผู้สนใจต้องการเรียนรู้การเพาะปลูกฝรั่ง สามารถมาหัดทาบกิ่ง มาหัดห่อผลฝรั่งได้ นางสาวณัฐวรารินทร์ยินดีให้คำปรึกษาไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างไร หรือนักท่องเที่ยวต้องการมาเที่ยวชมสวนฝรั่งสายพันธุ์ หงเป่าสือ และเฟิ่นหงมี่ สามารถไปกันได้ที่ ณัฐวรารินทร์ฟาร์มบ้านสวนพิดโลก ที่ บ้านย่านยาว หมู่ 11 ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก หรือจะติดต่อสั่งซื้อได้ในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนผู้ที่ต้องการกิ่งพันธุ์สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0954924996 หรือเฟซบุ๊ก Nu-Ao Meng
