วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ระดมวิศวกรหั่วกระทิ ตรวจ "เมาน์เทน บี" เบิ้งต้น ตำแหน่งของอาคารอยู่คนละจุดกับพื้นที่ก่อสร้างจริง
นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ( วสท. ) พร้อมผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรม ในด้าน วิศวกรรมการไฟฟ้า , วิศวกรรทป้องกันอัคคีภัย , วิศวกรรมโยธา เดินทางมาที่ สภ.พลูตาหลวง เพื่อเข้าร่วมรับฟังสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวน กรณีไฟไหม้ สถานบริการเปิดใหม่ ไฟไหม้เม้าน์เทน บี ในด้านการชี้ความเสียหายของภาครัฐ ทั้งเรื่องโครงสร้าง และ ด้านความปลอดภัย หลังจากฟังรายละเอียดในที่ประชุมได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นางสาวบุษกร แสนสุข พร้อม ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง และ เจ้าหน้าที่วิศวกร ได้เข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร และ รอบๆบริเวณ นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยมีบันทึกภาพตามจุดสำคัญ และ เก็บหลักฐานสำคัญหลายอย่าง อาทิ โฟมฉนวนกันเสียง สายไฟ รวมถึงแบบการก่อสร้าง เพื่อนำกลับไปประชุมสรุปผล แล้วจะส่งมาเพื่อจะใช้เป็นการประกอบสำนวนคดีอีกครั้ง
นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ( วสท. ) กล่าวว่า ทางทีมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะเข้ามาตรวจสอบสภาพโครงสร้างอาคารรวมถึงข้อมูลระบบความปลอดภัยทั้งหมด โดยจะดูรายละเอียดของแบบแปลนอาคารพร้อมดูจากสภาพการก่อสร้างจริง เพื่อนำมาเปรียบเทียบรวมทั้งจำนวนทางหนีไฟ
ทั้งนี้หลังลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นในส่วนของตำแหน่งของอาคารมีการขออนุญาตอยู่อีกจุดหนึ่งของพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งมีการสร้างห่างจากจุดที่ขอถึง 50 เมตร ส่วนสภาพภายในจากแผนผังไม่ตรงกับแบบแปลนที่ขออนุญาต ส่วนรายละเอียดระบบความปลอดภัยพยว่าจำนวนทางออกทำให้มีอุปสรรคในการให้คนออกจากตัวอาคารทั้งความกว้างและการล็อคประตูด้านหลัง
สำหรับวัสดุการก่อสร้างเป็นวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทั้งนี้ส่วนระบบการเดินสายไฟได้มีการเก็บข้อมูล เพื่อนำรายละเอียดไปวิเคราะห์ ก่อนสรุปข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่จะมีการสอบถามไป ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นของการติดตั้งระบบไฟฟ้าพบว่ายังไม่ได้มาตรฐาน ตามหลักวิศวะกรรมไฟฟ้าอย่างครบถ้วน โดยคาดว่า1-2 สัปดาห์จะสามารถสรุปรวบรวมเอกสารหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาใช้ประกอบสำนวนคดีต่อไป
