หวิดถูกตบคว่ำ! ไอ้เมาชนวินชรา ลากรถบดถนน เหยื่อแฉถ้าไม่โดดหนีคงตายโหง (คลิป)

กรณีเหตุการณ์ระทึกขวัญบน ถ.สายรัตนราช ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อเย็นวันที่ 7 ส.ค. 65 มีรถกระบะมาสด้า สีขาว คันหนึ่งพุ่งชนรถจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่ง ก่อนจะขับหลบหนี ทั้งที่รถจักรยานยนต์ยังติดคาหน้ารถไปด้วย

โดยไปถูกชาวบ้านและคนขับวินพร้อมตำรวจ สภ.บางบ่อ ช่วยกันสกัดจับกุมตัวเอาไว้ได้ ที่คอสะพานข้ามคลองสำโรง ถ.สายบายพาสบางบ่อ ห่างจากจุดชนประมาณ 1 กิโลเมตร

วันที่ 8 ส.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ นายสมหมาย อ่ำเอี่ยม อายุ 41 ปี วิน จยย. รับจ้างเบอร์ 102 พลเมืองดีตามไล่ล่ากระบะ เล่าว่า กระบะเหมือนจงใจหนีหลังชนลุงขับวินวัยเกือบ 60 ปี ซึ่งขี่รถอยู่แล้วมีพลเมืองดีมาช่วยลุงออกไป ตอนนั้นตนพยายามมองแต่ก็ไม่คิดว่าจะหนีจริง ๆ เพราะหลังชนก็จอดนิ่ง

แต่พอลุงออกจากตัวรถเท่านั้น คนขับรถกระบะมาสด้าก็ออกตัวหนีทันที ขณะเดียวกันยังพบเจ้าของรถกระบะมิสซู ซึ่งตามมาสด้ามาติด ๆ ก็ขับตามตูดไป

จากนั้นตนรอจังหวะหลังมาสด้าออกไปได้สักพักถึงขี่รถตาม เพราะว่าเห็นว่าสภาพไม่ปกติแล้ว แต่ถ้าตามไปติด ๆ เกินไปจะเป็นอันตรายได้ เมื่อไปถึงก็พบชาวบ้าน วินและคนขี่รถส่งอาหารกว่า 20 คน ได้ยืนล้อมเรียกให้คนขับมาสด้าจอดและลงมาจากรถ เพราะรถก็ติดขัดด้วย ก่อนได้ยินเสียงคนขับมาสด้าบอกว่าขอเอารถไปแอบก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจมารวบตัวใส่กุญแจมือ

สำหรับเมื่อวาน ถ้าชาวบ้านไม่ช่วยกันรถก็คงติดยาว รวมถึงขับหนีไปไกลเป็นกิโลเมตร อันตรายมาก ด้านกระบะมิสซูเองก็ตามไปทันควัน บอกกับตนว่าถูกชนมาตั้งแต่ กม.8 และขับตามมาติด ๆ แต่เบื้องต้นเรียกประกันตามมาเครียร์แล้ว

นายสัมฤทธิ์ แสงอาทิตย์อุทัย อายุ 58 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนไปส่งของในซอยก่อนจะเลี้ยวออกมาซึ่งเปิดไฟเลี้ยว และขี่ชิดซ้ายมาได้ 200 เมตร กำลังจะเข้าเกียร์ 3 เร่งเครื่องขึ้นนิดหน่อย จู่ ๆ ถูกชนท้ายอย่างจัง เสียงดังตู้มแบบไม่รู้ตัว และงง หันไปดูรถพบสภาพท้ายพังไปครึ่งหนึ่ง รู้สึกตกใจมาก

จากนั้น พยายามหันมองคนขับรถกระบะพบสภาพไม่ปกติ คาดการณ์ไว้ก่อนว่าเมาแน่นอน คิดในใจว่ามันเอารถตนไปกินแน่ ตนจึงพยายามเอาตัวออกจากรถ เพราะก็ไม่รู้ว่าตัวเองเจ็บตรงไหน รู้สึกแค่ชาไปหมด ส่วนใบหน้าที่กระแทกกับอะไรไม่รู้ รู้สึกตัวทีหลังฟันโยก 2 ซี่

ซึ่งจังหวะออกมาได้กระบะก็ใส่เกียร์ออกตัวไปเลย ตนยืนงง คิดในใจว่า "รถกูจะไปไหนวะเนี่ย จะไปหลุดตอนไหน" ก่อนตั้งสติขอให้วินด้วยกันขี่ตามไปดูให้หน่อย ก่อนพบว่ารถไปสุดทางอยู่แถวสะพาน ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณชาวบ้านและคนที่ใช้เส้นทางช่วยดักให้รถกระบะหยุด ก่อนมาทราบภายหลังว่าคนขับรถมาสด้าก่อเหตุชนรถกระบะมาก่อนหน้านี้แล้ว ตนเองมองว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะมีสำนึกรู้ผิดเพราะหากรู้ตัวว่าตนเองผิดจะต้องหยุดตั้งแต่รอบแรกแล้ว

จากนั้นเดินทางไปเคลียร์กันที่โรงพักคนขับรถมาสด้าไม่ได้สติ ตนเองจึงพูดกับคนขับรถสั้น ๆ ว่า “ทำแบบนี้ใช่คนรึป่าว” ก่อนที่คนขับจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าตน แต่ไม่พูดอะไร เหตุการณ์ทั้งหมดจบลงด้วยดีโดยมีภรรยาและลูกสาวและญาติ ๆ ของคนขับรถกระบะมาสด้า 5 คนมาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกับตน ซึ่งตนเห็นหน้าภรรยาคนขับแล้วรู้สึกสงสาร จึงเรียกค่าเสียหายของรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 16 จุด มูลค่าความเสียหายแค่ 10,000 บาท และค่าขาดประโยชน์จากการทำงานเพียง 500 บาทเท่านั้น