กรณีเพจเฟซบุ๊ก "ยักษ์คู่ หมูกระทะ - พระราม8" ลงคลิปเหตุการณ์ระทึก ชายคลั่งเอามีดมาไล่ฟันคนในร้านหมูกระทะ เพจดังกล่าวระบุข้อความว่าขอโทษลูกค้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขอไม่คิดเงินกับลูกค้าทุกท่าน รวมถึงยังระบุว่าได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันแล้ว
วันที่ 9 ส.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังร้าน ยักษ์คู่ หมูกระทะ - พระราม 8 ถนนอรุณอมรินทร์ 36 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยร้านหมูกระทะอยู่ติดถนนใหญ่ ภายในร้านพบโต๊ะ และผนังที่พังเสียหาย ส่วนจาน-ชามที่พังเสียหาย เจ้าของร้านได้เก็บไปทิ้งแล้ว
นางสาวจุฑาลักษณ์ นิยมชื่น อายุ 25 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.30 น. นายนนท์ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินมาที่ร้าน และได้หาเรื่องพนักงานในร้าน ขณะนั้นยังไม่มีมีดมาด้วย และถามว่า “มึงมองหน้ากูหรอ” พนักงานจึงตอบว่าไม่ได้มอง หลังจากนั้นนายนนท์จึงมานั่งเก้าอี้ ท่ามกลางลูกค้าที่อยู่จำนวนมาก และนายนนท์พูดหาเรื่องพนักงานในร้านว่า ”มึงเอาน้ำมาล้างตีนกูสิ”
หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มไม่ดี ทางพนักงานร้านและเจ้าของร้านจึงได้เดินเข้าไปไล่นายนนท์ให้ออกจากร้าน โดยใช้เก้าอี้ไล่นายนนท์ นานยนนท์ก็ต่อสู้และใช้เก้าอี้ฟาดกลับเช่นกัน ผ่านไปไม่นาน ประมาณ 5 นาที นายนนท์จึงกลับมาพร้อมกับมีดอีโต้ และเข้ามาหาลูกค้าในร้านก่อนที่พนักงานตนเองจะล่อให้นายนนท์เข้าไปหาโดยนายนนท์พยายามจะเดินขึ้นชั้นสองของบ้านด้วย ตนเองกลัวมากเนื่องจากมีลูกสาวอยู่ด้านบนบ้าน ขณะที่ลูกค้าภายในร้านของตนเองจำนวน 15 โต๊ะ ได้วิ่งหลบหนีออกไปบริเวณหน้าร้าน บางส่วนอยู่บนสะพานลอย
โดยนายนนท์มีการขว้างปาข้าวของในร้าน ก่อนที่พนักงานจะหยิบไม้เบสบอลขึ้นมาป้องกันตัว นายนนท์จึงวิ่งไปหาลูกค้าที่อยู่ภายนอกร้านแทน และยังฟันรถเก๋งของลูกค้าเสียหายไป 2 คัน โดยหลังจากเกิดเหตุจู่ ๆ นายนนท์ก็เดินหายกลับไป ซึ่งจากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นทั้งโต๊ะเก้าอี้ถ้วยใส่อาหารและจานมูลค่าประมาณ 40,000 บาท นอกจากนี้ ตนเองยังขอไม่คิดเงินกับลูกค้าทั้งหมดจำนวน 15 โต๊ะ มูลค่าประมาณ 8,000 บาทด้วย
ตนเองรู้สึกเสียใจและกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้แทบจะไม่เคยเห็นหน้าชายคนนี้มาก่อน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปดำเนินคดีที่ สน.บางยี่ขันแล้ว ส่วนครอบครัวก็ได้ติดต่อมาขอโทษในเบื้องต้น ตนเองอยากจะฝากว่าหากคนในครอบครัวป่วยหรือเข้ารับการรักษาจิตเวชควรจะดูแลให้ดีกว่านี้ อย่าปล่อยให้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อวานนี้มีเด็กหลายคนร้องไห้เสียขวัญอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายอนุชา ยับสันเทียะ อายุ 29 ปี พนักงานที่ต่อสู้กับผู้ก่อเหตุ นำไม้เบสบอลที่ใช้ป้องกันตัว เล่าว่า นายนนท์เดินมาหาตนเอง ตอนแรกคิดว่าลูกค้าจะซื้อไอศกรีม แต่นายนนท์มาผลักอก และถามว่า “มึงมองหน้ากูหรอ” ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่เคยมีเรื่องกับนายนนท์มาก่อน จนนายนนท์ไปนั่งเก้าอี้ และพยายามหาเรื่อง ตนเองกับพนักงานคนอื่นจึงไล่ไป
ผ่านไป 5 นาที นายนนท์กลับมาพร้อมมีด ตนเองตกใจมาก และนายนนท์พยายามจี้มีดไปหาลูกค้าตนเองจึงใช้ไม้เบสบอลป้องกันตัว และตีนายนนท์ที่แขน 1 ครั้ง ก่อนที่นายนนท์พยายามจะขว้างปาของเข้ามาหา ยอมรับว่ากลัวนายนนท์จะปามีดเช่นกัน ตนเองยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับนายนนท์มาก่อน เตยเห็นผ่าน ๆ เท่านั้น
ทีมข่าวเดินทางไปพบญาติของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยอรุณอมรินทร์ 36 ห่างจากร้านที่เกิดเหตุเพียง 10 เมตร ลุงของนายนนท์ ให้ข้อมูลว่า พ่อแม่หลานชายเสียชีวิตไปแล้ว อยู่กับคนแก่ไป ๆ มา ๆ ไม่ค่อยอยู่บ้าน และมีอาการจิตเวช และยังติดยาเสพติด ก่อนหน้านี้เพิ่งออกจากการรักษามา 1 เดือน และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอาการแบบนี้ เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดหลานครบ 23 ปีพอดี
ตอนเกิดเรื่องตนเองไม่ได้อยู่บ้าน พอกลับมาก็เกิดเรื่องแล้ว หลังเกิดเรื่องจึงประสานนำส่งตำรวจ ยืนยันไม่ประกันตัว ขณะที่ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาคือ เสพยา ข่มขู่ให้กลัว ทำให้เสียทรัพย์ และพกพาอาวุธมีด ส่งฝากขังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว
